บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) 42.9%
Close May 5, 2022 Price (THB) 18.90
12M Target (THB) 27.00
What’s new?
- คาด BAM รายงานกำไรสุทธิ 1Q65 จำนวน 325 ลบ. ลดลง 67%QoQ หลังผ่านช่วง High Season ในช่วงปลายปี แต่คาดโต 31.7%YoY หลังคาดรายได้จากการบริหารหนี้ NPL ปรับตัวดีขึ้น ทั้งจากลูกหนี้ NPL ปรับโครงสร้างหนี้ และลูกหนี้ NPL ที่ขอเจรจาปิดบัญชีหนี้เสีย คาดกำไร 1Q65 เป็นจุดต่ำสุดของปี และจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น ต่อเนื่องตั้ง 2Q65 เป็นต้นไป หนุนด้วยการชำระหนีเสียของลูกหนี้ขนาดกลาง และการจัดกิจกรรมการตลาดเพิ่มขึ้น
Our view
- เรายังชอบ BAM จากแนวโน้มธุรกิจที่ฟื้นตัวขึ้น และมี Upside จากการจัดตั้ง JVAMC ร่วมกับพันธมิตรธนาคารพาณิชย์ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา ขณะที่ในแง่ Valuation ค่อนข้าง Laggard และซื้อขายด้วย PBV ที่ต่ำกว่าคู่แข่งมาก และกลับมามี Upside ราว 42.9% จากมูลค่าพื้นฐานปี 2565 เดิมที่ 27 บาท (อิง Prospective PBV ที่ 2x) และคาดให้ Div. Yield 3.4% จึงคงคําแนะนำ “ซื้อ”
BANGKOK ASSET MANAGEMENT มองกำไรฟื้นตัว และราคาหุ้นยัง Laggard กว่าอุตสาหกรรม
กําไร 1Q65 คาดลดลง QoQ หลังผ่าน High Season แต่โต 31.7%YoY เราคาด BAM จะมีกำไรสุทธิ 1Q65 ราว 325 ลบ. ลดลง 67%QoQ จากผลของ Seasonal ที่ปกติจะมีการชำระบัญชี หรือชำระเงินค่าซื้อ NPA จำนวนมากในช่วงปลายปี แต่คาดโต 31.7%YoY โดยมีปัจจัยหนุน หลักจากทั้ง
1) รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิคาดขยับขึ้น 6.7%YoY สอดรับกับปริมาณลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ที่ปรับเพิ่มขึ้น และด้วยเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวคาดทำให้การจัดเก็บหนี้ขยับดีขึ้นตาม
และ 2) รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยคาดปรับขึ้น 5.1%YoY โดยแม้คาดการปิดการขาย NPA จะปรับตัวลง หลังบริษัทปรับขึ้นราคาของทรัพย์รอการขายบางส่วนในสอดคล้องกับความต้องการของตลาด แต่คาดผลกระทบดังกล่าวจะถูกชดเชยด้วยจำนวนลูกหนี้ NPL ที่มีการขายสินทรัพย์ผ่านกรมบังคับคดีที่เร่งตัวขึ้นมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนที่กรมบังคับคดีหลายสาขาหยุดดำเนินงาน จากผลของการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างไรก็ดี เรา คาดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะขยับขึ้น 18.5%YoY จากการเพิ่มพนักงานเพื่อรองรับพอร์ตหนี้เสียใหม่ๆ และเริ่มกลับมาจัดกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น
คาด 1Q65 เป็นจุดต่ำสุดของปี และจะเริ่มปรับตัวขึ้นตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไป
หากเป็นไปตามคาด กำไรสุทธิ 1Q65 จะคิดเป็น 10.9% ของประมาณการทั้งปี โดยเรามองว่า 1Q65 จะเป็นจุดต่ำสุดของปีจากผลของ Seasonal และจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น QoQ ต่อเนื่องนับตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไป โดยเบื้องต้นใน 2Q65 คาดจะมีลูกหนี้ NPL ขนาดกลาง (300-400 ลบ.) จำนวน 2 รายที่อยู่ระหว่างเจรจาเพื่อปิดบัญชีหนี้เสีย ทำให้คาดกำไรจากการให้สินเชื่อลูกหนี้ NPL จะขยับขึ้น ส่วนการขาย NPA คาดจะปรับตัวดีขึ้น หลังบริษัทมีการอนุมัติทรัพย์ NPA ราคาพิเศษเพิ่มเข้ามาอีกกว่า 2,000 รายการ และจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ในเดือน เม.ย. 65 นอกจากนี้ BAM ยังพร้อมสนับสนุนทางการเงินให้กับลูกค้าที่ต้องการซื้อ NPA แบบผ่อนชำระผ่านบริษัท ซึ่งคาดช่วยเร่งยอดขาย NPA ให้ฟื้นตัวขึ้นได้ดี พร้อมๆ กับการเจาะตลาดลูกค้ารายย่อยที่ต้องการลงทุนในอสังหาฯ มือสองที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว ทำให้เราคงคาด BAM จะมีกำไรสุทธิในปี 2565 ที่ 2,979 ลบ. โต 14.6%YoY
มองราคาหุ้น Laggard และมี Upside น่าสนใจเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
เรายังชอบ BAM จากแนวโน้มธุรกิจที่ฟื้นตัวขึ้น และมี Upside จากการจัดตั้ง JVAMC ร่วมกับพันธมิตรธนาคารพาณิชย์ ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา (คาดรู้ผลในช่วงปลายปี 65) นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างจัดตั้งธุรกิจด้านการบริหารหนี้ที่ไม่มีหลักประกันในส่วนที่เหลือจากการบังคับคดีของบริษัท ซึ่งจะช่วยให้ศักยภาพในการทำกำไรของบริษัทเพิ่มสูงขึ้นในระยะกลาง-ยาว ขณะที่ในแง่ Valuation ค่อนข้าง Laggard และซื้อขายด้วย PBV ที่ต่ำกว่าคู่แข่งมาก และกลับมามี Upside ราว 42.9% จากมูลค่าพื้นฐาน 2565 เดิมที่ 27 บาท (อิง Prospective PBV ที่ 2x) และคาดให้ Div. Yield 3.4% จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”