Our View? “รอดูเงินเฟ้อ US”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,615 / 1,600 และแนวต้านที่บริเวณ 1,630 / 1,635 คาดตลาดติดตามการรายงานตัวเลข CPI เดือน เม.ย. ของสหรัฐ เพื่อประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อ และแนวโน้มการปรับใช้นโยบายทางการเงินต่างๆ ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในระยะข้างหน้า โดยคาดจะออกมาที่ระดับขยายตัว 8.10% YoY และ 0.2% MoM ลดลง บ้างจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 8.5% YoY 1.2% MoM หากออกมามากกว่าที่ตลาดคาด คาดจะเป็นปัจจัยส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลการขึ้นดอกเบี้ยที่รุนแรงของ FED อีกครั้ง ขณะที่เช้านี้ CME FED Watch Tools บ่งชี้ตลาดคาด FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% ในการประชุม FOMC วันที่ 14-15 มิ.ย. นี้ ที่ระดับราว 90.0% มากกว่าคาดการณ์ของเดือนก่อนหน้ามาก ขณะที่คาดการณ์ระดับดอกเบี้ย ณ สิ้นปี จะอยู่สูงถึงระดับ 2.50-2.75% สะท้อนภาวะความตึงตัวในสภาพคล่องของตลาด รวมทั้งยังเป็นปัจจัย สะท้อนต้นทุนทางการเงินของตลาดมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี คาดยังเป็นปัจจัยจำกัด Upside การฟื้นตัวของตลาดได้อยู่

อย่างไรก็ดี เรามองการเริ่มชะลอกำลังลงบ้างของ US-Bond Yield โดยรุ่นอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับราว 3.2% แล้วอ่อนตัวลงตามที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าว่า 10 Years US Bond Yield ที่ระดับ 3.25% จะเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่ง ซึ่งคาดจะเป็นระดับที่ตลาดเริ่มให้ความสนใจ คาดการอ่อนตัวลงบ้างจะช่วยลดแรงกดดันในเชิงการเปรียบเทียบระหว่างส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์เสี่ยง/สินทรัพย์ปลอดภัยได้บ้าง

ทางด้านราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มิ.ย. เมื่อเมื่อคืนนี้ปิดที่ระดับ 99.76 ดอลลาร์/บาร์เรล -3.33 ดอลลาร์ (-3.23%) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง จากมาตรการ Lockdown ของจีนเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของ COVID-19 สร้างความกังวลในด้านอุปสงค์ ขณะที่ยอดส่งออกของจีนเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้นเพียง 3.9% ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 14.7% สะท้อนภาวะเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง อีกทั้งสหภาพยุโรป (EU) ยังไม่ออกมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียเพิ่มเติมตามการรายงานก่อนหน้า คาดจะกดดันทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานได้ ทั้งนี้เรายังคาดว่าแนวโน้มค่าการกลั่นยังมีแนวโน้มยืนตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง จากการที่ EU ต้องหันมานำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปมากขึ้น เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น (BCP, TOP, SPRC และ ESSO) ได้อยู่

ในส่วนของปัจจัยในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้าช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวได้ดี คาดตลาดจะยังติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ของ บจ. ต่อ อย่างไรก็ตาม เราแนะนําระมัดระวังแรงขายทํากํารหุ้นในกลุ่ม “หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม” หลังราคาปรับตัวขึ้น คาดสะท้อนประเด็นการผ่อนคลายนโยบายเข้าประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวไปในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่เราคาดว่าหุ้นในกลุ่มส่งออกอาหาร (CPF, GFPT, TU, TFG, BR และ CFRESH) ยังมีความน่าสนใจ จากราคาอาหารโลกที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากผลกระทบของกระทบของความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่หนุนทิศทางราคาปุ๋ยและอาหารสัตว์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “TFG”

กลยุทธ์ แนวรับ 4.28 / 4.18 Target 4.54 / 4.78 Stop <4.14

- Advertisement -