บล.พาย: 

บมจ.ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า (STANLY) “พร้อมผลิตให้รถไฟฟ้าที่จะเข้ามาผลิตในไทย”

คาด FY4Q22 กำไร 452 ลบ. (-19% YoY, +14%QoQ)

เราคาดว่าผลประกอบการงวด FY4Q22 (ม.ค.-มี.ค.) จะอยู่ที่ 452 ลบ. (-19%YoY, +14%QoQ) การลดลงจากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากฐานที่สูง และกำไรขั้นต้นที่ลดลง (ส่วนหนึ่งเพราะไม่มีรายได้จากแม่พิมพ์เข้ามา ซึ่งปกติ แม่พิมพ์จะมีกำไรขั้นต้นสูง) ขณะที่การเติบโตจากไตรมาสก่อนได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ที่ขยายตัวกว่า 28%QoQ รายได้คาดไว้ที่ 3,900 ลบ. (+2%YoY,+11%QoQ) กำไรขั้นต้นคาดว่าจะอยู่ที่ 19.2% ใกล้เคียงกับ FY3Q22 แต่ลดลงจาก 24% ใน FY4Q21 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 281 ลบ. (-14%YoY, +3%QoQ) ลดลงจากปีก่อนเนื่องจากในงวด FY4Q21 มีการบันทึกค่าใช้จ่ายนายหน้าประจำปี 21 เข้ามาเป็นครั้งเดียวในไตรมาสดังกล่าว ก่อนที่ปี 22 จะทยอยรับรู้เข้ามาทีละไตรมาส รวมทั้งปี STANLY คาดว่าจะมีรายได้ 13,648 ลบ. (+16%YoY) และมีกำไรสุทธิ 1,499 ลบ. (+41%YoY)

ปัญหาขาดชิป ลูกค้ามีโดนบ้างแต่คาดว่าจะดีขึ้น

ภาพรวมปี 23 ในปัจจุบันยังมองว่าแนวโน้มยังเติบโตได้จากการผลิตรถยนต์ในประเทศที่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องจับตามองคือปัญหาการขาดแคลนซิปที่ยังมีอยู่ และทำให้ลูกค้าหลักอย่างฮอนด้าต้องมีการชะลอการผลิตบางรุ่นไป ซึ่งประเด็นนี้คาดว่าจะค่อยๆดีขึ้น หลังฮอนด้ามีการใช้ Supplier จากมาเลเซียเพิ่ม สำหรับโมเดลใหม่ยังมีอย่างต่อเนื่อง แต่คาดว่าจะเริ่มรับรู้ในช่วงปลายปีนี้ ด้านรถไฟฟ้าทาง STANLY คาดว่าจะได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มหากผู้ผลิตมีการใช้ไทยเป็นฐานการผลิต โดยเฉพาะค่ายรถยนต์จากจีน ที่กลุ่ม STANLY มีความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัทในจีนอยู่แล้ว รวมถึงค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นที่หากเข้ามาเมื่อใด ทาง STANLY พร้อมผลิตให้ทุกค่าย

ประเมินปี 23 กำไรโต 6%YoY

แม้กำไรในงวด FY4Q22 จะเห็นการลดลงจากปีก่อน แต่ระดับ 450 ลบ. ยังถือว่าเป็นระดับที่น่าพอใจ โดยเฉพาะกำไรขั้นต้นที่ยังอยู่ในระดับ 19% ดังนั้นเราจึงยังคงประมาณการณ์กำไรในปี 23 (เม.ย. 22-มี.ค.23) ไว้เท่าเดิมที่ 1,583 ลบ. (+6%YoY) สำหรับคำแนะนำการลงทุน ด้วยจุดเด่นตรงเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าค่อนข้างน้อย รวมถึงสถานะบริษัทที่มีเงินสดค่อนข้างมากทำให้มีความพร้อมในการลงทุนเพื่อรับกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเข้ามา เราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ที่ 207 บาท (10XPER’23E)

- Advertisement -