บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) 38.4%

Close May 6, 2022 Price (THB) 19.50

12M Target (THB) 27.00

What’s new?

  • บริษัทพร้อมเข้าประมูลงานใหม่ของภาครัฐ เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม รถไฟฟ้าสายสีแดง ส่วนต่อขยายมอเตอร์เวย์
  • งานในมือปัจจุบันแตะ 6 หมื่นล้านบาท ได้แรงหนุนจากการเซ็นสัญญางานรถไฟฟ้า สายสีม่วงต่อขยาย คงเป้าภายในปี 2565 หลักแสนล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของงานใหม่

Our view

  • คาด CK จะมีผลขาดทุนราว 91 ล้านบาท (+ 23.7%QoQ,+48.3%YoY) งานก่อสร้างยังทรงตัวการรับรู้รายได้ยังเป็นงานเดิม ไม่มีรายการพิเศษและเงินปันผลรับ
  • รอความชัดเจนจากโครงการหลวงพระบาง คาดมีโอกาสบันทึกรายได้ 3 พันล้านบาท ภายในปี 2565

ปัจจัยเสี่ยง : การประมูลภาครัฐล่าช้า ราคาน้ำมัน และราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงปรับเพิ่ม

CH.KARNGHANG คาด 1Q65 ผลประกอบการดีขึ้น

1Q65 ยังมีผลขาดทุน..แต่ดีขึ้น

ใน 1Q65 เราคาด CK จะรายงานขาดทุนราว 91 ล้านบาท (+23.7%QoQ, +48.3%YoY) ผลประกอบการยังมีผลขาดทุน แต่ลดลงเมื่อเทียบกับรายไตรมาส (4Q64) และรายปี (1Q64) ส่วนหนึ่งจากการรับรู้รายได้ยังคงมาจากงานเดิมเป็นหลัก เช่นงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และงานโรงพยาบาล งานอุโมงค์ระบายน้ำ โดยเราคาดจะมีรายได้ราว 3.6 พันล้านบาท (+ 1.9%QoQ, +23.4%YoY) ขณะที่คาดมีผลกำไรจากเงินลงทุน CKP และ BEM ราว 230 ล้านบาท (-4.4%QoQ, +37.8%YoY) ส่วนหนึ่งจากผลประกอบการที่ดีขึ้นของ BEM เมื่อเทียบกับ 1Q64 ซึ่งเริ่มมีผลกระทบรอบ 2 ของ COVID-19 ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ราว 7.5% ปรับเพิ่มเล็กน้อย เมื่อเทียบกับ 4Q64 ที่ 7.2% แต่ปรับลดลงเมื่อเทียบกับรายปี 1Q64 ที่ 8.3%

บริษัทตั้งเป้างานในมือหลักแสนล้านบาทได้ภายในปี

CK ให้ข้อมูลผ่านสื่อยังคงเป้างานในมือเข้าสู่ระดับแสนล้านบาทภายในปี 2565 หลังจากบริษัทได้งานใหญ่จากภาครัฐ ทั้งจากงานรถไฟทางคู่สายใหม่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ รวมถึงงานรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยายที่ CK ได้รับงานพร้อมกับ STEC ผลักดันงานในมือปัจจุบันเพิ่มขึ้น เป็น 6.1 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้เราคาดบริษัทยังมีโอกาสเพิ่มงานในมือจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง วงเงินราว 1 แสนล้านบาท ซึ่งบริษัทคาดได้ข้อสรุปภายในปี นอกจากนั้นยังมีงานอื่นที่คาดหมายเห็นความชัดเจนของงานประมูล เช่น งานรถไฟฟ้าส้ม สีแดง ส่วนต่อขยาย มอเตอร์เวย์ และงานสนามบิน ฯลฯ เป็นการต่อยอดรายได้ในระดับถัดไป

คงคำแนะนํา “ทยอยซื้อ”

CK มีผลกระทบระยะสั้นจากผลประกอบการที่ยังไม่แข็งแรงจาก 1Q65 ที่ยังมีผลขาดทุน อย่างไรก็ดี ใน 2Q65 เราคาดเห็นการฟื้นตัวของผลประกอบการที่ได้แรงหนุนจากงานใหม่ที่มีความคืบหน้า ผลประกอบการบริษัทลูกเช่น BEM และมีปันผลรับจาก TTW ราว 200 ล้านบาท รวมถึงกรณีโครงการหลวงพระบางมีความชัดเจนหลังเซ็นสัญญางานก่อสร้าง จะทำให้ CK มีโอกาสบันทึกรายได้ที่ได้มีการก่อสร้างล่วงหน้าราว 3 พันล้านบาท สามารถบันทึกรายได้ได้ทันที นอกจากนี้ยังมีประเด็นบวกจากงานใหม่จากภาครัฐที่กรอบเวลาการประมูลชัดเจน ส่งผลต่องานในมือเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทคาดไว้ ราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 27 บาท (วิธี SOTP)

- Advertisement -