Daily Focus: Earnings and Value Play
2022 SET Target: 1770
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวในแดนบวกได้ก่อนมีแรงขายออกมากดดันให้ดัชนี ย้อนลงมาปิดลบอีก 6.36 จุด ณ สิ้นวัน สอดคล้องกับที่เราประเมินว่าอยู่ในช่วงการพักตัว ตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่และยังถูกกดดันจากประเด็นต่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายการเงิน FED ที่ตึงตัวรวมถึงจีน Lockdown สถาบันในประเทศขายสุทธิต่อเนื่องอีก 2.6 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิบางๆ 247 ลบ (แต่ยัง Long SET50 Index Futures เล็กน้อย 3 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะปรับตัวลงทดสอบแนวรับหลัก 1,655-1,660 จุด และมีโอกาสเสี่ยงหลุดระดับดังกล่าวจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นลบ หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับร่วงแรง ปัจจัยกดดันยังคงมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่อาจเติบโตชะลอตัวลง จากทั้งปัญหาจากสงคราม จีนที่เริ่มกลับมา Lockdown บางส่วนอีกครั้ง ขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมายมาก ทำให้ FED จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย และเริ่มลดงบดุลในการ ประชุมเดือนหน้า ส่งผลให้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าถือดอลลาร์ กดดันหุ้นกลุ่ม Tech และ Growth ที่มี PER สูง ขณะที่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเร็ว หนุนหุ้นในกลุ่มส่งออก โดยเฉพาะอาหารเครื่องดื่ม รวมถึงกลุ่ม Defensive อย่างการแพทย์คาดยังแข็งแกร่งกว่าตลาด โดยรวมภาพตลาดสอดคล้องกับที่เราประเมินว่า SET Index จะพักตัวในเดือน เม.ย.-พ.ค. แต่มองเป็นจังหวะ “สะสมหุ้นพื้นฐาน” บริเวณ 1,600-1,650 จุด โดยยังคงมุมมองบวกในระยะ กลาง-ยาวจากเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นขาขึ้น โดยเฉพาะแนวโน้มเปิดประเทศเต็มรูปแบบใน 2H22 ทำให้กระแสเงินทุนคาดยังอยู่ในทิศทางไหลเข้า ยังคงเน้นกลุ่ม Value Domestic และ Reopening Play ที่มี PER/PBV ไม่สูงเทียบกับในอดีตก่อน COVID-19 ได้แก่ กลุ่มธนาคาร โรงกลั่น ค้าปลีก อสังหาฯ อาหาร และเครื่องดื่ม การแพทย์ เป็นต้น ส่วนระยะสั้นเลือกเก็งกำไร หุ้นที่คาดประกาศผลประกอบการ 1Q22 แข็งแกร่ง
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 1Q22 แข็งแกร่ง และยังเน้นลงทุนหุ้น Value และ Domestic Play
หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BCP, ICHI, IVL, ORI, SHR
หุ้นเด่นวันนี้ : NSL
- แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21 บาท
- คาดกำไร 1Q22 +34% Q-Q, +5% Y-Y จากปริมาณขายที่แข็งแกร่ง และมีการปรับขึ้นราคาสะท้อนต้นทุนเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้น คาดรายได้โต +18% Y-Y สูงกว่า SSSG ของ CPALL
- แนวโน้มกำไรยังดูดีต่อเนื่องใน 2Q22 เพราะเข้าสู่ช่วง High Season รวมถึง Traffic เข้า 7 11 ที่ฟื้นตัว เราคาดกําไรปี 2022 +30% Y-Y
- แนวรับ 17 บาท แนวต้าน 17.70-18//18.70 บาท
Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$698 ล้าน แต่กระจุกตัวที่อินโดนีเซีย สูงถึง US$1,347 ล้าน ซึ่งน่าประหลาดใจ ขณะที่เม็ดเงินยังไหลออกจากไต้หวันและเกาหลีใต้ US$473 ล้าน และ US$222 ล้าน ตามลำดับ แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดพลิกมาไหลออก หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงแรง สะท้อนเม็ดเงินที่ยังออกจากสินทรัพย์เสี่ยงจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่อาจเติบโตในอัตราที่ชะลอ ขณะที่นโยบายการเงินจะตึงตัวเร็ว
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) DELTA ประกาศกำไรสุทธิ 1Q22 +33% Q-Q, +58% Y-Y แต่หากไม่รวมรายการพิเศษ กําไรปกติ +17% Q-Q, +49% Y-Y ต่ำกว่าคาด 11% แม้รายได้จะเติบโตอย่างน่าประทับใจ แต่ Margin ต่ำกว่าที่คาดการณ์จากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น แนวโน้มกำไร 2Q22 คาดอ่อนตัว จากผลของสงครามและจีน Lockdown แต่คาดหวังการฟื้นตัวใน 2H22 ยังคงประมาณการกําไรปีนี้ +51% Y-Y และราคาเป้าหมายที่ 330 บาท แนะนำ “ขาย”
(+) IVL คาดกำไร 1Q22 +69% Q-Q, +52% Y-Y ทั้งจาก Inventory Gain และ Operation ของธุรกิจ Combined PET IOD และเส้นใยที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะด้าน Margin ขณะที่ 2Q22 จะเริ่มได้ผลบวกจากการรวม Oxiteno เราคาดกำไรสุทธิปี 2022-2023 +27% Y-Y และ +9% Y-Y ตามลำดับ คงราคาเป้าหมาย 70 บาท แนะนำ “ซื้อ” เป็น Top Pick ของกลุ่มปิโตรฯ (Source: FSSIA)
(+) SMPC เราคาดกำไรปกติ 1Q22 -20% Q-Q, +86% Y-Y กำไรที่ลด Q-Q เพราะ 4Q21 ได้รับสิทธิประโยชน์จาก BOI ทำให้ภาษีจ่ายต่ำกว่าปกติ หากไม่รวมเรื่องภาษี กำไรระดับ 200 ลบ.ต่อไตรมาสถือเป็นกำไรที่ดีมาก จากปัญหาขาดแคลนสายเรือที่คลี่คลาย เงินบาทอ่อนค่า และ Product mix ที่เน้นขายถัง 3 ส่วนซึ่งมีมาร์จิ้นสูง เราปรับกำไรปี 2022 ขึ้น 12% ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 16 บาท ราคาหุ้นที่ขึ้นแรงวานนี้ทำให้ upside เหลือต่ำกว่า 10% แนะนำ “ซื้ออ่อนตัว”
(0) STEC คาดกำไรปกติ 1Q22 -15% Q-Q เนื่องจากงานใหม่อยู่ในช่วงเริ่มต้น และ SG&A กลับสู่ระดับปกติ อย่างไรก็ดี ทรงตัวได้ Y-Y จาก GPM ดีขึ้น แนวโน้ม 2Q22 คาดเร่งขึ้นจากรับรู้ปันผลจาก GULF และดีต่อเนื่องใน 2H22 ตามความคืบหน้างานเดิม และเริ่มงานใหม่ พร้อมมี Catalyst ประมูลสายสีส้มใน 3Q22 คงประมาณการกำไรปกติปีนี้ +53% Y-Y และราคาเป้าหมายที่ 17 บ. แนะนำ “ซื้อลงทุน”
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 809.28 จุด หรือ 2.38% ปิดที่ 33,240.18 จุด จากความกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน, การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมถึงจีนยังใช้มาตรการล็อกดาวน์เมืองสำคัญ กระทบเศรษฐกิจโลก
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ กดดันจากการปรับลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีตามดัชนี Nasdaq
(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง ตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ และความกังวลการล็อกดาวน์เพิ่มขึ้นในจีนหลังยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 สูงขึ้น
(0) ค่าเงินบาท แกว่งในกรอบแคบอยู่ที่บริเวณ 34.29 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 3.16 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 101.70 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังธนาคารกลางจีนแถลงว่าจีนจะเพิ่มมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจ
(+) ราคาทองคํา COMEX เพิ่มขึ้น 8.1 ดอลลาร์ หรือ 0.43% ปิดที่ 1,904.1 ดอลลาร์/ออนซ์ ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอาจชะลอลง
SPDR Gold Trust ถือครองทองคํา 1,101.23 / +-