บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:

Home Product Center (HMPRO TB) ฟื้นตัว คาดกำไรไตรมาส 1Q65

แนวโน้มฟื้นตัวดี คงคำแนะนำ ซื้อ

เราคาดว่ากำไรสุทธิ 1Q65 จะอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +27.5% YoY (ประกาศงบปลาย เดือน เม.ย. หรือต้นเดือน พ.ค.) หากเป็นไปตามประมาณการของเรากำไรไตรมาส 1Q65 จะเป็น 27% ของประมาณการทั้งปีของเรา ขณะที่แรงกดดันด้านต้นทุนยังคงเพิ่มสูงขึ้น แต่ HMPRO มีกลยุทธ์ที่จะรับมือได้ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีรายได้ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าบริษัทจะประสบความสำเร็จในการผลักดันยอดขายและเพิ่ม อัตรากำไรได้หรือไม่ เรายังคงประมาณการกำไรตามเดิม และคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 66 อยู่ที่ 17.1 บาท (WACC 7.5% และ G 3%)

ยอดขายและอัตราการเช่าฟื้นตัวช่วยหนุนรายได้เติบโต

เราคาดว่ารายได้ 1Q65 จะเพิ่มขึ้น 9.5% YoY เป็น 1.73 หมื่นล้านบาท หนุนโดยยอดขายเติบโต 8.6% (อิง SSSG 3% HomePro 2-3% และ Mega Home 7%) และรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น 26.9% เนื่องจากอัตราการเช่าใน Market Villages ฟื้นตัวเป็นเกือบ 95% โดยมีส่วนลดค่าเช่าน้อยลงเป็นประมาณ 10-15% เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 31% ทรงตัว QoQ แต่ดีกว่า 1Q64 ที่ 28.4% ที่ได้รับผลกระทบจากรายได้อื่นที่ลดลง ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นของการขายสินค้าคาดว่าอยู่ที่ 27.5% สูงกว่า 1Q64 ที่ 25.7% ตามการปรับราคาสินค้าคงคลังของปี 64 ที่มีราคาต่ำกว่า และสัดส่วนสินค้าเฮาส์แบรนด์เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 20% อัตรากำไรจากการดำเนินงานคาดไว้ที่ 13% ดีกว่า 4Q64 ที่ 12.7% และ 1Q64 ที่ 11.4% จากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโควิดที่ลดลง ผู้บริหารคาดว่าค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะยังคงอยู่ในระยะสั้น แต่น่าจะต่ำกว่าปี 64 จากสถานการณ์ที่ดีขึ้น เราคาดการณ์กำไรสุทธิ 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.5% YoY

มีแรงกดดันเงินเฟ้อ แต่บริหารจัดการได้

แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดความเสี่ยงต่ออุปสงค์ แม้ว่าลูกค้าเป้าหมายของ HMPRO จะเป็นกลุ่มที่มีฐานะค่อนข้างดี โดยดูจากมูลค่าเฉลี่ยต่อออเดอร์ 2,600-2,700 บาทสำหรับโฮมโปร และ 2,700 บาทสำหรับเมกาโฮม การกำหนดราคาของ HMPRO ยังน่าจะได้ประโยชน์จากสินค้าคงคลังจำนวนมากที่มีราคาต่ำส่วนใหญ่โหลดใน 4Q64 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมพร้อมสำหรับการฟื้นตัวในปี 2565

แนวโน้มกำไรเป็นบวก

หากประมาณการกำไร 1Q65 ของเราถูกต้องจะคิดเป็น 27% ของประมาณการทั้งปี หากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ แนวโน้มกำไรน่าจะเป็นบวกอย่างมาก โดยได้แรงหนุนจาก 2 ปัจจัย คือ 1) การเติบโตของกำไร / อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น และ 2) แนวโน้มรายได้อื่นๆ ฟื้นตัวหลังจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะปกติในเร็วๆ นี้

- Advertisement -