แนวโน้มตลาดวันนี้

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นช่วงเปิดตลาดถึง +15 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ หลังเฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงขายต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีพลิกมาอยู่ในแดนลบ ดัชนีทำจุดต่ำใหม่จากวันทำการก่อนหน้า กลุ่มหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ปรับตัวลง แต่หุ้นกลุ่มพลังงานสามารถปรับตัวในแดนบวกจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวในระดับสูง จากที่ยุโรปส่งสัญญาณเตรียมคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,643.30 จุด -8.99 จุด -0.54% มูลค่าการซื้อขาย 77,457 ลบ. ต่างชาติ -180.67 ลบ. TFEX -4,267 สัญญา ตราสารหนี้ -2,001.88 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ +0.4% ปิดที่ 108.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากคาดการณ์ว่า ตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญภาวะตึงตัวมากขึ้น หลังสหภาพยุโรป (EU) ส่งสัญญาณเตรียมคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย

+ ที่ประชุมโอเปกพลัสมีมติคงการเพิ่มกำลังการผลิต 432,000 บาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ค.

+ คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กพศ.) เดินหน้าโครงการระเบียงศก.พิเศษ 4 ภาค เร่งฟื้นฟูประเทศจากสถานการณ์โควิด-19

+ ผู้จัดการวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยผลสํารวจเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวระดับโลก ฉบับล่าสุด พบว่าประเทศไทยถูกจัดอันดับให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวลำดับที่ 4 ที่น่าเดินทางไปเยือนมากที่สุดในโลก

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 7,705 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย รักษาหาย 11,252 ราย

ปัจจัยลบ –

– ดัชนีดาวโจนส์ปิดดิ่งลง 1,063.09 จุด -3.12% ถูกกดดันจากกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนหน้า แม้ประธานเฟดส่งสัญญาณว่ายังไม่ได้พิจารณาเรื่องปรับขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง

– FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นลท.ให้น้ำหนัก 75% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 19% เมื่อเดือนที่แล้ว โดยยังคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมมากกว่า 2% ในปีนี้ ซึ่งจะทําให้สิ้นปีนี้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นแตะ 2.85%

– ธนาคารกลางอังกฤษ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 1% เป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 19,000 ราย สู่ระดับ 200,000 ราย สูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. และเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ ก.ค. 2564

– สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ของสหรัฐเพิ่มบริษัทจีนอีกกว่า 80 แห่ง ลงในรายชื่อบริษัทที่อาจถูกถอดออกจากตลาดหุ้นสหรัฐ

– รมว.กลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า ยานพาหนะทุกคันขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต (NATO) ที่เดินทางเข้ายูเครนเพื่อส่งมอบอาวุธแก่กองทัพยูเครน ถือว่าเป็นเป้าหมายอันชอบธรรมสำหรับการทำลายล้าง

– สนค. เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภค เดือน เม.ย.65 เพิ่มขึ้น 0.34%MoM 4.65%YoY 4M65 ดัชนีเพิ่มขึ้น 1.58%YoY

– FETCO เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลง 19.1%MoM และยังคงอยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” กังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ มองการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่อตามทิศทางตลาดโลก จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนหน้า ส่งผลให้เกิดแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,630-1,650 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • กรณีสงครามยืดเยื้อ ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูง บวกต่อ PTTEP PTTGC TOP , สินค้าเกษตร ข้าวสาลี และ กากถั่วเหลืองขึ้น เป็นบวกต่อ TMILL TVO และเป็นลบต่อธุรกิจอาหารสัตว์ ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น CPF GFPT ASIAN
  • ศบค.ยกเลิกตรวจ RT-PCR มีผล 1 พ.ค. น้ี : AOT ERW CENTEL MINT AWC
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากอากาศร้อน SNC KOOL SAPPE ICHI TACC
  • ตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค.ขยายตัว+เงินบาทอ่อนค่า TWPC ASIAN XO SNC SKN PIMO SMT

หุ้นรายงานพิเศษ

HMPRO – “มุมมองบวก”  Bloomberg consensus 17.50 บาท

  • งวด 1Q65 บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 16,673 ลบ. +5.3%YoY -3.9%QoQ รายได้เพิ่มขึ้น YoY จากการฟื้นตัวของการบริโภค รวมถึงได้ประโยชน์จากโครงการช้อปดีมีคืน และการจัดกิจกรรม Homepro Electric Expo อย่างไรก็ดี ในช่วง 1Q65 บริษัทยังไม่มีการเปิดสาขาใหม่ (ในประเทศ 107 สาขา มาเลเซีย 7 สาขา) ขณะที่ %GPM อยู่ที่ระดับ 25.99% ดีขึ้นเล็กน้อย YoY จากการปรับ Product Mix แต่ลดลง QoQ จากต้นทุนค่าขนส่งที่เร่งขึ้น ส่งผลให้งวด 1Q65 มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 1,511 ลบ.+10.9% YoY -14.9% QoQ
  • บริษัทคาดรายได้ในปี 65 จะสามารถทำระดับสูงสุดใหม่ ซึ่งเคยทำได้ที่ 67,424 ลบ. ในปี 62 (ก่อนโควิด-19) จากสถานการณ์การเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวตามลำดับ ประกอบกับมีแผนเปิดสาขาใหม่ ในช่วง 2H65 ได้แก่ Homepro จำนวน 2 สาขา และ Megahome 5 สาขา อย่างไรก็ดี บริษัทอาจเผชิญปัจจัยเสี่ยง อาทิ 1.ภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น อาจกระทบต่อต้นทุนค่าขนส่ง และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของพนังงาน และ 2. จีนล็อคดาวน์ อาจกระทบต่อ Supply Chain
  • ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มรายได้และกำไรปี 65 ซึ่งคาดจะเติบโตดี YoY แม้มีปัจจัยเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อและจีนล็อคดาวน์ คาด %GPM สามารถทรงตัว YoY จากการปรับ Product Mix และเพิ่มสินค้า Private brand โดย Bloomberg consensus คาดกำไรปี 65 ที่ 6,418 ลบ. +18% YoY ( New high)

หุ้นมีข่าว

(0) TOP (Bloomberg Consensus 64.25 บาท) ยื่นไฟลิ่งเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 275,120,000 หุ้น ชูรากฐานที่มั่นคงจากธุรกิจการกลั่นน้ำมัน พร้อมตั้งเป้าต่อยอดสู่การเติบโต ทางธุรกิจครั้งใหม่ (New Round of Growth) ในปี พ.ศ. 2569-2573 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SABUY (Bloomberg Consensus 50.00 บาท) SABUY ได้ TSR ดันสู่โมเดลซิงเกอร์ ขายสินค้า เงินผ่อน จ่อปั้นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเองต่อยอดธุรกิจ โกยเงินเพิ่ม คาดชัดเจนไม่เกิน 2 เดือนนี้ ฐานลูกค้า 1.2 ล้านครอบครัว เร่งขยายเป็น 10 ล้านครอบครัว ขณะที่การลงทุนร่วม COM7 ปั้นธุรกิจไอที ล่าสุดลงทุนในคอลเซ็นเตอร์ และบริหารทรัพยากรบุคคล ชูโมเดลเย้ายวนยักษ์ข้ามชาติร่วมทำตลาดในไทย ชี้มีดีลเพียบ จับตาประกาศงบ 10 พฤษภาคมนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) JKN (Bloomberg Consensus 7.20 บาท) วางเป้าปี 68 รายได้แตะ 5,000 ล้านบาท หวังก้าวสู่ผู้นำธุรกิจ Content Commerce ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนปีนี้คาดรายได้ 2,100 ล้านบาท วางงบ 1,000 ล้านบาท กวาดซื้อคอนเทนต์ทั่วโลกเสริมพอร์ต-ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 50 รายการ จ่อคลอดผลิตภัณฑ์กัญชา-กัญชง ไตรมาส 3/65 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TVD (Bloomberg Consensus – บาท) เร่งขยายธุรกิจ BTO ให้บริการด้านเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจ ปั้นบริการ “ดาต้าเซ็นเตอร์-ซอฟต์แวร์เซอร์วิส-ไอทีเซอร์วิส” วางแผนลงทุนเหมืองขุดเงินดิจิทัล หวังเป็น New S–Curve วางเป้าหมายเพิ่มฐานลูกค้าภายนอกเป็น 50% (ที่มา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 6 พ.ค. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวการณ์ซื้อขายหลักทรัพย์
  • สัปดาห์ที่ 2 หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
  • 11 พ.ค. ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบัน ภาคเอกชน (กกร.)
  • 17 พ.ค. วันสุดท้ายส่งงบการเงิน 1Q65
  • 18 พ.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 3/2565

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 6 พ.ค. สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.
  • 10 พ.ค. อียู รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนพ.ค.

สหรัฐ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนเม.ย.

  • 11 พ.ค. จีน รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย.

สหรัฐ รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

- Advertisement -