ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ลงต่อสลับรีบาวด์ ปัจจัยต่างประเทศยังคงเป็นลบ

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันอังคารลงต่อสลับรีบาวด์ ทิศทางหลักยังปรับลง… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับลงแรงกว่าที่เราคาด ตามแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงทั้งเอเชีย ก่อนหน้าที่สหรัฐฯ จะรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ CPI เดือน เม.ย. ในคืนวันพุธนี้ ส่วนในวันนี้ปัจจัยต่างประเทศยังคงเป็นลบ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงแรงต่อเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมองว่า ธ.กลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจไม่สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ หรือหากปรับนโยบายรุนแรงเพื่อกดเงินเฟ้อก็อาจนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ ทั้งนี้ในคืนนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดถึง 6 คน แถลงมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินสหรัฐฯ ii) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลงแรง 7.5% เมื่อวานนี้ หลังจากเศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนสูง และการล็อกดาวน์ในประเทศจีนยังไม่มีสัญญาณว่าจะผ่อนคลายลง ทั้งนี้ราคาน้ำมันที่ร่วงแรงน่าจะกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่ง Outperform ตลาดในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ SET Index อาจมีการฟื้นตัวในวันได้หลังลงแรงเมื่อวานนี้ แต่ทิศทางหลักยังคงเป็นการปรับฐานอยู่ ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ นั้น เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ยังคงชะลอตัวอยู่ที่ 6,230 ราย เสียชีวิต 53 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 11,132 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไรแนวรับ CPF*, INTUCH*, BANPU*

  • CPF* (เป้าพื้นฐาน 30.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 22.7 บาท และ 220 บาท / แนวต้าน 23.8 – 24.2 บาท (Stop loss 21.0 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯคาด 1Q65 จะรายงานผลขาดทุนสุทธิ 1.04 พันล้านบาท แต่คาดว่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี โดยราคาเนื้อสัตว์เริ่มทยอยฟื้นตัวหลังประเทศในเอเชียทยอยเปิดประเทศ ขณะที่ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ (กากถั่วเหลือง / ข้าวโพด) เริ่มปรับลดลง ราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงเพราะผลการดำเนินงาน 1Q65 เป็นโอกาสซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว 3) Valuation ไม่แพง PBV 0.9 เท่า ต่ำกว่า 10 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 1.1 เท่า
  • INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 89.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 69.5 บาท / แนวต้าน 71.5 บาท กรณี Breakout ผ่านแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาส Rebound ทดสอบแนวต้านถัดไป 73 – 75 บาท (Stop loss 68.5 บาท) 2) ประเมินเป็นหุ้นปันผลดีสม่ำเสมอ โดยคาด Dividend yield ปีนี้ 4.8% ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในอนาคตมี Upside จากธุรกิจ Data Center ของ ADVANC และการฟื้นตัวของ THCOM 3) ล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา GULF แจ้งซื้อหุ้น INTUCH เพิ่มจำนวน 7,425 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 77.31 บาท
  • BANPU* (เป้าพื้นฐาน 15.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 12.2 บาท / แนวต้าน 12.8 – 13.1 บาท กรณี Breakout ผ่านแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 13.5 บาท (Stop loss 12.0 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 1Q65 = 1.11 หมื่นล้านบาท (+624% YoY, +219% QoQ) ทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่ 4Q53 จากราคาถ่านหินที่ปรับขึ้นแรง และกำไรพิเศษจากการขายหุ้นโรงไฟฟ้า Sunseap +5 พันล้านบาท ขณะที่แนวโน้มราคาถ่านหินยังสูงต่อเนื่องจากสถานการณ์รัสเซีย – ยูเครน 3) Forward PE ต่ำเพียง 3.6 เท่า และ PBV 1.07 เท่า ขณะที่แนวโน้มกำไรปีนี้คาดโต +130% YoY เป็น 2.8 หมื่นล้านบาท

หุ้นมีข่าว

(+) โฟกัสกรุ๊ป TRUE* ควบ DTAC* เดือด ADVANC* จี้กสทช.ยึดข้อกฎหมาย (กรุงเทพธุรกิจ) กสทช. จัด “โฟกัสกรุ๊ป” รอบแรก ถกผลดีผลเสียดีลควบรวมทรูดีแทค ไร้สองผู้บริหารบริษัทใหญ่ มีเพียงส่งตัวแทนให้ความเห็น  ระบุเห็นดีให้รวมกิจการ เพราะบางพื้นที่สัญญาณไม่ดี ด้าน “เอไอเอส” ฟาดหนัก ระบุ กสทช. ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ทำลูกค้าเสียประโยชน์ คลื่นความถี่กระจุกตัว ชี้หาก กสทช.ยอมให้เกิดการควบรวม ต้องหามาตรการเยียวยาเอไอเอสด้วย จับตาดีลแสนล้านอาจต้องจบที่ศาล

(+) NEX ฟุ้ง EV บูม! โชว์ยอดจองพุ่ง หนุนกำไรโต (ไทยโพสต์) นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมียอดสั่งจองยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (อีวี) แล้ว 4,000 คัน ซึ่งเต็มศักยภาพการผลิตของโรงงานผลิตและประกอบยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้บริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จำกัด (AAB) หลังจากที่เดินกำลังการผลิตอย่างเต็มรูปแบบเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

(+) กพช.เคาะซื้อไฟฟ้าขยะ ACE ฉลุย 2 แห่ง-ลุยอีก (ทันหุ้น) กพช.เคาะรับซื้อไฟฟ้า 34 โครงการ ปรับ PDP เพิ่มไฟฟ้าพลังงานทดแทนเป็น 9,996 เมกะวัตต์ เข้าทาง ACE จ่อเซ็น 2 โรงไฟฟ้าขยะอุดรธานี นครราชสีมา ประกาศร่วมประมูลพลังงานสะอาด ซื้อนาคตมีโอกาสเพิ่มอีก หากต้องการบรรลุคาร์บอนต่ำ เตรียมเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดแตะ 85% จาก 60%

(0) ‘สาธิต’ บิ๊กล็อตขายหุ้น BH หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 พ.ค. 2565) มีรายการสรุปซื้อขายกระดานรายใหญ่ (Big lot) หุ้นบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH จำนวน 8 รายการ ปริมาณ 71,947,100 หุ้น มูลค่ารวม 1.09 หมื่นล้านบาท ราคาเฉลี่ย 151.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาต่ำกว่ากระดานซื้อขาย โดยราคาหุ้น BH* ปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ 162.50 บาท บวก 1 บาท หรือ 0.62% สูงสุดที่ 168.50 บาท ต่ำสุดที่ 161 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 123 หมื่นล้านบาท

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • BCP* (เป้าพื้นฐาน 35 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 33.25 บาท)
  • SPA (เป้าพื้นฐาน 8.7 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 8.0 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 28 บาท / แนวต้าน 29 30 บาท (Trailing stop 28 บาท)
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 20.6 บาท / แนวต้าน 21.2 – 21.5 บาท (Trailing stop 20.5 บาท)
  • III (เป้า Consensus 20.5 บาท) แนวรับ 14.4 บาท / แนวต้าน 15.1 – 15.6 บาท (Stop loss 14.3 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • DOHOME แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 22.5 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นกลาง มีทั้งปัจจัยบวกและลบ โดยปัจจัยบวก ได้แก่ ราคาเหล็กที่ปรับขึ้น ปัจจัยลบ ได้แก่ ยอดขายสินค้า House brand ลดลงเนื่องจากประเทศจีนล็อคดาวน์ ทำให้ส่งสินค้าล่าช้า และต้นทุนการขนส่งปรับสูงขึ้น ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯลง และปรับเป้าหมาย Forward PE ลงจาก 34 เท่า เป็น 32 เท่า ได้ราคาเป้าหมายใหม่ 22.5 บาท ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
  • ESSO* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 12 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 1Q65 = 6.1 พันล้านบาท (+120% YoY, +718% QoQ) โดยกำไรที่คาดจะโตเด่นเป็นผลจากค่าการกลั่นที่ปรับสูงขึ้นและกำไรสต๊อก ยังคงแนะนำ “ซื้อ”
  • IVL* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 59 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไร 1Q65 = 9.1 พันล้านบาท (+51% YoY, +69% QoQ) กำไรที่คาดจะดีขึ้นเป็นผลจาก Spread PTA และ PET ที่ปรับสูงขึ้น และกำไรสต๊อก คาด Spread ยังดีโดยแนวโน้ม 2Q65 ยังเป็น High season ของ PET จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ”
- Advertisement -