ยังเน้นถือครองเงินสดสูง แต่ระยะสั้นแนะ SPRC TOP
เมื่อวานที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้รายงานเงินเฟ้อไทย ประจําเดือน เม.ย. ขยายตัว 4.65%YoY ปัจจัยหลักยังคง เป็นราคาพลังงาน อาหารสด และต้นทุนผลิตที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาอาหารสำเร็จสูงขึ้น และอีกส่วนมาจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย – ยูเครน รวมถึงส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานการผลิต การค้า การขนส่ง ขณะเดียวกันกระทรวง พาณิชย์ยอมรับว่าต้นทุนหรือราคาหน้าโรงงานของไทยสูงขึ้นค่อนข้างมาก สะท้อนจากดัชนีราคาผู้ผลิตที่ขยายตัว 12.8%YoY และปัจจุบันยังไม่ส่งผ่านออกไปยังผู้บริโภค สังเกตุได้จากดัชนีราคาผู้บริโภคขยายตัวเพียง 4.6%YoY ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ระบุว่าต้นทุนของผู้ผลิตที่เร่งตัวขึ้นมา ได้แก่ สินค้าในกลุ่มปิโตรเลียมและแก๊สธรรมชาติที่ เกี่ยวข้องรวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าเกษตร สอดคล้องกับดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น ผลจากราคาน้ำมัน เหล็ก ถ่านหิน อลูมิเนียม ปรับสูงขึ้น ประเมินกลุ่มได้รับผลกระทบจากต้นทุนเร่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF) ผู้ผลิต (EPG SCC SCGP TOA) รวมถึงรับเหมาก่อสร้าง (CK STEC)
สำหรับตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปรับฐานแรง 3.1% หลักๆ ตลาดยังคงกังวลกับภาวะเงินเฟ้อ และคล้ายว่า ตลาดจะไม่ปักใจเชื่อในสิ่งที่ FED ได้แถลงเอาไว้เมื่อวาน สะท้อนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 และ 10 ปีที่ยังปรับขึ้นต่อเนื่อง ด้าน Vix Index ยังคงปรับขึ้นต่อเนื่อง ถือเป็นภาวะที่สะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุน ส่วนราคาน้ำมันดิบ BRT เมื่อคืนปิดบวกเล็กน้อย 0.7% ยังคงกังวลถึงอุปทานตึงตัวหลัง EU มีแผนจะคว่ำบาตร รัสเซียในด้านพลังงาน ส่วน OPEC+ เมื่อคืนเพิ่มกำลังการผลิตเพียง 4.3 แสนบาร์เรล/วัน เป็นตัวเลขที่ตามตลาด คาดหมายไว้ จึงไม่มีผลใดๆ มากไม่ว่าทางบวกหรือลบ
ประเมิน SET INDEX วันนี้ปรับตัวลงกรอบ 1630 – 1642 รับแรงกดดันเชิงจิตวิทยาจากตลาดหุ้นต่างประเทศ ส่วนในประเทศยังกังวลถึงการปรับลดประมาณการ รวมถึงมูลค่าตลาดที่ยังแพง เชิงกลยุทธ์ไม่เร่งร้อนเช่นเดิม สำหรับ การสะสมยังเน้นถือครองเงินสดสูง ส่วนระยะสั้นกรณีรับความเสี่ยงสูงแนะ น้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP)
SPRC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 11.30 บาท) คาดค่าการกลั่นขาขึ้นจะหนุนการเติบโตของกำไรใน 1Q22 และในปี 2022 ช่วยลดผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วใน 1Q22 ประเมิน downside สูงสุดที่ 500 ล้านบาทต่อประมาณการปี 2022 คิดเป็นผลกระทบที่เพียง 0.12 บาท/หุ้น
TOP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 67 บาท) ภาพรวม 1Q22 และ ทั้งปี 2022 เป็นบวกจากค่าการกลั่นขาขึ้นที่คาดว่าจะช่วยหนุนการเติบโตของกำไรปกติ และเป็นกันชนต่อ downside risk ของราคาหุ้นได้ ขณะที่มีมุมมองเชิงบวกต่อแผนการปรับฐานเงินทุน เพราะการลงทุนในโครงการ CAP จะทางไปสู่ธุรกิจโอเลฟินส์ที่มีศักยภาพสูง
หมายเหตุ ชุดหุ้นที่แนะนำ เหมาะสำหรับการซื้อเพื่อถือลงทุน 1-14 วัน หากนักลงทุนมีกำไรก็สามารถทำกำไรได้โดย แนะตั้ง Stop loss หากขาดทุนเกินกว่า 5% ส่วนราคาเป้าหมายเป็นราคาภายใน 1 ปีจากปัจจุบันที่มาจากปัจจัยพื้นฐาน