คาดศก.ฟื้น หนุนกำลังซื้อดี ดันผลงานสดใสกว่าครึ่งปีแรก มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้าโต 15-20%
บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์ หรือ NDR กางแผนธุรกิจในครึ่งปีหลัง เดินหน้าลุยตลาดในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มเดลิเวอรี่ ดันปริมาณการใช้ยางรถจักยานยนต์เพิ่ม พร้อมขยายต่างประเทศมากขึ้น อาทิ มาเลเซีย ลาวและกัมพูชา ด้าน “ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา” กรรมการผู้จัดการ คาดผลงานครึ่งปีหลังสดใส หลังภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น หนุนกำลังซื้อกลับมา พร้อมมั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตเข้าเป้า 15-20% ตามแผนที่วางไว้
นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังบริษัทฯ บริษัทฯจะมุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถเดลิเวอรี่ ที่คาดว่าจะมีปริมาณการใช้รถจักรยานยนต์มากขึ้น ทำให้ความต้องการยางรถจักรยานยนต์ในตลาดเพิ่มขึ้น ขณะที่มีแผนขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยปัจจุบันกำลังเริ่มทำตลาดที่เกาหลีอยู่
นอกจากนี้ บริษัทฯยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและจะสะท้อนไปยังผลการดำเนินงานภาพรวมของบริษัท
กรรมการผู้จัดการ NDR กล่าวอีกว่า สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลัง คาดว่าน่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจในประเทศโดยรวมน่าจะเริ่มดีขึ้น หลังจากเริ่มมีการกระจายฉีดวัคซีนมากขึ้น ขณะที่ในส่วนของต้นทุนวัตถุดิบคาดว่าราคาไม่น่าจะขยับขึ้นมากนักเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก แต่ราคาขายสินค้าอาจขยับขึ้นได้บ้างตามสถานการณ์ ประกอบกับคาดว่าตลาดในประเทศมาเลเซียช่วงไตรมาส 3/2564 น่าจะมีดีมานด์เพิ่มขึ้น หากประเทศมาเลเซียกลับมาเปิดประเทศ ซึ่งในช่วงที่ปิดประเทศนั้นส่งผลให้โรงงานในมาเลเซียเองไม่สามารถผลิตสินค้าได้ อาจจะทำให้เกิดสภาวะสินค้าขาดตลาดในไตรมาส 3 นี้ ซึ่งจากปัจจัยข้างต้นทำให้มั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะเติบโต 15-20% จากปีก่อนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
“ผลประกอบการครึ่งปีหลังน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะสภาวะตลาดในมาเลเซียที่น่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก รวมถึงในไทยเองที่มีการฉีดวัคซีนมากขึ้นน่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น ส่วนต้นทุนน่าจะไม่มีการขยับเพิ่มขึ้นมากนัก แต่ราคาขายน่าจะมีการขยับขึ้นตามช่วงเวลา โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้ปีนี้จะแบ่งเป็นในประเทศ 40% และต่างประเทศ 60% ” นายชัยสิทธิ์ กล่าว
นายชัยสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังของบริษัท อีทราน (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนนั้น บริษัทฯจะเร่งผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยอีทรานมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตเป็นเดือนละ 350 คัน จากเดิมที่วางแผนผลิตเดือนละ 100 คัน เนื่องจากมีคำสั่งจองเช่าเข้ามามากกว่าที่คาดการณ์ไว้