บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) 15.4%

Close Apr 28, 2022 Price (THB) 3.90

12M Target (THB)4.50

Previous Target (THB) 4.50

What’s new?

  • เราคาดกำไรปกติใน 1Q65 ที่ 391 ลบ. ลดลง 27.9% QoQ และ 6.1% YoY จากการก่อสร้างโครงการแนวราบไม่ทันตามยอดขายที่เร่งตัวขึ้น
  • Presale ใน 1Q65 อยู่ที่ 5.3 พันลบ. ลดลง ทั้ง QoQ และ YoY จาก Presale แนวสูงที่อ่อนแอ โดย Presale ใน 1Q65 คิดเป็น 24.0% เมื่อเทียบกับเป้าหมายทั้งปีของบริษัท

Our view

  • เราคาด Presale ฟื้นตัวเด่นทั้ง QoQ และ YoY ใน 2Q65 หนุนจากแผนเปิดโครงการใหม่ใน 2Q65 จำนวน 11 โครงการ รวมมูลค่าถึง 1.9 หมื่นลบ. (47.2% ของแผนทั้งปี)
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 4.50 บาท/หุ้น ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER2565 ที่ 6.8× ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของบริษัท

SC ASSET CORPORATION คาดกำไร 1Q65 ต่ำสุดของปี

คาดกำไรสุทธิ 1Q65 ลดลง QoQ และ YoY

เราคาดกำไรปกติใน 1Q65 ที่ 391 ลบ. (-27.9% QoQ, -6.1% YoY) ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ QoQ เนื่องจากสินค้าแนวราบพร้อมขายพร้อมโอนมีการระบายไปเยอะในช่วง 4Q64 ทำให้ยูนิตพร้อมขายพร้อมโอนลดลง  ขณะที่ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเร่งสร้าง Inventory เข้ามาเติม ทำให้คาดยอดโอนใน 2Q65 จะเติบโตเด่น QoQ ด้านอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายใน 1Q65 คาดที่ 29.5% (+53 bps QoQ, +20 bps YoY) ปรับตัวเพิ่มขึ้นเด่น QoQ เนื่องจากคาดสัดส่วนการโอนโครงการแนวสูงใน 1Q65 ที่ 13.1% ลดลงจากช่วง 4Q64 ที่ 16.2% (อัตรากำไรขั้นต้นแนวราบสูงกว่าแนวสูง) ทั้งนี้ หากกำไรปกติใน 1Q65 ใกล้เคียงกับที่เราคาดจะคิดเป็น 16.3% ของประมาณการปี 2565

เราคาดว่าผลประกอบการใน 1Q65 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี และจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นทำจุดสูงสุดของปีใน 4Q65 เนื่องจากโครงการแนวสูงสร้างเสร็จทั้งหมดในปีนี้จำนวน 3 โครงการมีกำหนดโอนใน 4Q65 ได้แก่ Scope langsuan (8.3 wuau. Sold 41%), Scope promsri (1.0 พันลบ. Sold 41%) และ JV-the crest park residences (3.1 พันลบ. Sold 24%)

Presale 1Q65 ลดลง QoQ และ YoY จากแนวสูง

บริษัทรายงาน Presale 1Q65 อยู่ที่ 5.3 พันลบ. (-7.6% QoQ, -7.3% YoY) คิดเป็น 24.0% เมื่อเทียบกับ เป้าหมายทั้งปีของบริษัท แบ่งเป็น 1) โครงการแนวรราบที่ 4.8 พันลบ. (+15.5% QoQ, +3.3% YoY) อยู่ใน ระดับที่แข็งแกร่ง การเติบโตทั้ง QoQ และ YoY มาจากการเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ 2 โครงการ รวมมูลค่า 1.5 พันลบ. ทำ Take up rate ได้ในระดับ 25-30% ดีกว่าเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 15-20% และ 2) โครงการแนวสูงที่ 530 ลบ. (-67.1% QoQ, -51.7% YoY) ลดลงทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากไม่มีโครงการแนวสูงเปิดใหม่

เราคาดว่า Presale ทั้งปี 2565 มีโอกาสสูงกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ 2.2 หมื่นลบ.ราว 15% เป็นอย่างน้อย เนื่องจาก Presale 1Q65 คิดเป็น 24.0% เมื่อเทียบกับเป้าหมายทั้งปี แม้เปิดตัวโครงการใหม่ไปเพียง 3.8% ของแผนทั้งปีที่ 40 หมื่นลบ. (สูงสุดเป็นประวัติการณ์, เติบโต 311.1% YoY) โดยการเปิดตัวโครงการใหม่จะเริ่มหนาแน่นขึ้นตั้งแต่ 2Q65 ที่มีจำนวน 11 โครงการ รวมมูลค่า 1.9 หมื่นลบ. (47.2% ของแผนทั้งปี) แบ่งเป็นแนวราบ 9 โครงการ 1.2 หมื่นลบ. (มี 1 โครงการ 1.8 พันลบ. เลื่อนมาจากไตรมาสก่อน) และแนวสูง 2 โครงการ 6.5 พันลบ. ได้แก่ Scope Thong Lor มูลค่า 2.5 พันลบ. (ระดับราคามากกว่า 3 แสน/ตร.ม.) และแบรนด์ใหม่มูลค่า 4.0 พันลบ. บนทำเล Sathorn – Wong Wian Yai ทั้งนี้ ในช่วง 2H65 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 14 โครงการ รวมมูลค่า 1.9 หมื่นลบ.

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 4.50 บาท/หุ้น

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมสิ้นปี 2565 ที่ 4.50 บาท/หุ้น (อิง PER2565 ที่ 7.8% เทียบเท่า +0.5 SD จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของบริษัท) จากมุมมองบวกต่อแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ที่หนาแน่นใน 2Q65 ซึ่งคาดมีหน่วยที่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ได้ภายในไตรมาส ทำให้แนวโน้มผลประกอบการจะเติบโตเด่นตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ เรายังมีมุมมองบวกต่อแผนการเพิ่มรายได้ประจำเป็น 1.8 พันลบ. ในปี 2568 (เติบโตราว 100% จากปี 2564) ได้แก่ 1) การเข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าในประเทศสหรัฐอเมริกา 2) ธุรกิจโรงแรม คาดเปิดโรงแรมแห่งแรก คือ YANH RATCHAWAT ในช่วง 4Q65 เราคาดว่าจะขาดทุนเพียงเล็กน้อยในปี 2565/66 และจะถึงจุดคุ้มทุนได้ในปี 2567 และ 3) แผนจับมือกับบริษัทโลจิสติกส์เพื่อทำธุรกิจร่วมกัน คาดว่าจะประกาศในช่วงกลางปีนี้

- Advertisement -