ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

เทรดไซด์เวย์ต่อ รอผลประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันอังคารเทรดไซด์เวย์ต่อ… หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยเทรดในกรอบแคบๆ ตลอดทั้งวัน ก่อนเข้าช่วงวันหยุดยาว… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นกลาง (ต่างประเทศเป็นลบ แต่ในประเทศเป็นบวก) 1) บอนด์ยิลด์ 10 ปีของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นแรง เทรดอยู่ใกล้ระดับ 3.0% หลังจากสัญญาเฟดฟันด์ฟิวเจอร์ให้น้ำหนัก ธ.กลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นดอกเบี้ยถึง 0.50% ในการประชุมวันที่ 4-5 พ.ค. และปรับขึ้นดอกเบี้ยถึง 0.75% ในการประชุมวันที่ 15-16 มิ.ย. ตัวเลขเศรษฐกิจในภาคการผลิตทั้งของจีนและสหรัฐฯ ต่ำกว่าที่ consensus คาดการณ์ โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตจีน เม.ย. อยู่ที่ 47.4 (ตลาดคาด 48.0) ขณะที่ดัชนี ISM ภาคการผลิตสหรัฐฯ เม.ย. ออกมาที่ 55.4 (ตลาดคาด 57.6) ขณะที่ปัจจัยไม่แน่นอนอื่นๆ ยังคงอยู่ เช่น การสู้รบในยูเครน รวมทั้งสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ในเมืองใหญ่ๆ ของจีน… ทั้งนี้นักลงทุนส่วนใหญ่น่าจะชะลอเพื่อติดตามปัจจัยสำคัญที่สุดในสัปดาห์นี้ ได้แก่ผลประชุมเฟดที่จะออกมาคืนวันพฤหัสฯ นี้ ด้านปัจจัยภายในประเทศเป็นบวกเล็กน้อย นสพ. ต่างรายงานว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยเร่งตัวขึ้นอีกในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา หลังจากการคลายมาตรการ COVID-screening เพิ่มเติมตั้งแต่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อฯ ชะลอตัวต่อที่ 9,721 ราย เสียชีวิต 77 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 20,145 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร WHA*, BANPU*, PTG*

  • WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.2 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.32 บาท / แนวต้าน 3.42 – 3.50 บาท กรณี Breakout กรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 3.6 บาท (Stop loss 3.3 บาท) 2) ประเมินรับ Sentiment บวกจากการที่นายกฯ ญี่ปุ่นเดินทางมาเยือนประเทศไทย และคาดจะมีการสนับสนุนด้านการลงทุนจากนักลงทุนญี่ปุ่น โดยเฉพาะการลงทุนในพื้นที่อีอีซี 3) ฝ่ายวิจัยประเมินแนวโน้มกำไรปีนี้โต 35% YoY คาดการลงทุนฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย ขณะที่คาด Forward PE ลดลงเหลือ 14.6 เท่า (คิดเป็นเพียงราว 1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 18 เท่า) และ PBV 1.6 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 1.8 เท่า)
  • BANPU* (เป้าพื้นฐาน 15.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 12.1 บาท / แนวต้าน 12.4 – 12.8 บาท หาก Breakout ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 13.1 บาท (Stop loss 11.6 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 1Q65 = 1.11 หมื่นล้านบาท (+624% YoY, +219% QoQ) ทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่ 4Q53 จากราคาถ่านหินที่ปรับขึ้นแรง และกำไรพิเศษจากการขายหุ้นโรงไฟฟ้า Sunseap +5 พันล้านบาท ขณะที่แนวโน้มราคาถ่านหินยังสูงต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์รัสเซีย – ยูเครน 3) Forward PE ต่ำเพียง 3.6 เท่า และ PBV 1.04 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีตอยู่ที่ราว 0.9 เท่า) ขณะที่แนวโน้มกำไรปีนี้คาดโต +130% YoY เป็น 2.8 หมื่นล้านบาท
  • PTG* (เป้าพื้นฐาน 17.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.2 บาท / แนวต้าน 15 – 15.2 บาท หาก Breakout ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 14.0 บาท) 2) เราคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุด โดย i) ปริมาณการใช้น้ำมันคาดเพิ่มขึ้นหลังผ่อนคลายมาตรการรับมือโควิด-19 และเตรียมเปิดการท่องเที่ยว ii) ปลดล็อกการตรึงราคาน้ำมันดีเซล คาดเป็นบวกต่อค่าการตลาดฯ ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯคาดกําไร 1Q65 = 285 ล้านบาท (Turnaround QoQ) 3) ราคาหุ้นเริ่มสร้างฐาน ขณะที่ Valuation ไม่แพง Forward PE 15.2 เท่า (-1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต)

หุ้นมีข่าว

(+) ปีนี้ตั้งเป้า 2.5 หมื่นล้าน! (ไทยรัฐ) “สกพอ.” เห่กล่อมญี่ปุ่นยกทัพลงทุนใน “อีอีซี” “สกพอ.” วาดฝันนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเยือนไทยจะเพิ่มโอกาสที่นักลงทุนญี่ปุ่นยกทัพเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ฯลฯ ในอีอีซีเพิ่มขึ้น ตั้งเป้าญี่ปุ่นลงทุนในอีอีซีปีนี้ 25,000 ล้านบาท

(+) COM7* ส่งซิกดีล BDMS* ปูทางสู่ “เทเลเมดิซีน” (ข่าวหุ้น) “คอมเซเว่น” ผนึก BDMS” ลุยธุรกิจร้าน ขายยารูปแบบใหม่ นำเทคโนโลยีผนวกกับสุขภาพ คาดเริ่มเปิดสาขาในครึ่งหลังปีนี้ แย้มเฟสถัดไปมุ่งทางสู่ “เทเลเมดิซีน” ซื้อนาคตสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมของผู้สูงวัย เป้ารายได้ COM7 ปีนี้โต 20%

(+) TU* จับมือ SFLEX ตั้งบริษัทร่วมทุน ลุยบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (ข่าวหุ้น) TU* ส่งบริษัทย่อย TUG จับมือ SFLEX จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “สตาร์ยูเนี่ยน แพคเกจจิ้ง” ลงทุนผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน หลังผนึก RBF* และ SCPL จัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายส่วนผสมในอาหารในอินเดีย

(+) 6 หุ้นกลุ่มผลิตแบตฯ ตีปีก ค่ายใหญ่ โตโยต้า ร่วมวงผลิต-ขายรถ EV (ข่าวหุ้น) หุ้นกลุ่มผลิต “แบตเตอรี่ รายใหญ่คึกคัก นำโดย EA*, GPSC*, PTT*, BANPU*, BPP* และ BCPG* หลังค่ายรถขนาดใหญ่จากญี่ปุ่น “โตโยต้า” โดดร่วมวงขายและผลิตรถ EV ล่าสุด EA* กำลังผลิตมากสุด 1 พันเมกะวัตต์ชั่วโมง

(+) NETBAY รับโชคสองเด้ง ผุดแพลตฟอร์มดิจิทัล iBox (ทันหุ้น) NETBAY เปิดตัวแพลตฟอร์มดิจิทัล iBox โกยรายได้สองเด้ง ค่าเช่าพ่วงค่าทำธุรกิจกรรม ฟากผู้บริหาร “พิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์” ซี้ดีมานด์การจัดการบริหารเอกสารล้น ชูธงรายได้ปีนี้โต 10-15% ต่อจากปีก่อน พร้อมใส่เกียร์อัพมาร์จิ้น

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • ERW (เป้าพื้นฐาน 3.7 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 3.7 บาท)
  • BCP* (เป้าพื้นฐาน 35 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 32 บาท)
  • SPA (เป้าพื้นฐาน 8.7 บาท) แนวรับ 7.8 บาท / แนวต้าน 8.0 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 7.65 บาท)
  • M (เป้าพื้นฐาน 58 บาท) แนวรับ 54.4 บาท / แนวต้าน 56 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 54 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 28.75 บาท / แนวต้าน 30-31 บาท (Trailing stop 28 บาท)
  • ASW (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) แนวรับ 8.25 บาท / แนวต้าน 8.5-8.6 บาท (Trailing stop 8.25 บาท)
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 20.3 บาท / แนวต้าน 21.0-22.0 บาท (Trailing stop 20.2 บาท)
  • CHAYO (เป้า Consensus 17.5 บาท) แนวรับ 13.0 บาท / แนวต้าน 13.3-13.7 บาท (Stop loss 12.6 บาท)
  • III (เป้า Consensus 20.5 บาท) แนวรับ 14.5 บาท / แนวต้าน 15.1-15.6 บาท (Stop loss 14.3 บาท)
  • GULF* (เป้าพื้นฐาน 55 บาท) แนวรับ 48 บาท / แนวต้าน 49.5-50.5 บาท (Stop loss 48 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • กลุ่ม Non-Bank น้ำหนักลงทุน “น้อยกว่าตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯ ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มฯ ใน 1Q65 ไม่โดดเด่น ถูกกดดันจาก Loan yield และค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองฯ นอกจากนี้คาดความสามารถการทำกำไรจะเริ่มถูกกดดันจาก Bond yield ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดประมาณการฯ หุ้น AEONTS*, SINGER*, HENG*, SAK (แนะนำอ่านรายละเอียดในบทวิเคราะห์หุ้นรายตัววันนี้เพิ่มเติม) สำหรับกลุ่ม Non-Bank ยังคงแนะนำ “ซื้อ” SAWAD* (Valuation ถูก) และ KTC* (ยังมีการเติบโตที่ดี)
  • OR แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 26.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 1Q65 = 3.9 พันล้านบาท (-72% YoY, +67% QoQ) กำไรที่คาดจะลดลง YoY (เพิ่มขึ้น QoQ) ในไตรมาสนี้เป็นผลจากค่าการตลาดของ OR ที่ลดลง YoY (เพิ่มขึ้น QoQ) แนะนำเพียง “ถือ” เพราะประเมิน Upside จำกัด

 

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -