Our View? “ไม่ไหวก็ยอม”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,615 /1,600 และแนวต้านที่บริเวณ 1,635 /1,645 คาดตลาดยังคงได้รับ Sentiment เชิงลบจากตลาดต่างประเทศ หลังนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน (FED) ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าสหรัฐแข็งแกร่งมาก และอยู่ในสถานะที่ดีพอที่จะรับมือนโยบายการเงินตึงตัว ซึ่งจะส่งผลให้การลงทุนของภาคธุรกิจและการใช้จ่ายภาคครัวเรือนชะลอลงและเศรษฐกิจเติบโตช้าลงก็ตาม กระตุ้นความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยที่รุนแรง และการคุมเข้มทางนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เพื่อสกัดการเร่งตัวขึ้นเร็วของอัตราเงินเฟ้อในระยะถัดไป บ่งชี้แนวโน้มกระแสเงินทุนส่วนเกินจะเริ่มลดลงต่อเนื่องในระยะถัดไป ขณะที่ Dollar Index ยังคงเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 104.0 จุด เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา กดดันค่าเงินในภูมิภาครวมถึงค่าเงินบาทอ่อนค่าได้ต่อ คาดจะกดดันนักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุน – ขายทำกำไรตลาดในภูมิภาครวมถึงตลาดหุ้นไทยเพิ่มเติม ลดทอนความน่าสนใจของทิศทางตลาดหุ้นไทย

ทางด้านราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นปิดที่ระดับ 109.17 ดอลลาร์/บาร์เรล +1.51 ดอลลาร์ (+1.39%) ยังคงได้รับปัจจัยบวกจากแนวโน้มการออกมาตรการระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียของสหภาพยุโรป (EU) คาดจะระงับการนำเข้าน้ำมันภายใน 6 เดือนอย่างสิ้นเชิง และระงับนําเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นจากรัสเซียภายในสิ้นปีนี้ คาดจะหนุนทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นได้ต่อ ทั้งนี้เรายังคาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะยังหนุนค่าการกลั่นปรับตัวขึ้นได้ต่อ จากการที่ EU ต้องหันมานำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปมากขึ้นเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น (BCP, TOP, SPRC และ ESSO)

ผสานกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US-Bond Yield) รุ่นอายุ 10 ปี เมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องที่ระดับ 3.14% มองเป็นปัจจัยลดทอนความน่าสนใจของสินทรัพย์เสี่ยง ในแง่ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยง–สินทรัพย์ปลอดภัยแคบตัวเร็วต่อเนื่อง กดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้ต่อ ขณะที่เรายังมองแนวต้านบริเวณ 3.25% คาดจะเป็นแนวต้านที่แข็งแรงของ 10 Years US-Bond Yield ไว้ได้บ้าง คาดตลาดอาจเริ่มชะลอการอ่อนตัวลงหลังอัตราผลตอบแทนขึ้นทดสอบแนวต้านดังกล่าว YoY และ 0.2% MoM ชะลอตัวลงบ้างเล็กน้อย จากราคาน้ำมันดิบที่คาดทำจุดสูงสุดไปแล้วในช่วงต้นเดือน มี.ค. คาดจะกระตุ้นแนวโน้มตลาดรีบาวด์ได้บ้างในระยะสั้น

สําหรับสัปดาห์นี้แนะน่าติดตามตัวเลข CPI เดือน เม.ย. ของสหรัฐ คาดจะออกมาขยายตัว 8.1%

ในส่วนของปัจจัยในประเทศ คาดตลาดจะยังติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ของ บจ. ต่อ อย่างไรก็ตาม เราแนะนําระมัดระวังแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่ม “หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม” หลังราคาปรับตัวขึ้น คาดสะท้อนประเด็นการผ่อนคลายนโยบายเข้าประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวไปในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่เราคาดว่าหุ้นในกลุ่มส่งออกอาหาร (CPF, GFPT, TU, TFG และ CFRESH) ยังมีความน่าสนใจ จากราคาอาหารโลกที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากผลกระทบของกระทบของความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่หนุนทิศทางราคาปุ๋ยและอาหารสัตว์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ TIPH

กลยุทธ์ แนวรับ 60.50/59.50 Target 68.75/75.00 Stop <59.00

- Advertisement -