สรุปภาวะตลาด

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก แกว่งตัวในกรอบแคบ ตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ประกอบกับเข้าสู่ช่วงวันหยุดในสัปดาห์หน้า มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่วนแรงขายมีเข้ามาในกลุ่มการแพทย์ที่ขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า และนักลงทุนยังติดตามประเด็นสำคัญในต่างประเทศ อย่างการประชุมธนาคารกลางสหรัฐกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ช่วง 3-4 พ.ค.ถึงการแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,667.44 จุด -0.30 จุด -0.02% มูลค่าการซื้อขาย 69,402 ลบ. ต่างชาติ +486.78 ลบ. TFEX +16,607 สัญญา ตราสารหน้ี +414.60 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 84.29 จุด +0.26% ได้แรงหนุนจากการที่นลท.ช้อนซื้อช่วงท้ายตลาด ส่วนดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นกว่า 200 จุดจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นลท.จับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในวันพุธนี้ตามเวลาสหฐ (เช้าวันพฤหัสบดี ตามเวลาในไทย)

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ +0.5% ปิด 105.17 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหภาพยุโรป (EU) ผลักดันการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกตึงตัวมากขึ้น

+ เกาหลีใต้จะยกเลิกคำสั่งสวมใส่หน้ากากอนามัยภายนอกอาคารตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป เป็นมาตรการล่าสุดเพื่อผ่อนคลายข้อจำกัดของเกาหลีใต้ หลังจากเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

+ ปธน.สี จิ้นผิง ยืนยันเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของประเทศ และจะควบคุมโรคโควิด-19 ซึ่งขณะนี้มีการแพร่ระบาดรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563

+ กนอ.เผยยอดขาย-เช่าที่ดินพื้นที่นิคมฯ 6 เดือน ปีงบ 65 เพิ่มขึ้น 31.70% และพื้นที่ EEC เป็นทำเลทองดึงดูด การลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนญี่ปุ่นมีสถิติลงทุนสูงสุด

+/- ศบค.รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มอีก 9,721 ราย เสียชีวิต 77 คน หายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 20,145 ราย

ปัจจัยลบ –

– ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองในเดือนเม.ย. โดยลดลงแตะ 55.4 จากระดับ 57.1 เมื่อเดือนมี.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 57.6 ในเดือนเม.ย.

– สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนมี.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ. และยังเพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7%

– เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยว่ารัสเซียได้ยิงขีปนาวุธ 2 ลูก ถล่มกรุงเคียฟในระหว่างที่นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) เดินทางเยือนยูเครน

– ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน 1Q65 เพิ่มขึ้น 5.3%YoY และเพิ่มขึ้น 3.9%QoQ

– นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นไทยจากระดับ Overweight สู่ระดับ Neutral เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวของไทยฟื้นตัวช้าจากปัญหาเงินเฟ้อ และสถานการณ์โควิด-19 ในจีนที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนยังติดตามผลการประชุมเฟดในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหัฐ ขณะที่สงครามยูเครน-รัสเซียยังยืดเยื้อ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,655-1,675 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP , สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และ กากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN
  • ศบค.ยกเลิกตรวจ RT-PCR มีผล 1 พ.ค. น้ี : AOT ERW CENTEL MINT AWC
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอากาศร้อน SNC KOOL SAPPE ICHI TACC
  • ตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค.ขยายตัว+เงินบาทอ่อนค่า TWPC ASIAN XO SNC SKN PIMO SMT

หุ้นรายงานพิเศษ

กลุ่มน้ำมันปาล์ม VPO LST UVAN UPOIC

  • อินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีปริมาณคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก ประกาศระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. โดยระบุว่าสิ่งนี้จะกระทบต่อผู้บริโภคทั่วโลก ไม่เพียงแต่ในอินเดีย เนื่องจากน้ำมันปาล์มถือเป็นน้ำมันพืชที่มีการบริโภคมากที่สุดในโลก และมีการใช้ในการผลิตสินค้าหลายอย่าง เช่น บิสกิต มาร์การีน ช็อกโกแลต และน้ำยาซักผ้า ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียเคยประกาศระงับส่งออกน้ำมันปาล์มในเดือนม.ค. ก่อนที่จะยกเลิกประกาศดังกล่าวในเดือนมี.ค.
  • ความเห็น หลังอินโดนีเซียประกาศระงับการส่งออกทำให้ราคาน้ำมันปาล์มปรับตัวขึ้น 9% ส่งผลบวกต่อผู้ผลิตน้ำมันปาล์มในไทย ส่งผลให้ราคาขายและอัตราการทำกำไรปรับตัวดีขึ้น โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์ CPI VPO LST UVAN UPOIC

หุ้นมีข่าว

(+) SPALI (Bloomberg Consensus 25.88 บาท) โชว์ยอดขาย 4 เดือนแรกโต 20% จากปีก่อน หลังเศรษฐกิจฟื้น-กำลังซื้อปรับตัวดีขึ้น หนุนยอดเยี่ยมชมโครงการเพิ่มขึ้น 20% จากครึ่งหลังปี 2564 เร่งเปิดโครงการใหม่ไตรมาส 2/2565 อีก 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 9,700 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NETBAY (Bloomberg Consensus 31.50 บาท) เปิดตัวแพลตฟอร์มดิจิทัล iBox โกยรายได้สองเด้ง ค่าเช่าพ่วงค่าทำธุรกิจกรรม ฟากผู้บริหาร “พิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์” ชี้ดีมานด์การจัดการบริหารเอกสารล้น ชูธงรายได้ปีน้ีโต 10-15% ต่อจากปีก่อน พร้อมใส่เกียร์อัพมาร์จิ้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SISB (Bloomberg Consensus 13.45 บาท) โชว์ความพร้อมสนองรัฐกำหนดเปิดภาคเรียน 17 พฤษภาคมนี้ คาดจำนวนนักเรียนปีนี้ยืนเหนือ 2,750 คน ตามเป้า ดันรายได้ปี 2565 เติบโต 10- 15% ส่วนการเปิดโรงเรียนใหม่ 2 แห่ง หนุนจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ILM (Bloomberg consensus 21.50 บาท) เล็งผลงานปี 2565 เติบโต 10% ตามเป้า รับอานิสงส์ดีมานด์ตลาดที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น เร่งขยายสาขาในประเทศ 1 สาขา พร้อมเดินหน้าเจาะตลาดต่างประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียนกว่า 5 แห่ง ด้านการร่วมมือกับ COM7 ในการเข้าบริหารพื้นที่การขายสินค้า IT เชื่อหนุนผลงานปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 17 พ.ค. วันสุดท้ายส่งงบการเงิน 1Q65
  • 18 พ.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3/2565

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 3 พ.ค. อียู เปิดเผยอัตราว่างงานเดือนมี.ค. สหรัฐ รายงานตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน และอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือน มี.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมี.ค.
  • 3-4 พ.ค. การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
  • 4 พ.ค. อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนเม.ย.จากเอสแอสด์พี โกลบอล

สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน เม.ย.จาก ADP ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนมี.ค. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนเม.ย.จากเอสแอสด์พี โกลบอล ดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย.จาก สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

- Advertisement -