บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +57.6%
Close Apr 22, 2022 Price (THB) 46.00
12M Target (THB) 72.50
Previous Target (THB) 72.50
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 1Q65 ที่ 474 ล้านบาท (+21.3%QoQ, +14.9%YoY) กำไรเติบโตเด่น QoQ จากการบันทึกขาดทุน SiC ลดลง กำไรที่เติบโต YoY มาจากรายได้ที่โตเด่น และผลบวกบาท/USD อ่อนค่า
- แนวโน้ม 2Q65 คาดธุรกิจหลักเติบโตดี QoQ และคาดบันทึกผลขาดทุนธุรกิจ SiC ลดลง แต่ต้องจับตาแรงกดดันจากปัจจัยด้านมหภาค
Our view
- เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 72.50 บาทต่อหุ้น อิง PER 24x ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อ ขายบน PER65 เพียง 15x และให้คาดการณ์เงินปันผลราว 4.3% มี Downside จํากัดแล้ว
- หากธุรกิจ SiC ทำได้ดีกว่าคาด หุ้นมีโอกาสฟื้นตัวแรงไม่ยาก ระดับราคาปัจจุบันมองเป็นโอกาสในการเข้าสะสมเพื่อรอการเติบโตรอบใหม่
HANA MICROELECTRONICS ราคาหุ้นปัจจุบันมี Downside จำกัดแล้ว
คาดกำไรปกติ 1Q65 เติบโต QoQ และ YoY … คาดบันทึกขาดทุน SiC ลดลง
คาดกำไรปกติ 1Q65 ที่ 474 ล้านบาท (+21.3% QoQ, +14.9% YoY) กำไรเติบโตเด่น QoQ จากการบันทึกผลขาดทุน SiC ลดลง ส่วนกำไรที่โต YoY หนุนจากรายได้ที่เติบโตดี และผลบวกจากค่าเงินบาท USD อ่อนค่า สรุปสาระสำคัญดังนี้ 1) คาดรายได้หลักอยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท (+0.4% QoQ, +20.5% YoY) คาดยอดขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ 190 ล้านเหรียญ (+1.2% QoQ, +10.5% YoY) คาดรายได้เติบโตดี YoY อิง Guidance ของผู้บริหารบริษัทฯ มี Booking Order ในทุกส่วนธุรกิจแข็งแกร่งตลอดช่วง 1H65 2) คาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 12.6% (+184bps QoQ, +69bps YoY) อัตราการทำกำไรที่ดีขึ้น QoQ จากการบันทึกผลขาดทุนของธุรกิจ SiC ลดลง (ปี 2564 บันทึกผลขาดทุน SiC ครั้งเดียวใน 4Q64) ดีขึ้น YoY เป็นผลบวกจากค่าเงินบาท/USD ที่อ่อนค่า -1.0%QoQ, +9.1% YoY และ Economies of scale ที่เพิ่มขึ้นจากยอดขายที่ปรับตัวเพิ่ม และ 3) SG&A คาดที่ 364 ล้านบาท (+0.6% QoQ, +16.8% YoY) SG&A to sale คาดที่ 5.8% ใกล้เคียง 4Q64
คงประมาณการปี 2565 … แต่ต้องระวังผลกระทบจากปัจจัยมหภาค
หากกำไรออกมาตามคาด กำไรปกติ 1Q65 จะคิดเป็น 20% ของประมาณการทั้งปี 2565 ที่ 2.4 พันล้านบาท (+6.8% YoY) แนวโน้ม 2Q65 เราคาดธุรกิจหลักจะยังเห็นรายได้ที่สดใส ขณะที่การบันทึกผลขาดทุนจากธุรกิจ SiC คาดทยอยลดลงรายไตรมาส เราคาดเห็นกำไรฟื้นตัวดี HoH ต่อเนื่องในช่วง 2H65 ทำให้เรายังคงประมาณการปี 2565
อย่างไรก็ตาม HANA มีหลายประเด็นที่ต้องติดตามในช่วง 2Q65 ได้แก่
1) สงครามรัสเซีย-ยูเครน ในระยะสั้นเราเชื่อว่าผลกระทบยังจำกัด แต่หากสงครามลากยาวอาจเกิดผลกระทบต่อด้าน Demand แม้ว่าจากความเสี่ยงหากเกิด Global Economic Recession โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มมือถือที่อาจชะลอตัวลง (HANA มีสัดส่วนยอดขายกลุ่มมือถือ และ Telecom เยอะที่สุดหรือคิดเป็น 23% ของรายได้รวม) ซึ่งตลาดในจีน (13% ของรายได้รวม) คาดโดนกระทบหนักสุด เนื่องจากมีรัสเซียเป็นฐานลูกค้าหลัก รวมทั้งอาจส่งผลกระทบเพิ่มเติมในแง่ Sentiment ของธุรกิจ SiC ซึ่งเป็น Power Supply สำหรับ EV Car ที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น หากเศรษฐกิจไม่ดี Demand ชะลอตัวลงอาจทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ยากขึ้น
2) การล็อกดาวน์ในจีน แม้ปัจจุบันโรงงานในจีนของ HANA (18% ของรายได้รวม) ไม่ได้อยู่ในเมืองที่ถูกล็อกดาวน์ และ HANA เองก็พยายามรักษาระดับสินค้าคงคลังเพื่อให้เพียงพอต่อการผลิตมาตั้งแต่เริ่มเกิดปัญหา Shortage แต่ในกรณีที่การล็อกดาวน์ยืดเยื้อเกิน 1-2 เดือน หรือเกิดการล็อกดาวน์ขึ้นเพิ่มเติมในหลายพื้นที่ของจีน HANA อาจเผชิญความเสี่ยงในแง่ของการจัดหาวัตถุดิบได้ไม่เพียงพอต่อการผลิต
คงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 72.50 บาท
เราคงประมาณการปี 2565/66 ที่ 2.4 พันล้านบาท (+6.8% YoY) และ 3.0 พันล้านบาท (+24.5% YoY) และคงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 72.50 บาทต่อหุ้น อิง PER 24x แม้ HANA ยังต้องแบกรับผลขาดทุนจากธุรกิจ SiC ไปอีกระยะ แต่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER65 เพียง 15x และซื้อขายบน P/BV65 เพียง 1.5x และให้คาดการณ์เงินปันผลราว 4.3% มี Downside จำกัดแล้ว ขณะที่มุมมองในระยะยาวการเข้ามาผลิตสินค้ากลุ่ม Premium ที่ให้ GPM สูงและมูลค่าตลาดจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต ซึ่งหากธุรกิจ SiC ทำได้ดีกว่าคาด หุ้นมีโอกาสฟื้นตัวแรง ระดับราคาปัจจุบันเรามองเป็นโอกาสในการเข้าสะสมเพื่อรอการเติบโตรอบใหม่ที่สำคัญของ HANA
ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) ค่าเงินบาท/USD 2) ผลขาดทุนของธุรกิจ SiC สูงกว่าหรือยาวนานกว่าคาด 3) เกิดการระบาดรุนแรงของ COVID-19 จนกระทบสายการผลิต และ 4) การเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย