Our View? “หลีกหนี”

คาดตลาดวันนี้ “ลงต่อ” มองแนวรับที่บริเวณ 1,630 / 1,615 และแนวต้านที่ บริเวณ 1,650 / 1,655 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment จากตลาดต่างประเทศที่ปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ จากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.75% ในการประชุม FOMC วันที่ 14-15 มิ.ย. เพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ โดยล่าสุด CME FED Watch Tools ซึ่งเป็นเครื่องมือสะท้อนคาดการณ์ของตลาดต่อการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ให้น้ำหนัก FED จะขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ที่ระดับ 85.0% ขณะที่คาดการณ์ว่า ณ สิ้นปีดอกเบี้ยสหรัฐจะอยู่ที่ระดับ 3.00-3.25% ที่ระดับ 42.5% มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้า แม้นายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED จะส่งสัญญาณว่า FED ยังไม่พิจารณาในการขึ้นดอกเบี้นรุนแรงถึงครั้งละ 0.75% หลังจบการประชุม FOMC วันก่อนหน้า ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนว่าตลาดในปัจจุบัน คาดว่า FED จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อได้โดยง่าย  รวมทั้งมีโอกาสคุมเข้มนโยบายต่อเนื่องและมากกว่าที่ส่งสัญญาณไว้ บ่งชี้แนวโน้มการลดลงของกระแสเงินทุนส่วนเกินที่เร็วกว่าที่ตลาดคาด กดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่งปรับตัวลงได้ต่อ

ขณะที่ Dollar Index เมื่อคืนนี้ดีดตัวกลับขึ้นอีกครั้งทดสอบแนวต้านบริเวณ 104.0 จุด พยายามทําจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากประเด็นดังกล่าว คาดจะกระตุ้นค่าเงินในภูมิภาครวมถึงค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง กดดันนักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุน – ขายทำกำไรตลาดในภูมิภาค รวมถึงตลาดหุ้นไทยเพิ่มเติม ลดทอนความน่าสนใจของทิศทางตลาดหุ้นไทย

ผสานกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US-Bond Yield) รุ่นอายุ 10 ปี เมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง โดยปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 3.00% มองเป็นปัจจัยลดทอนความน่าสนใจของสินทรัพย์เสี่ยงในแง่ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยงสินทรัพย์ปลอดภัยแคบตัวเร็วต่อเนื่อง กดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ต่อ ขณะที่เรายังมองแนวต้านบริเวณ 3.25% คาดจะเป็นแนวต้านที่แข็งแรงของ 10 Years US-Bond Yield ไว้ได้บ้าง คาดตลาดอาจเริ่มชะลอการอ่อนตัวลงหลังอัตราผลตอบแทนขุนทดสอบแนวต้านดังกล่าว

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. เมื่อคืนนี้แกว่งตัวผันผวน ปิดที่ระดับ 108.26 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.45 ดอลลาร์ (+0.42%) ยังคงได้รับปัจจัยบวกจากรายงานประธานสหภาพยุโรป (EU) เสนอให้บรรดาประเทศสมาชิกระงับการนําเข้าน้ำมันจากรัสเซียภายใน 6 เดือนอย่างสิ้นเชิง และระงับนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นจากรัสเซียภายในสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐคาดจะกดดันทิศทางราคาน้ำมันได้บ้าง ทั้งนี้เรายังคาดว่าค่าการกลั่นยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ จากการที่ EU ต้องหันมานําเข้าน้ำมันสำเร็จรูปมากขึ้น เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น (BCP, TOP, SPRC และ ESSO)

ในส่วนของปัจจัยในประเทศ คาดตลาดจะยังติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ของ บจ. ต่อ อย่างไรก็ตาม เราแนะนำระมัดระวังแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่ม “หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม” หลังราคาปรับตัวขึ้น คาดสะท้อนประเด็นการผ่อนคลายนโยบายเข้าประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวไปในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่เราคาดว่าหุ้นในกลุ่มส่งออกอาหาร (CPF, GFPT, TU, TFG และ CFRESH) ยังมีความน่าสนใจ จากราคาอาหารโลกที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากผลกระทบของกระทบของความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่หนุนทิศทางราคาปุ๋ยและอาหารสัตว์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “CFRESH”

กลยุทธ์ แนวรับ 3.20 / 3.10 Target 3.50 / 3.76 Stop <3.00

- Advertisement -