บล.พาย: 

LH: คาดกำไร 1Q22 โต YoY

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 11.20 บาท คำนวณด้วยวิธีรวมส่วนธุรกิจ (SOTP) ถึง 13.4XPE’22E หรือ +0.5SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี คำแนะนำนี้สะท้อนคาดการณ์ถึงผลประกอบการที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งในปี 2022 หลังคลายล็อกดาวน์ บวกกับอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าดึงดูดระดับ 6.4% ในปี 2022

  • คาดกำไรสุทธิ 1Q22 โต YoY แตะ 1.94 พันล้านบาท (+11%YoY, -3.6%QoQ) หนุนจากการรับรู้รายได้ที่สูงขึ้นจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ 7.7 พันล้านบาท (+8.1%YoY) และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นเป็น 715 ล้านบาท (+11% YoY)
  • การเปิดตัวโครงการใหม่จะหนุนผลประกอบการ 1Q22
  • คาดถึงทิศทางกำไรที่ดีตลอดไตรมาสที่เหลือของปี

พรีวิวผลประกอบการ

  • คาดกำไรสุทธิ 1Q22 โต YoY แตะ 1.94 พันล้านบาท (+11% YoY, -3.6%QoQ)
  • การขยายตัวในเชิง YoY มีแรงหนุนมาจาก 1) การรับรู้รายได้ที่สูงขึ้นจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ 7.7 พันล้านบาท (+8.1%YoY) ซึ่งได้อานิสงส์จาก backlog แนวราบที่แน่นอนแล้วระดับ 2.4 พันล้านบาทใน 4Q21 และการเปิดตัวโครงการใหม่ใน 1Q22 ด้วยมูลค่าที่ 4.8 พันล้านบาท และ 2) การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นเป็น 715 ล้านบาท (+11%YoY) เป็นผลจากกำไรจาก HMPRO และ QH ที่ปรับดีขึ้น
  • กำไรสุทธิที่ลดลงเล็กน้อย QoQ ถูกฉุดลงจากการรับรู้รายได้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลงมาอยู่ที่ 7.7 พันล้านบาท ( 7.4%QoQ) สืบเนื่องจากปัจจัยตามฤดูกาล
  • คาดอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ใน 1Q22 ที่ 31% เทียบกับ 30.5% ใน 1Q20 เป็นผลจากอัตรากำไรของกลุ่มแนวราบที่ปรับดีขึ้น

คาดการเปิดตัวโครงการใหม่จะช่วยหนุนกำไร 1Q22

บริษัทเปิดตัวแนวราบไป 2 โครงการ มูลค่ารวมที่ 4.8 พันล้านบาท ประกอบด้วยบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดด้วยราคาเฉลี่ยต่อยูนิตที่ 8.2 ล้านบาท และ 5 ล้านบาท ตามลำดับ โดยคาดว่าโครงการใหม่เหล่านี้จะช่วยหนุนยอดขายและการรับรู้รายได้ของบริษัทใน 1Q22 ด้วยแรงหนุนจากการกลับมาของกลุ่มลูกค้าในตลาดระดับกลาง ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงขึ้นหลังเปิดประเทศ

ยอดขายที่แข็งแกร่งใน 1Q22 สะท้อนทิศทางกำไรที่ดีต่อเนื่อง

คาดยอดขาย 1Q22 แตะจุดสูงในรอบ 7 ไตรมาสที่ 8 พันล้านบาท มีแรงหนุนมาจากกลุ่มแนวราบ ขณะเดียวกันก็เล็งเห็นทิศทางยอดขายที่โตต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่เหลือของปีจาก 1) อุปสงค์ที่สะสมมาจากช่วงก่อนที่ไหลเข้าสู่กลุ่มอสังหาฯ ราคาระดับกลางหลังคลายล็อกดาวน์บวกกับเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น 2) การเปิดตัวโครงการใหม่ใน 1Q22 ด้วยมูลค่ารวมที่ 4.8 พันล้านบาทที่จะช่วยหนุนยอดขายแนวราบ และ 3) แนวโน้มราคาอสังหาฯ ที่สูงขึ้นตามเงินเฟ้อ ซึ่งจะกระตุ้นมูลค่ายอดขายให้สูงขึ้น

คาดกลุ่มคอนโดจะฟื้นตัวในปี 2022

คาดกลุ่มคอนโดจะฟื้นตัวในปี 2022 ทั้งในแง่ของยอดขายและการรับรู้รายได้ ด้วยแรงหนุนจากการกลับมาของลูกค้าต่างชาติ เนื่องจากมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นหลังเปิดประเทศ ยิ่งกว่านั้นก็คาดว่าจะมีการรับรู้รายได้จากโครงการเดอะ คีย์ พระราม 3 มูลค่า 2 พันล้านบาทใน 3Q22 ด้วยเช่นกัน

โครงการใหม่จำนวนมากจะหนุนอุปสงค์ที่อั้นจากช่วงก่อน

คงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมด้านผลการดำเนินงานในปี 2022 ของบริษัทด้วยแรงหนุนจาก 1) การกลับมาของจำนวนลูกค้าหลังเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นบวกกับการกลับมาเปิดประเทศ 2) การเปิดตัว 17 โครงการใหม่มูลค่ารวมที่ 2.95 หมื่นล้านบาท (+50%YoY) สูงสุดในรอบ 3 ปี และการรับรู้รายได้ใน 3Q22 จากโครงการคอนโดเดอะ คีย์ พระราม 3 มูลค่า 2 พันล้านบาท ที่คาดว่าจะรับรู้รายได้เต็มอัตราภายใน 1Q23 3) รายได้ค่าเช่าที่สูงขึ้นจากการเปิดให้บริการเทอร์มินอล 21 พระราม 3 และแกรนด์ เซ็นเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยาใน 3Q22 และ 4) กำไรพิเศษมากกว่า 1 พันล้านบาท (สูงสุดในรอบหลายปี) จากการขายสินทรัพย์ในสหรัฐฯ ในช่วงปลาย 2022

Revenue breakdown

บริษัทพัฒนาบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ๆ มีสินค้าหลากหลายช่วงราคาที่สอดรับกับความต้องการของลูกค้า โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คิดเป็นสัดส่วน 93% ของรายได้รวมของบริษัท

ธุรกิจโรงแรมคิดเป็นสัดส่วน 2% ของรายได้รวมของบริษัท โดยมีการดำเนินธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์ Grande Centre Point

รายได้ค่าเช่าคิดเป็นสัดส่วน 3% ของรายได้รวมของบริษัท โดยทำการพัฒนาและดำเนินธุรกิจศูนย์การค้าและอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าเชิงพาณิชย์ภายใต้แบรนด์ Terminal 21

นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการจัดการจากกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 2% ของรายได้ทั้งหมด

- Advertisement -