สหรัฐรายงานเงินเฟ้อสูงกว่าตลาดคาดกดดันตลาดหุ้น วันนี้แนะ PTTEP

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจําเดือน เม.ย. ขยายตัว 8.3%YoY 0.3%MoM สูงกว่าตลาดคาด (ตลาดคาด 8.1%YoY , 0.2%MoM) ด้าน Core CPI ขยายตัว 0.6%MoM สูงกว่าตลาดคาดที่ 0.4% MoM สำหรับเงินเฟ้อทั่วไปแรงหนุนยังคงมาจากราคาพลังงานเป็นหลัก (น้ำมันเบนซิน +43.6%YoY น้ำมันเตา +80%YoY ค่าไฟฟ้า +11%YoY ราคาอาหาร +9.4%YoY) ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานแรงขับเคลื่อนมาจาก (ราคารถยนต์ +13%YoY รถมือสองและรถบรรทุก +22.7%YoY เครื่องแต่งกาย +5.4%YoY) ดังนั้นปัจจัยหลักเร่งตัวเงินเฟ้อสหรัฐรอบนี้มาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Cost Push) หากราคาน้ำมันยังยืนระดับสูงแบบนี้ โอกาสที่เงินเฟ้อจะลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ส่วนการขึ้นดอกเบี้ยของ FED อาจช่วยชะลอได้เพียงเล็กน้อย เพราะฝังอุปสงค์จะถูกกระทบ แต่สามารถเปลี่ยนแปลงฝั่งต้นทุนที่เร่งให้ลดลงได้

สำหรับความเห็นล่าสุดจาก CME FED Watch ยังให้น้ำหนักราว 87% ที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในการ ประชุมเดือน มิ.ย. ส่วนอีก 13% ให้น้ำหนักขึ้นดอกเบี้ย 0.75% (ผลสำรวจยังคล้ายก่อนรายงานเงินเฟ้อ) ด้วยเงิน เฟ้อที่สูงกว่าตลาดคาด จึงเป็นปัจจัยกดดัน Dow Jones ปรับฐาน 1.02% ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT +4.9% หลังมีรายงานว่าการขนส่งแก๊สไปยัง EU จากรัสเซีย มีปริมาณที่ลดลงเนื่องจากยูเครนปิดเส้นทางในการลำเลียงขนส่ง ซึ่ง ตลาดเลยมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจเชื่อมโยงไปยังน้ำมันกระทบอุปทานให้ยิ่งตึงตัวมากยิ่งขึ้น ระยะสั้นเป็นบวกต่อ PTTEP ขณะที่เช้านี้ Nikkei ปรับฐาน 1.43% มองเป็นแรงกดดันต่อ SET ในวันนี้ให้เสี่ยงจะปรับตัวลงต่อ

ประเมินกรอบวันนี้ 1600 – 1612 ส่วนคืนนี้ติดตามอีกดัชนีที่ชี้วัดเงินเฟ้อ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 0.5%MoM เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเน้นเป็นเพียงแค่การ Trading ระยะสั้นๆ และเลือกหุ้นมีปัจจัยบวก อาทิ น้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ผลบวกค่าการกลั่นยืนระดับสูง และมีโอกาสได้ Stock Gain กลุ่มส่งออก (ASIAN TU) ผลบวกเงินบาทอ่อนค่า

PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 179 บาท) ภาพรวม 2Q22 เป็นบวก เพราะคาดว่ากำไรสุทธิจะโตขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ประเมินว่าการเริ่มผลิตก๊าซจากโครงการ G1/61 และ G2/61 (ประเทศไทย) จะช่วยหนุนการเติบโตของ ยอดขายได้ 10% ส่วนราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจเข้ามาช่วยกระตุ้นราคาขายเฉลี่ยขึ้น

TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 22 บาท) 1Q22 กำไรสุทธิ 1,746 ลบ. (-3%YoY, -10%QoQ) แม้จะติดลบแต่ถือว่าดีกว่าคาด ได้รับปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง การปรับราคาขายกับลูกค้า แนวโน้ม 2Q22 คาดจะดีขึ้นจากการปรับราคาขายและค่าขนส่งที่เริ่มปรับตัวลงประกอบกับได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า

 

หมายเหตุ ชุดหุ้นที่แนะนำเหมาะสำหรับการซื้อเพื่อถือลงทุน 1-14 วัน หากนักลงทุนมีกำไรก็สามารถทำกำไรได้โดย แนะตั้ง Stop loss หากขาดทุนเกินกว่า 5% ส่วนราคาเป้าหมายเป็นราคาภายใน 1 ปีจากปัจจุบันที่มาจากปัจจัยพื้นฐาน

- Advertisement -