บล.ทิสโก้:
บมจ. เอสไอเอสบี คาด 1Q22F นักเรียนเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น QoQ
แนวโน้มผลประกอบการเติบโตจากสถานการณ์เริ่มปกติ และนักเรียนเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
1) คาดแนวโน้มผลประกอบการ 1Q22F เติบโต QoQ จากจำนวนนักเรียนเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น
2) แผนขยายสาขาใหม่นนทบุรีและระยองเร่งเปิดในปี 2023
3) บริษัทยังคงมีแผนขยายสาขาหัวเมืองต่างจังหวัดเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่
เราปรับประมาณการใหม่เพิ่มขึ้นรวมสาขานนทบุรีและระยอง คาดกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 31% (CAGR2Y) ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 14.30 บาท
คาดกำไรสุทธิ 1Q22F กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น QoQ จากจำนวนนักเรียนเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น
เราคาด SISB จะมีกำไรสุทธิ 1Q22F ที่ 64 ล้านบาท (-10%YoY, +142%QoQ) ลดลง YoY เนื่องจากรายได้ในส่วนกิจกรรมภายนอกที่ยังไม่ได้จัดเทียบกับปีที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรม คาดจำนวนนักเรียน 1Q22F ประมาณ 2,610 คน เพิ่มขึ้น 177 คน จากสิ้นปี จากการเปิดเรียนแบบ hybrid learning สามารถเลือกเรียนได้ทั้ง online หรือ onsite ส่งผลให้นักเรียนเพิ่มขึ้น และกลับมาเรียนแบบ onsite มีสัดส่วน 70% ของนักเรียนทั้งหมด แต่จำนวนนักเรียนยังลดลงประมาณ 28 คนจาก 1Q21 คาดอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 51.7% จากต้นทุนบางส่วนที่ลดลงในส่วนของค่ากิจกรรม และต้นทุนส่วนใหญ่เป็นคงที่จากบุคลากรครูและครูผู้ช่วย และค่าเสื่อมอาคาร ค่าใช้จ่ายบริหารใกล้เคียง QoQ แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย YoY จากการค่าบุคลากรที่ปรับเพิ่มขึ้น
ปรับประมาณการเพิ่มขึ้นรวมสาขานนทบุรีและระยอง คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 31% (CAGR2Y)
เราคาดแนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q22-4Q22F จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง QoQ จากการที่โรงเรียนไม่มีส่วนลดค่าเทอมแล้ว และมีแผนปรับเพิ่มขึ้นค่าเทอม 3-5% รวมถึงการเปิดปีการศึกษาใหม่ช่วงเดือน ส.ค. ที่จะมีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2022-23F เพิ่มขึ้น 16% และ 22% ตามลำดับ คาดกำไรสุทธิปี 2022-24F อยู่ที่ 287 ล้านบาท (+37%YoY) และ 361 ล้านบาท (+26%YoY) โดยคาดจำนวนนักเรียนจะกลับมาเพิ่มขึ้นได้หลังสถานการณ์ COVID-19 ผ่อนคลาย และค่าเทอมที่มีการปรับเพิ่มขึ้น และการเลื่อนระดับชั้นเรียนซึ่งมีค่าเทอมที่แตกต่างกันเพิ่มขึ้นประมาณ 5-7% ในทุกการขึ้นระดับชั้นทุก 2 ปี เราคาดจำนวนนักเรียนปี 2022-23F เพิ่มขึ้น 300 คน และ 500 คน ตามลำดับ จากจำนวนนักเรียนเริ่มกลับมาเรียนเพิ่มขึ้น และปี 2023F คาดจำนวนนักเรียนสาขานนทบุรี 200 คน จากที่มีทำเลพื้นที่ใหญ่ครอบคลุมการเดินทางสะดวกได้ในหลายเขตพื้นที่ และสาขาระยองคาด 150 คน จากที่ยังไม่มีโรงเรียนนานาชาติ ยังไม่มีการแข่งขัน และมีตลาดรองรับจาก GDP ที่จังหวัดระยองคิดเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 14.30 บาท
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” คาดผลประกอบการปีนี้เติบโต และการเปิดสาขาใหม่นนทบุรีและระยอง และยังมี upside จากแผนขยายสาขาต่างจังหวัดโครงการ Halving Project เจาะกลุ่มฐานลูกค้าใหม่ ค่าเทอม รองลงมาคาดหวังดึงกลุ่มนักเรียนโปรแกรม EP (English Program หลักสูตรผสม 2 ภาษา) ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 27% ในขณะที่โรงเรียนนานาชาติมีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 1% ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 14.30 บาท อ้างอิงวิธี DCF ราคาหุ้นปัจจุบันมี PER22F อยู่ที่ 41.6X หรือ PEG1.3X (คาด eps growth 31% (CAGR2Y), บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งมี D/E 22F ที่ต่ำ 0.6X
ความเสี่ยง : ภาพรวมเศรษฐกิจ การแข่งขัน