KS Daily View 06.05.2022 >> ประเมิน Sell In May เกิดครึ่งเดือนแรก พ.ค. ยังไม่แนะนำเพิ่มพอร์ต SET วันนี้คาด 1630+- หุ้นแนะนำ DTAC
ต่างประเทศ : ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนปรับฐานแรงหลังจาก Rebound หลังประชุม Fed กลางอาทิตย์ โดยดัชนี Dow Jones -3.1%DoD, ดัชนี S&P500 -3.6%DoD (กลุ่มสาธารณูปโภค -1.0%, กลุ่มพลังงาน -1.5%, กลุ่มสินค้าจำเป็น -1.9%, กลุ่ม healthcare -1.9%, กลุ่มการเงิน -2.8%,กลุ่ม IT -4.7% กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย-5.5% (Tesla -8.3%)., ดัชนี Nasdaq -4.99%) โดยปัจจัยกดดันตลาดหุ้นสหรัฐมาจากตลาดกังวลดอกเบี้ยขาขึ้นจากสหรัฐอีกครั้ง โดย Bond Yield สหรัฐ 2 ปี ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2.74% และอายุ 10 ปี ทะลุ 3% มาที่ 3.06% แนวโน้ม Bond Yield ที่ปรับเพิ่มขึ้นประเมินเป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มการเงิน (MTC, SAWAD, CHAYO, MICRO ฯลฯ) และกังวลประเด็น Real Yield เป็นบวกหรือ Yield adjusted inflation ปัจจุบันขยับขึ้นมาเป็นบวก จากก่อนหน้า Real yields ติดลบมากกว่า 1% มา 3 ปีนับตั้งแต่ช่วง Covid โดยรวมประเมินเป็น Sentiment ลบต่อตลาดหุ้นเอเซียในวันนี้
ส่วนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังทรงตัวสูง โดยเมื่อวานผลประชุม OPEC+ มติยังคงไม่เปลี่ยนแปลงแผนการผลิตน้ำมัน สำหรับเดือน มิ.ย.65 การเพิ่มขึ้นรายเดือนจะอยู่ที่ 0432 ล้านบาร์เรล/ วัน โดยรวมราคาน้ำมันดิบโลก Brent ล่าสุดยังยืนเหนือ 110 เหรียญฯ KS ยังแนะนำหุ้นพลังงาน PTEEP, SPRC, BCP
ในประเทศ : เมื่อวานมีการรายงานเงินเฟ้อไทย (CPI) เดือน เม.ย.65 (+4.7% YoY) ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด แต่ในเชิง MoM เงินเฟ้อยังคงเพิ่มขึ้น (+0.4% MoM) ด้าน Core CPI (+2%) ออกมาตามคาด ทิศทางเงินเฟ้อที่สูงคาดจะบวกต่อหุ้น BEM การปรับราคาค่าโดยสารครั้งต่อไปจะขึ้นอยู่กับเงินเฟ้อพื้นฐาน, อีกฝั่งนึงคือ แม้แนวโน้มเงินเฟ้อไทยคาดยังทรงตัวสูง แต่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยไทย คาดยังทรงตัวต่ำที่ 0.5% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ สวนทางกับดอกเบี้ยสหรัฐที่เป็นขาขึ้น ณ.สิ้นปี 2565 ตลาดคาดจะอยู่ที่ 2.25-2.75% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยสหรัฐ และไทยกว้าง หนุนเงินไหลออก และมีโอกาสหนุนให้เงินบาท/ดอลลาร์มีโอกาสอ่อนค่า ช่วงสั้นกลับมาอ่อนค่าอีกครั้งที่ 34.3 บาท Setiment บวกต่อหุ้นส่งออก (ASIAN,GFPT, SAPPE)
ส่วนประเด็นที่ให้น้ำหนักและติดตามช่วงนี้ คือ 1.) การรายงานงบงวด 1Q22 อาทิ FPT,PSL,THCOM, TPCH, ZEN ฯลฯ (เมื่อวาน บริษัทที่ประกาศงบคือ ออกมาตามที่คาด (Inline) คือ DOHOME ส่วนบริษัทที่รายงานงบต่ำคาด คือ LPN) 2.) ติดตามการเก็บภาษีขายหุ้น (FTT) ล่าสุด กรมสรรพากร เผยว่าการจัดเก็บภาษีอยู่ระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสม คาดจัดเก็บจากการขายหุ้นเท่านั้น แต่เมื่อวานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ส่งหนังสือค้านต่อกระทรวงการคลังเพื่อค้านการจัดเก็บ KS ประเมินผลกระทบหากเกิดขึ้นคาด 2.1) รัฐจะมีรายได้มากขึ้นจากการเก็บภาษี 2.2) FTT จะทำให้มูลค่าการซื้อขายของตลาดลดลง 2.3) ความนิยมในการซื้อขายหุ้นในตลาดลดลงส่งผลให้ค่า PE ของหุ้นและตลาดต่ำลง ต้นทุนการเงินของบริษัทจดทะเบียนสูงขึ้น 2.4) แรงจูงใจในการเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดน้อยลง
Theme แนะนำการลงทุน : KS ประเมินว่า Theme การลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นจะเผชิญปัจจัยกดดันทั้ง Real yields เป็นบวก, ดอกเบี้ยสหรัฐเป็นขาขึ้น Fed ลด Balance Sheet สงครามรัสเซีย-ยูเครน ฯลฯ คือ 1.) Theme หุ้นคุณภาพ (Value & Qaulity) อาทิ BRI, AEONTS, KKP, KTB, DCC 2.) Theme หุ้นแนวโน้มกำไรไตรมาส 2 จะดีต่อ อาทิ PTTEP, CPALL, BH, BDMS, PR9, AWC, CENTEL, MINT, SHR, AOT, CPN, DTAC, PSL, RBF, TVO, EPG 3.) Theme แนวโน้มเงินบาทอ่อนค่า แนะนำหุ้นส่งออก (ASIAN, SAPPE, GFPT, EPG) 4.) Theme หุ้นเปิดเมือง (Reopen) BEM, MAJOR
ส่วนกลุ่มแนะนำชะลอการลงทุน คือ 1.) Global play อาทิ กลุ่มปิโตรเคมี,อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ จากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกมีความน่าจะเป็นสูงขึ้นที่เผชิญ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย กลุ่ม Global Play มีเพียง Sector เดียวที่ยังแนะนำลงทุน คือ กลุ่มโรงกลั่น อาทิ SPRC,ESSO,TOP ฯลฯ ตามทิศทางค่าการกลั่นที่ปรับตัวสูงขึ้นทำ All time high 2.) หุ้นกลาง-เล็กที่ Valuation แพง PE สูง
มุมมองตลาดหุ้น : KS ประเมิน SET Index จากเมื่อวาน Rebound แต่ไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,666 จุดประเมินแนวโน้ม Rebound รอบนี้และจะแกว่งตัวลง(Sideway down) โดยวันนี้คาดได้รับ Sentiement ลบจากต่างประเทศ โดยรวมยังคงมุมมองเหตุการณ์ Sell in May ยังเกิดในครึ่งเดือนแรกของเดือน พ.ค.65 ประเมินกรอบแนวรับรอบนี้ 1610-1630 จุด และแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1585 จุด ยังไม่แนะนำเพิ่มพอร์ตลงทุน แนะนำรอดูครึ่งเดือนหลัง
มุมมองตลาดหุ้น SET วันนี้คาด 1630 +- หุ้นแนะนำ DTAC
Top pick :
DTAC (ราคาพื้นฐาน 57.5 บาท) ปัจจัยหนุน คือ1)การจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานและกำไรสะสมก่อนการซื้อหุ้นสามัญแบบสมัครใจ(VTO) 2)พัฒนาการเกี่ยวกับการควบรวมกิจการ KS ยังคงมุมมองดีลจะผ่าน แต่จะล่าช้า 1-3 เดือน
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันศุกร์ ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด 3.8 แสนตำแหน่ง (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.31 แสนตำแหน่ง) อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด 3.5% (ดีขึ้นกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 3.6%) ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด +5.5% YoY และถ้อยแถลงของ Fed Williams Fed Bostic Fed Waller และ Fed Daly