บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action SELL (Maintain)
TP upside (downside) -12.4%
Close May 10, 2022 Price (THB) 13.70
12M Target (THB) 12.00
Previous Target (THB) 10.70
What’s new?
- ประกาศงบ 1Q65 ที่ 487 ล้านบาท ดีกว่าคาด 20% จากราคาขาย – อัตรากำไรของธุรกิจไบโอดีเซลสูงกว่าคาด
- ภาพรวม 1Q65 แข็งแกร่ง พลิกจากขาดทุน QoQ เพราะไม่มีรายการตั้งสำรองคดีความ ขณะที่ +418% YoY จากกำไรสต็อกน้ำมันปาล์ม, อัตรากำไรของไบโอดีเซลได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปาล์มที่พุ่งขึ้น และยอดขายแฟตตี้แอลกอฮอล์ ฟื้นตัวหลังผ่านการปิดซ่อมบำรุง
Our view
- ปรับกำไรสุทธิปีนี้ขึ้น 49% โดยรวมกำไรสต็อกที่เกิดขึ้นใน 1Q65 และปรับเพิ่มกำไรปกติ 10% สะท้อน Margin ของไบโอดีเซลที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปาล์ม ได้ราคาเหมาะสมใหม่ 12.00 บาท
- ทั้งนี้ มองว่าราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปาล์มไปบ้างแล้ว โมเมนตัมงบ 2Q-3Q65 อ่อนลงตามฤดูกาล และผลกระทบน้ำมัน B5 เต็มไตรมาส
- นอกจากนี้ ภาวะราคาน้ำมันแพง ทำให้อัตราผสมไบโอดีเซล B5 ปัจจุบันยังเสี่ยงถูกปรับลดเพิ่มเติม
GLOBAL GREEN CHEMICALS 1Q65 ดีกว่าคาด จากอานิสงส์ราคาน้ำมันปาล์ม
ผลประกอบการ 1Q65 ดีกว่าคาด
ประกาศงบ 1Q65 กำไรสุทธิ 487 ล้านบาท ดีกว่าที่เราคาด 20% จากราคาขายและอัตรากำไรของธุรกิจไบโอดีเซลสูงกว่าคาด ภาพรวมกำไรสุทธิแข็งแกร่งขยายตัว +418% YoY จากผลการดำเนินงานหลักที่ฟื้นตัว และมีกำไรสต็อกน้ำมันปาล์มสูง 246 ล้านบาท ขณะที่เทียบกับ 4Q64 พลิกจากขาดทุน QoQ เนื่องจากไตรมาสก่อนมีตั้งสำรองเกี่ยวกับคดีความในชั้นศาลอุทธรณ์ 444 ล้านบาท หากนับเฉพาะผลการดำเนินงานหลัก 1Q65 ทำได้ 219 ล้านบาท โดยแม้ว่ายอดขายไบโอดีเซลจะทำได้เพียง 7.4 หมื่นตัน (-8% QoQ, -19% YoY) จากผลกระทบการแพร่ระบาดของ Omicron และการปรับลดอัตราผสมน้ำมันดีเซลเป็น B5 อย่างไรก็ตาม กำไรปกติสามารถขยายตัวได้ +84% QoQ และ +584% YoY หนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันปาล์ม และราคาไบโอดีเซล ซึ่งเป็นผลจากความต้องการใช้น้ำมันปาล์มเพื่อทดแทนภาวะขาดแคลนน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวันในประเทศจีนและอินเดีย ส่งผลให้ อัตรากำไรของไบโอดีเซลสูงขึ้น QoQ และ YoY รวมทั้งยอดขายแฟตตี้แอลกอฮอล์ขยายตัว QoQ และ YoY หลังผ่านการปิดซ่อมบำรุงในไตรมาสที่ผ่านมา
อัตราผสมไบโอดีเซลมีความเสี่ยง
ที่ผ่านมาภาครัฐได้ปรับลดอัตราผสมไบโอดีเซลจากน้ำมันดีเซล B1, B10 และ B20 เหลือเพียงดีเซล B7 ชนิดเดียวตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2564 – 4 ก.พ. 2565 ทั้งนี้ ภาวะราคาน้ำมันที่แพงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาครัฐประกาศลดอัตราผสมไบโอดีเซลเหลือ B5 ชนิดเดียวตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. – 30 มิ.ย. 2565 ทำให้คาดว่าความต้องการใช้ไบโอดีเซลใน 2Q65 จะลดลง QoQ กดดันจากผลของการปรับลดอัตราผสมไบโอดีเซลเหลือ B5 ชนิดเดียวเต็มไตรมาส (เทียบกับ 1Q65 ที่เป็น B7 และ B5) นอกจากนี้ เรามองว่าภาวะราคาน้ำมันแพงในปัจจุบัน, ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุด (8 พ.ค.) ติดลบ 6.7 หมื่นล้านบาท และราคาไบโอดีเซลสูง 56 บาท/ลิตร (เทียบกับน้ำมันดีเซลราว 30 บาท/ลิตร) ทำให้ภาครัฐมีโอกาสปรับลดส่วนผสมของไบโอดีเซลเพิ่มเติม
หุ้นสะท้อนการปรับขึ้นของราคาน้ำมันปาล์มไปบางส่วนแล้ว
เพื่อสะท้อนราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกที่แข็งแกร่งกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ขึ้น 49% เป็น 946 ล้านบาท (+187% YoY) โดยหลักมาจากการรวมผลของกำไรสต็อกน้ำมันปาล์มใน 1Q65 เข้ามาไว้ในประมาณการ (ปรับเพิ่มกำไรปกติอีก 10%) ประเมินราคาเหมาะสมใหม่ 12.00 บาท อ้างอิงค่าเฉลี่ย PBV ที่ 1.2 เท่า อย่างไรก็ตาม ทางพื้นฐาน มองว่ายังไม่ใช่จังหวะเข้าลงทุน เนื่องจากโมเมนตัมกำไร 2Q- 3Q65 จะอ่อนตัวลงตามปัจจัยฤดูกาล และมีความเสี่ยงถูกปรับลดอัตราผสมไบโอดีเซลเป็น B3 รวมทั้งเรามองว่าราคาหุ้น +21% YTD สะท้อนการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันปาล์มไปแล้ว กรณีราคาน้ำมันปาล์มปรับฐานอาจเป็นความเสี่ยงต่อราคาหุ้น