บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Upgrade)
TP upside (downside) 18.4%
Close May 5, 2022 Price (THB) 14.70
12M Target (THB) 17.40
Previous Target (THB) 17.90
What’s new?
- คาดกำไรปกติ 1Q65 ที่ 106 ลบ. (-76% QoQ, +43.6% YoY) หลักๆ มาจากรายได้ธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ และส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมค้าจากบริษัท ANI
- ธุรกิจขนส่งทางรางภายในประเทศยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เราคาดจะค่อยๆ สร้างรายได้เพิ่มขึ้นใน 2Q65 แต่จะเริ่มมีนัยสำคัญจริงๆ ในช่วง 2H65
Our view
- คาดกำไรปกติในปี 2565 เติบโต 34.2% YoY เป็น 428 ลบ. หลักๆ มาจากการเข้าลงทุนในบริษัท Asia GSA (M) และการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Shipsmile เป็น 43.0% นอกจากนี้ยังมี Upside จากธุรกิจขนส่งทางรางคาดส่วนใหญ่รับรู้ใน 2H65
- เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย ณ สิ้น ปี 2565 ที่ 17.40 บาท ทั้งนี้ ราคาปิดเมื่อวานมี Upside ต่อราคาเป้าหมายอยู่ 18.4%
TRIPLE I LOGISTICS คาดกำไร 1Q65 เติบโต 44% YoY
คาดกำไรปกติ 1Q65 เติบโต 43.6% YoY
เราคาดกำไรปกติใน 1Q65 ที่ระดับ 106 ลบ. (-7.6% QoQ, +43.6% YoY) เติบโตเด่น YoY หลักๆ มาจาก
1) รายได้จากธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์คาดเติบโต 269.4% YoY เป็น 214 ลบ. เป็นผลมาจากธุรกิจ คลังสินค้า และบริการมีลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ประกอบกับมีรายได้รับจัดส่งสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
และ 2) ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมค้าคาดที่ 76 ลบ. (-1.5% QoQ, +41.5% YoY) เติบโต YoY หลักๆ มาจากส่วนแบ่งกำไรของ ANI ที่เพิ่มขึ้นตามค่าระวางทางอากาศที่ปรับตัวสูงขึ้น และการเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Asia GSA (M) คาดเข้ามาใน 1Q65 ราว 10 ลบ. +/-
อย่างไรก็ตาม คาดกำไรปกติใน 1Q65 ลดลง QoQ เนื่องจากรายได้ Air Freight คาดลดลง 35.2% QoQ เป็น 380 ลบ. เป็นผลมาจากทั้งปริมาณการขนส่ง (จากปัจจัยทางฤดูกาล) และค่าระวางทางอากาศปรับตัวลดลงเช่นเดียวกัน (อ้างอิง Baltic Air Freight Index เฉลี่ยใน 1Q65 ลดลง 16.2% QoQ) ทั้งนี้ หากกำไรปกติในช่วง 1Q65 ใกล้เคียงกับที่เราคาดการณ์จะคิดเป็น 24.9% และ 22.7% เมื่อเทียบกับประมาณการณ์ปี 2565 ของเราและ Bloomberg consensus ตามลำดับ
สำหรับแนวโน้มกำไรปกติใน 2Q65 คาดเติบโตเด่น YoY (เป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน) และมีโอกาสเติบโต QoQ ค่อนข้างสูง หนุนจากปริมาณการขนส่งทางอากาศ ซึ่งมีประเด็นบวกจากการยกเลิก Test&Go ตั้งแต่ 1 พ.ค. 2565 ทำให้สายการบินต่างๆ มีการเพิ่มเส้นทางบินมากขึ้น ประกอบกับค่าระวางทางอากาศเฉลี่ย QTD สูงกว่าค่าเฉลี่ยใน 2Q64 อยู่ 30.3%
ธุรกิจใหม่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น คาดหนุนกำไรอย่างมีนัยยะใน 2H65
ธุรกิจขนส่งทางรางภายในประเทศผ่านบริษัท ทริพเพิล ไอ เรลจิสติกส์ ได้เริ่มดำเนินธุรกิจไปแล้วใน ธ.ค. 2564 อย่างไรก็ตาม เป็นเพียงช่วงเริ่มต้นและยังสร้างกำไรได้ไม่เกิน 5 ลบ. ในช่วง 1Q65 เราคาดจะค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นใน 2Q65 และจะสร้างรายได้และกำไรอย่างมีนัยสำคัญจริงๆ ในช่วง 2H65 นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรต่างชาติอีก 2-3 ราย เพื่อขยายเส้นทางการขนส่งไปยังประเทศลาวและประเทศจีนคาดเปิดตัวได้ใน 2Q65
ทั้งนี้ เรายังไม่รวมธุรกิจขนส่งทางรางไว้ในประมาณการ เนื่องจากอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของแผนการดำเนินงานและโครงสร้างรายได้ (คาดเห็นความชัดเจนมากขึ้นในช่วงกลางปี 2565) แต่เบื้องต้นคาดเป็น Upside risk ต่อประมาณการปี 2565 ราว 20-40 ลบ. +/-
เรามีการปรับประมาณการปี 2565 ลง 2.2% เพื่อสะท้อน 1) การจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท เทเลพอร์ต (ประเทศไทย) ส่งผลให้ประมาณการปีนี้ลดลง 12 ลบ.และ 2) แผนขยายพื้นที่คลังสินค้าอันตรายเพิ่ม 2.0 พันตร.ม. ในช่วงกลางปี 2565 คาดหนุนประมาณการปีนี้ราว 2 ลบ. อย่างไรก็ตาม เราคาดกำไรปกติ 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 34.2% YoY เป็น 428 ลบ. คาดทำจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง
ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 17.40 บาท/หุ้น
เราปรับคำแนะนำขึ้นจาก “TRADING” เป็น “BUY” ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2565 ที่ 17.40 บาท/หุ้น (Dilution III-W1 ที่ 50% จากจำนวนหน่วยทั้งหมด) อิง PER2565 ที่ 27.9x เทียบเท่า +1.0 SD จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของบริษัท เนื่องจากราคาหุ้นมีการปรับตัวลงมา 12.5% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คาดสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว เป็นผลให้มี Upside ต่อราคาเหมาะสมอยู่ 18.4% นอกจากนี้ บริษัทมีแผน Spin-Off บริษัท เอเซีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชัลแนล (ANI) เพื่อนำเงินไปซื้อหุ้น 80% ที่เหลือของบริษัท Asia GSA (M) คาดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ใน 4Q65 หากธุรกรรมดังกล่าวสำเร็จจะเป็น Catalyst ต่อราคาหุ้นในระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเป็นการปลดล็อคมูลค่าที่แท้จริงของธุรกิจตัวแทนขายระวางเครื่องบิน