KS Daily View 10.05.2022 >> ภาวะ sell in May จะยังกดดันตลาดหุ้นหนัก ๆ ครึ่งเดือนแรก SET คาดแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1585 จุด และ BDMS
ต่างประเทศ : เมื่อวานประเด็นสำคัญที่ตลาดหุ้นโลกให้น้ำหนัก คือ
1.)วันแห่งชัยชนะ’(Victory Day)ของรัสเซีย สรุปรัสเซียไม่ได้ประกาศยกระดับสงคราม หรือยกระดับทางทหารเพิ่มเติมตามที่ตลาดคาด เรามองเป็นบวก แต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังมีการปะทะ คาดยังมีแนวโน้มยังยืดเยื้อต่อ
2.) ยอดส่งออกของจีน เดือน เม.ย. ออกมา 3.9%YoY ดีกว่าตลาดคาด 3.2%YoY แต่ชะลอจาก 14.7%YoY ในเดือน มี.ค. ส่วนยอดนำเข้าจีน เม.ย. ทรงตัว 0%จาก -0.1%YoY ในเดือน มี.ค. ประเมินภาคการค้าจีนที่ชะลอจากผลกระทบของ Lockdown เป็น Sentiment ลบต่อ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ น้ำมัน ถ่านหิน ฯลฯ โดยเฉพาะราคาน้ำมัน BRENT ปรับตัวลงแรง -6%DoD และเช้านี้แนวโน้มยังลงต่อ อยู่ที่ 104 เหรียญ ประเมินเป็นลบต่อหุ้นน้ำมัน PTT PTTEP แต่จะบวกกับหุ้น Anti Commodity อาทิ (PTG EPG, SCGP, BGRIM,GULF, OR, AAV, BA)
โดย KS ประเมินตัวเลขการค้าจีนที่ชะลอลงจกระทบต่อประเทศที่ทำการค้ากับจีนสูง อาทิ ไทย ที่พึ่งพาการส่งออก และมีการค้ากับจีนสูง ฯลฯ โดยรวมปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศดังกล่าวประกอบกับ real Yields ที่บวก ,อัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่เป็นขาขึ้น และการเริ่ม QT ของสหรัฐ ฯลฯ ทำให้นักลงทุนทั่วโลกลดพอร์ตลงทุน และขายสินทรัพย์เสี่ยง เห็นได้จากตลาดหุ้นฝั่งพัฒนาแล้วทั้งสหรัฐ และยุโรปยังปรับฐานแรงต่อ คาดยังกดดันต่อตลาดหุ้นเอเซีย และหุ้นไทยในวันนี้ต่อ KS ยังคงมุมมองเดิม คือ ภาวะ Sell In May จะยังกดดันตลาดหุ้นหนักๆในช่วงครึ่งเดือนแรก
ในประเทศ : ปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทยหลักๆ คือ
1.)สถานการณ์ Covid ในประเทศดีขึ้นชัดเจน และรัฐเดินหน้าเป็นโรคประจำถิ่น 1 ก.ค. สะท้อนจากเมื่อวานกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เห็นชอบประกาศเตือนภัยโควิด-19 จากระดับ 4 เหลือระดับ 3 ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
2.) รัฐเดินหน้าเปิดประเทศทั้งภายนอกเปิดรับนักท่อเงที่ยว และภายในประเทศ โดยสัปดาห์นี้ติดตามวันที่ 12 พ.ค. ประชุม ศบค.พิจารณาเตรียมนำร่องเปิดผับ,บาร์ 28 จังหวัด KS ประเมินเพิ่ม Night acitivities ถือเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มร้านอาหาร, กลุ่มค้าปลีก กลุ่มท่องเที่ยว และโรงแรม ฯลฯ ประกอบกับช่วงกลางเดือนนี้ 17 พค กทม จะเปิดเรียน แบบ on site เต็มรูปแบบ 100% ทุกระดับ KS คาดช่วยหนุน ridership รถไฟฟ้า และจำนวนรถบนทางด่วน เป็นบวกกับ BEM, BTS, BTSGIF, DMTและ TFFIF
ส่วนประเด็นที่ติดตามยังคงเป็นการรายงานงบงวด 1Q22 : เมื่อวานบริษัทที่ประกาศงบ ออกมาดีกว่า KS คาด (Beat Estimate) คือ TU, QH, STGT, RJH, THG ออกมาตามที่คาด(Inline) คือ ASK, ASIAN, SF, SABINA, CPNREIT ส่วนบริษัทที่รายงานงบต่ำคาด(Miss) คือ STA, SYNEX ส่วนวันนี้ติดตามบริษัทจดทะเบียนจะรายงานงบ อาทิ ADVANC AP BANPU BCPG BJC BPP CENTEL IRPC KCE MTC QH SINGER TOP ฯลฯ โดยช่วงรายงานงบ และตลาดหุ้นผันผวน แนะนำระมัดระวังการเกิด Sell on fact หากบริษัทรายงานกำไรออกมาใกล้เคียงหรือต่ำกว่าคาด หลังจากราคาหุ้นปรับขึ้นมาตอบรับ และเก็งกำไรในช่วงก่อนหน้า
กลยุทธการลงทุน : KS แนะนำในช่วงนี้ที่ตลาดผันผวน “นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำและไม่มีหุ้น” แนะนำชะลอการลงทุน และรอเก็งกำไรในช่วงปลายสัปดาห์ หลังประกาศเงินเฟ้อสหรัฐ KS จะอ่อนตัว ส่วนนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่แล้ว ยังคงแนะนำตามเดิม คือ ไม่เพิ่มพอร์ตการลงทุน โดยเน้น Trading กลุ่ม Defensive เน้นหุ้นขนากใหญ๋ มีปัจจัยหนุนเฉพาะ อาทิ แนวโน้มกำไรไตรมาส 2 จะดีต่อ อาทิ PTTEP, CPALL, BH, BDMS, PR9, AWC, CENTEL, MINT, SHR, AOT, CPN, DTAC, PSL, RBF, TVO, EPG , Theme เปิดเมือง(Reopen) BEM, MAJOR , Theme เงินบาทแนวโน้มอ่อนค่า หุ้นส่งออก(ASIAN, SAPPE, GFPT, EPG)
ส่วนกลุ่มแนะนำชะลอการลงทุน คือ 1.) Global play อาทิ กลุ่มปิโตรเคมี,อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ จากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกมีความน่าจะเป็นสูงขึ้นที่เผชิญ ภาวะถดถอย 2.) หุ้นกลาง-เล็กที่ Valuation แพง PE สูง
มุมมองตลาดหุ้น SET วันนี้ คาดแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1585 จุด หุ้นแนะนำ BDMS
Top pick :
BDMS (ราคาพื้นฐาน 27.3 บาท) เป็นหุ้น Defensive ในช่วงตลาดหุ้นผันผวน เราชอบ BDMS โดยเป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มการแพทย์ เราคาดกำไรปกติอยู่ที่ 3.1 พันลบ. เพิ่มขึ้น 17% QoQ และ 131% YoY และทำสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาส การปรับตัวดีขึ้นเชิง QoQ ได้รับแรงหนุนจากค่าใช้จ่าย SG&A ที่ลดลง ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนจำกัด รายได้คนไข้ต่างประเทศจากรัสเซียอยู่ที่เพียง 0.3% ของรายได้ทั้งหมด และยังคงเห็นแนวโน้มรายได้ต่างชาติเติบโตดีต่อเนื่องในไตรมาส 1/2565
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันอังคาร ติดตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยคาด 40.8. จุด (แย่ลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 42 จุด) ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมันจากสถาบัน ZEW เดือน พ.ค. คาด -42.5 จุด (แย่ลงจากเดือนก่อนที่ -41 จุด) และถ้อยแถลงของ Fed Bostic, Fed Williams, Fed Kashkari, และ Fed Waller
- วันพุธ ติดตามดัชนีราคาผู้บริโภคของจีน เดือน เม.ย. คาด +0.2% MoM และ +1.9% YoY ดัชนีราคาผู้ผลิตของจีน เดือน เม.ย. คาด +7.8%YoY (จาก 8.3%YoY ในเดือน มี.ค.) ถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด +0.2% MoM และ +8.1% YoY (เทียบเดือน มี.ค. ที่ +8.5% YoY) ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด +0.4% MoM และ +6% YoY และการรายงานสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯรายสัปดาห์
- วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลข GDP 1Q22 ของอังกฤษคาด +1% QoQ และ +9% YoY ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐ เดือน เม.ย. คาด +0.5% MoM และ +10.7% YoY ตัวเลข Initial jobless claim รายสัปดาห์ของสหรัฐฯ คาด +2.03 แสนคน (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.0 แสนคน) และรายงานภาวะตลาดน้ำมันของ OPEC
- วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลข FDI ของจีนใน 4M22 คาด +18% YoY ตัวเลขปริมาณเงิน M2 ของจีนเดือน เม.ย. คาด +9.8% YoY ตัวเลข Loan growth ของจีนเดือน เม.ย. คาด +11.5% YoY ตัวเลขยอดขายรถยนต์ของจีนเดือน เม.ย. คาด -18% YoY และตัวเลข Michigan Consumer Sentiment ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. คาด 64 จุด (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ 65.2 จุด)