บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Airports of Thailand (AOT.BK/AOT TB)*

ประมาณการ 2Q65F: จะขาดทุนลดลงทั้ง YoY และ QoQ

Event

ประมาณการ 2Q65 (มกราคม-มีนาคม 2565)

Impact

คาดว่าผลขาดทุนใน 2Q65F จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ

เราคาดว่าผลขาดทุนสุทธิของ AOT ใน 2Q65F จะลดลงเหลือ 2.91 พันล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 3.64 พันล้านบาทใน 2Q64 และ 4.27 พันล้านบาทใน 1Q65 ซึ่งผลการดำเนินงานโดยรวมที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นเพราะประเทศไทยกลับมาเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็น 8.94 ล้านคน (+77.0% YoY, +29.4% QoQ) ใน 2Q65 เราคาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 3.22 พันล้านบาท (+81.3% YoY, +38.5% QoQ) ในขณะที่คาดว่า EBIT margin จะอยู่ที่ -103.1% ดีขึ้นจาก -230.7% ใน 2Q64 และ -224.0% ใน 1Q65 ซึ่งตามประมาณการ 2Q65F ของเรา ผลการดำเนินงานโดยรวมยังคงได้รับผลกระทบจากการที่ COVID-19 ระบาดหนักในประเทศไทย แม้ว่าผลกระทบจะเบาลงเนื่องจากมีการผ่อนคลายข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างประเทศลง แต่เราคิดว่ายังไม่พอที่จะทำให้บริษัทถึงจุดคุ้มทุนได้ เพราะรายได้รายไตรมาสคิดเป็นสัดส่วนเพียง 20% ของระดับก่อน COVID ระบาดเท่านั้น ซึ่งเมื่อถึงตามประมาณการ 2Q65F ของเรา ผลขาดทุนสุทธิของ AOT ใน 1H65F จะอยู่ที่ 7.18 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY) เนื่องจาก 1H65 เป็นช่วงต้นของการฟื้นตัว

ผลการดำเนินงานใน 2H65 มีแนวโน้มแข็งแกร่งมากขึ้น HoH

เรายังคงมองว่าการกลับมาเปิดประเทศไทยจะเป็นพัฒนาการด้านบวกสำหรับประเทศ รวมทั้ง AOT ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นผลประกอบการของ AOT ในอีกสองสามปีข้างหน้าจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เราคาดว่าผลประกอบการของ AOT จะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งในปี FY66F ภายใต้สมมติฐานว่า มีการประกาศให้ COVID-19 เป็นโรคประจำถิ่นใน 2H65 ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของ AOT ดีขึ้น อย่างมากทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบินและเกี่ยวกับการบิน

ยังคงมองบวกกับแนวโน้มระยะยาว

เราคิดว่าประเทศไทยดูน่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ที่เริ่มเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ทั้งนี้ แม้จะเป็นช่วงเริ่มต้นของการเปิดประเทศ และผลตอบรับโดยรวมดูเป็นบวก และเมื่อพิจารณาจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย พบว่าจำนวนผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นจาก 7,900 คน/วันในเดือนพฤศจิกายน 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 16,600 คน ในเดือนธันวาคม และ 20,700 คน ในเดือนมีนาคม 2565 และยังมีแนวโน้มเป็นบวกต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นเป็น 30,900 คน/วัน ในเดือนเมษายน ดังนั้น เราจึงมั่นใจว่าจะเห็นการฟื้นตัวเมื่อมีการเปิดประเทศอย่างเต็มที่ในปี 2566

Valuation & Action

จากประเด็นการพลิกฟื้นของ AOT เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ และยังคงราคาเป้าหมาย DCF ปี FY65 เอาไว้ที่ 73.00 บาท (ใช้ WACC ที่ 9% และ TG ที่ 3%)

Risks

COVID-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง เศรษฐกิจถดถอย และปัญหาความไม่สงบทางการเมืองของไทย

- Advertisement -