FPI เคาะจ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลังเพิ่มอีก 0.07 บาทต่อหุ้น รวมทั้งปีจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.12 บาทต่อหุ้น ด้านแผนงานปีนี้ ระบุแนวโน้มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์เป็นขาขึ้น ดันออเดอร์ทะลัก ต้องมีการสั่งซื้อเครื่องจักรเพิ่ม รองรับคำสั่งซื้อที่เข้ามาเป็นจำนวนมาก ตั้งเป้ายอดขายปีนี้แตะ 2.4 พันล้านบาท หนุนผลงานทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์

 

นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2565 ประเมินว่ายังอยู่ในทิศทางที่ดี และน่าจะยังเป็นขาขึ้นของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ โดยตั้งเป้ายอดขายปีนี้อยู่ที่ 2,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 2,100 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส 1/65 ภาพรวมของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน และมีคำสั่งซื้อ (Order) เข้ามาจำนวนมาก จนบริษัทผลิตไม่ทัน และต้องจ้างผลิตเพิ่มเติม รวมทั้งต้องมีการสั่งซื้อเครื่องจักรเข้าเพิ่มอีก 5 เครื่อง แบ่งเป็นเครื่องที่ใช้ในประเทศอินเดีย 2 เครื่อง และใช้ในประเทศไทย 3 เครื่อง

ขณะเดียวกัน บริษัท FPI AUTO PART INDIA PRIVATE LIMITED ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในประเทศอินเดีย ดำเนินธุรกิจออกแบบและผลิตชิ้นส่วนยานยนต์, บริการรับออกแบบผลิตภัณฑ์และผลิตแม่พิมพ์พลาสติก, รับจ้างฉีด, ชุบโครเมียม, พ่นสีและประกอบชิ้นงานทุกประเภท ปัจจุบันมีการฟื้นตัวอย่างโดดเด่น และมีออเดอร์เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีก่อน ส่งผลให้มีมูลค่างานในมืออยู่แล้วกว่า 810 ล้านรูปี

นอกจากนี้ ปัจจุบันมียอดคำสั่งซื้อในมือ (Backlog) ทั้งงานในประเทศและต่างประเทศ มูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท โดยทยอยรับรู้ในปี 2565 ประมาณ 450-500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปีถัดไป ขณะเดียวกันมีแผนเตรียมยื่นประมูลงานใหม่เพิ่มเติมอีก 300-400 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะประมูลได้ประมาณ 50% ขณะที่ธุรกิจงานชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ภายใต้ตราสินค้าของค่ายรถยนต์ต่างๆ (OEM) คาดว่าจะมีออเดอร์เพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน ส่วนธุรกิจบริการให้เช่าแม่พิมพ์ มีแนวโน้มเติบโตจากความต้องการที่มีเพิ่มขึ้นทั้งจากประเทศปากีสถาน เปรู บราซิล เป็นต้น ดังนั้น น่าจะสนับสนุนให้ผลงานในปีนี้สามารถทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้อีกครั้ง

ส่วนผลการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2564 ให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยจ่ายเงินปันผลประจำปี 2564 เพิ่มอีกเป็นจำนวนหุ้นละ 0.07 บาท จากผลการประกอบการของบริษัทงวด 6 เดือนหลังของปี 2564 รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,473,029,934 หุ้น รวมเป็นเงินปันผลจ่ายในครั้งนี้ 103,112,095.38 บาท

ทั้งนี้ เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่บริษัทได้จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นแล้วจำนวน 0.05 บาท สำหรับผลประกอบการของบริษัทงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 รวมเป็นเงินปันผลจ่ายในปี 2564 ทั้งสิ้นจำนวนหุ้นละ 0.12 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิน 176,763,592.08 บาท รวมทั้งให้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 (Record Date) และกำหนดจ่ายเงินปันผลภายใน วันที่ 20 พฤษภาคม 2565

“ในปี 2564 บริษัทสามารถสร้างผลงานได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีกำไรสุทธิ  329 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 899% และเป็นระดับกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างต่อเนื่อง และเป็นการขอบคุณผู้ถือหุ้นที่ให้ความไว้วางใจรวมถึงมีความเชื่อมั่นในการบริหารงานมาโดยตลอด ขณะที่ในปีนี้ บริษัหวังว่าจะยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรในระดับที่น่าพอใจอีกครั้ง” นายสมพล กล่าว

******

- Advertisement -