บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +8.5%
Close Apr 26, 2022 Price (THB) 61.75
12M Target (THB) 67.00
Previous Target (THB) 64.00
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 1Q65 ของ CPN ที่ 1.9 พันล้านบาท (+5.2% QoQ, +18.1% YoY) รายได้อยู่ระดับที่ 7.7 พันล้านบาท (+0.1% QoQ, +18.0% YoY)
- คาดปี 2565 กำไรฟื้นตัว จากการให้ส่วนลดค่าเช่าพื้นที่ลดลง หลังยอดผู้ใช้บริการเพิ่ม รวมถึงสถานการณ์การ แพร่ระบาด COVID-19 ควบคุมได้ และนักท่องเที่ยวต่างประเทศเริ่มกลับมา
Our view
- คาดกำไรปกติปี 2565/66 ที่ 9.3 พันล้านบาท (+ 98.5% YoY) และ 1.0 หมื่นล้านบาท (+10.3% YoY)
- เราปรับเพิ่มราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 เป็น 67 บาท จากแผนการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่
ปัจจัยเสี่ยง: การแพร่ระบาด COVID-19, เศรษฐกิจชะลอตัวกดดันกำลังซื้อ, เงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น
CENTRAL PATTANA 1Q65 กําไรฟื้นตัว…คาดโตรายไตรมาสและรายปี
คาดกำไร 1Q65 ฟื้นตัวต่อเนื่องจาก 4Q64
เราคาดกำไรปกติ 1Q65 ของ CPN ที่ 1.9 พันล้านบาท (+5.2% QoQ, +18.1% YoY) คาดรายได้อยู่ระดับที่ 7.7 พันล้านบาท (+0.1% QoQ, +18.0% YoY) ทรงตัวรายไตรมาส (QoQ) แต่เติบโตเมื่อเทียบกับรายปี (YoY) ธุรกิจศูนย์การค้า ยอดผู้ใช้บริการศูนย์การค้าเฉลี่ย 1Q65 อยู่ที่ 70-80% ของผู้ใช้บริการระดับปกติ ในส่วนของ Occupancy rate อยู่ที่ 90% ทรงตัวจากไตรมาส 4Q64 ในช่วง 1Q65 บริษัทให้ส่วนลดค่าเช่าพื้นที่ให้เช่า ศูนย์การค้าเฉลี่ยราว 18-19% ลดลงเมื่อเทียบกับส่วนลดค่าเช่าเฉลี่ยใน 4Q64 ที่ราว 28-29% รายได้ธุรกิจ ศูนย์การค้าคาดทรงตัว QoQ แต่เพิ่มขึ้นราว 10% YoY จากพื้นที่ให้เช่าที่เพิ่มขึ้น หลังจากการเปิดศูนย์การค้าที่ ศรีราชาและอยุธยาในปี 2564 ขณะที่ธุรกิจศูนย์อาหาร คาดรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวเมื่อเทียบกับรายไตรมาส ธุรกิจโรงแรมรายได้ลดลงรายไตรมาส (จาก 4Q64) เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล และธุรกิจ Residential รายได้ปรับตัวลดลงรายไตรมาส (จาก 4Q64) เนื่องจากมีการโอนกรรมสิทธิ์ของที่น้อยลง โดยจากสินค้าคอนโดมีเนียม โดยการรับรู้รายได้ใน 1Q65 จะมาจากโครงการแนวราบเป็นหลัก อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยคาดอยู่ที่ 46.2% ใน 1Q65 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 43.7% ใน 4Q64 และ 46.0% ใน 1Q64 เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับดีขึ้นจากการให้ส่วนลดค่าเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าที่ลดลง เราคาดบริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ 344 ล้านบาท +12.0% QoQ และปรับเพิ่มค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับรายปี จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของ SF จากศูนย์การค้า Mega Bangna เต็มไตรมาส
มีแผนเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง
CPN ตอบรับแผนการกลับมาของนักท่องเที่ยวในอนาคต จากแผนการขยายสาขาศูนย์การค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าครบวงจร ในรูปแบบ Retail-led Mixed-use development ในจังหวัดท่องเที่ยวเพิ่ม หลังจากในปี 2564 ได้มีการเปิดศูนย์การค้าที่ศรีราชา จ.ชลบุรี และ จ.อยุธยา ค่อนข้างได้รับการตอบรับดี และในปี 2565 มีแผนเปิดศูนย์การค้า 1 แห่ง ที่ จ.จันทบุรี รวมถึงในปี 2566 มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ เซ็นทรัลเวสต์วิลล์ (Central West Ville) บริเวณราชพฤกษ์ ทั้งนี้บริษัทจะมีแผนการเพิ่มสาขาใหม่ในจังหวัดท่องเที่ยว รวมถึงพื้นที่ที่มีศักยภาพในอนาคต โดยคาดยอด Traffic จะเริ่มปรับเพิ่ม หลังภาครัฐมีการผ่อนคลายมาตรการนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศได้สะดวกมากขึ้นจะเป็นประโยชน์ต่อศูนย์การค้า Tourist Mall และธุรกิจโรงแรมของบริษัทให้มีโอกาสฟื้นตัวและเติบโต
แนะนำ ซื้อ ปรับราคาเหมาะสมเป็น 67.00 บาท
เราปรับเพิ่มกำไรสุทธิปี 2566 ขึ้นเป็น 1.0 หมื่นล้านบาท เพื่อสะท้อนแนวโน้มการให้ส่วนลดพื้นที่ค่าเช่าศูนย์การค้าที่ลดลง และการเปิดตัวโครงการใหม่ อย่างโครงการเซ็นทรัลเวสต์วิลล์ (Central WestVille) บริเวณราชพฤกษ์ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าโครงการ 6.2 พันล้านบาท คิดเป็นพื้นที่ให้เช่าราว 3-4 หมื่นตารางเมตร ราคาเหมาะสมใหม่ ณ สิ้นปี 2565 ที่ 67 บาท (DCF, WACC ที่ 5.1% และ Terminal Growth ที่ 2.5%) จาก 64 บาท คาดกำไรปกติปี 2565/66 ที่ 9.3 พันล้านบาท (+98.5% YoY) และ 1.0 หมื่นล้านบาท (+10.3% YoY) ตามลำดับ ในปี 2565 ภายใต้สมมติฐานการแพร่ระบาด COVID-19 สามารถควบคุมได้และการเปิดประเทศ สามารถดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นการฟื้นตัวของ CPN จากธุรกิจรายได้ค่าเช่าศูนย์การค้าที่บริษัทให้ส่วนลดค่าเช่าลดลง นอกจากนั้นแล้ว บริษัทยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งมีระดับ Net D/E ที่ 0.9 เท่า เทียบกับนโยบายที่ 1 เท่า (บริษัทจะประกาศงบการเงิน 1Q65 ในวันที่ 11 พ.ค.)