บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
AEON Thana Sinsap (AEONTS TB) คาดรายได้เติบโตดีขึ้น
ซื้อ ลด TP เป็น 240 บาท
เราคาดว่าการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะทำให้ความต้องการสินเชื่อส่วนบุคคล และการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นในปี 65 อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นน่าจะลดรายได้ครัวเรือน และความสามารถในการชำระหนี้ลง เราจึงปรับลดคาดการณ์กำไรปี 65-66 ลง 3% ต่อปี เพื่อสะท้อนต้นทุนเครดิตที่สูงขึ้น เราชอบ AEONTS จาก valuation ที่ถูก (P/BV ปี 65 ที่ 2.1 เท่า PER 11.5 เท่า) และ NPL coverage สูง คงคำแนะนำ ซื้อ และลดราคาเป้าหมายเป็น 240 บาท (จาก 250 บาท) คิดเป็น P/BV ปี 65 ที่ 2.6 เท่า PER 14.3 เท่า และ ROE 19.2% ความเสี่ยงที่สำคัญคือคุณภาพสินทรัพย์แย่ลง
กำไร 4Q64 พลาดเป้าจากต้นทุนสินเชื่อเพิ่ม
AEONTS รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4Q64 ที่ 911 ล้านบาท (ธ.ค.64-ก.พ.65) ลดลง 23% YoY จากต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้น กำไรสุทธิปี 64 ลดลง 4% YoY มาอยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท เนื่องจาก NIM ที่ลดลง พอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้น 4.1% YoY และ 1.7% QoQ โดยได้แรงหนุนจากสินเชื่อบัตรเครดิต (+9% YoY) NIM ลดลง 70bps QoQ มาอยู่ที่ 18.0% จากผลตอบแทนเงินกู้ที่ลดลง ขณะที่ Non-Nill เพิ่มขึ้น 11% YoY จากหนี้เสียได้รับเงินคืนที่แข็งแกร่งที่ 404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% YoY ใน 4Q64 โดย OPEX ลดลง 8% YoY นำโดยค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล การตลาด และค่าเช่าที่ลดลงในไตรมาส 4/64 ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น 83% YoY เป็น 1.6 พันล้านบาทหรือต้นทุนเครดิต 7.2% ในขณะที่อัตราส่วน NPL เพิ่มขึ้น 3bp QoQ เป็น 4.86% ในไตรมาส 4/64
คาดการเติบโตของรายได้จะดีขึ้นใน 1Q65
เรามีมุมมองเป็นกลางหลังจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยผู้บริหารตั้งเป้า (1) สินเชื่อเติบโต 7-10% (2) รายได้จากหนี้เสียได้รับเงินคืนเพิ่มขึ้น 18% และ (3) ต้นทุนสินเชื่อทรงตัวในปี 65 ผบห. เผยอีกว่าการใช้จ่ายบัตรเครดิตและความต้องการสินเชื่อส่วนบุคคลดีขึ้น QoQ ใน มี.ค. และเม.ย. 65 ซึ่งบริษัทคาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาเปิดอีกครั้งจะเพิ่มการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ยังได้ จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ด้วยทุน 100 ล้านบาท เพื่อลงทุนและจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ
ลดคาดการณ์กำไรปี 65-66 เพื่อสะท้อนต้นทุนเครดิตที่สูงขึ้น
แม้ว่าเราจะมั่นใจว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและความต้องการสินเชื่อส่วนบุคคลจะเพิ่มขึ้น แต่เราปรับลดคาดการณ์ EPS ในปี 65-66 ลง 3% ต่อปี เพื่อสะท้อนต้นทุนเครดิตที่สูงขึ้น ในมุมมองของเรา ความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นจากราคาอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น หากราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับสูงเกินหกเดือน เราคาดว่าลูกค้าบางรายจะกลายเป็น NPL เนื่องจากรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ที่ลดลง