PIMO ประกาศงบงวดไตรมาส 1/65 มีกำไรสุทธิ 32.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.73 ล้านบาท คิดเป็น 63.84% หลังตุนออเดอร์ล่วงหน้า 8 เดือน จากจำนวนลูกค้า รวมทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่พิ่มขึ้น ทั้งมีกำไรจากการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จากยอดขายจากต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 60% ในประเทศ 40%  ด้านผลงานทั้งปีนี้ วางเป้ารายได้โต 20% แตะระดับ 1,200 ล้านบาท

 

นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทไตรมาส 1/65 บริษัทมีรายได้รวม 351.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126.89 ล้านบาท หรือ 56.45% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 224.79 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 32.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.73 ล้านบาท หรือ 63.84% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 19.94  ล้านบาท

ทั้งนี้ เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากยอดขายทุกผลิตภัณฑ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ มอเตอร์แอร์ ปั้มบ้าน มอเตอร์กำลังและมอเตอร์ปั้มน้ำที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่บริษัทได้รับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ล่วงหน้า 8 เดือน จำนวนเฉลี่ยต่อเดือน 60,000-100,000 ลูก ประกอบกับบริษัทมีกำไรจากการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวดีขึ้น โดยผลประกอบการดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก สามารถทำได้ทะลุเป้าหมายที่วางไว้

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/65 คาดว่ามีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา และยังคงเป้าหมายรายได้ทั้งปีนี้ที่ 1,200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% จากปี 2564 ที่ทำได้ 1,030.58 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักมาจากจำนวนลูกค้าและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทยังมียอดขายจากต่างประเทศคิดเป็น 60% และในประเทศ 40%

สำหรับมาตรการที่รัฐบาลสนับสนุนให้ใช้รถ EV จากการศึกษาข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่า รัฐบาลให้การสนับสนุนรถจักรยานยนต์ทั้งคัน ซึ่งบริษัทไม่ได้รับประโยชน์โดยตรง แต่น่าจะเป็นประโยชน์ทางอ้อมให้คู่ค้าของบริษัทที่สามารถขายของได้มากขึ้น โดยเฉพาะในปี 2565 และ 66 ที่จะมีมาตรการสนับสนุนให้บริษัทที่ผลิตและประกอบชิ้นส่วนในประเทศไทยให้มีความเจริญก้าวหน้า ซึ่งจะทำให้ PIMO ได้รับผลประโยชน์มากขึ้น และประสบการณ์ของพนักงานที่ผลิตมอเตอร์ BLDC เป็นปัจจัยที่จะช่วยส่งเสริมให้การผลิตมอเตอร์ EV สำหรับรถจักรยานยนต์สามารถทำได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอัตรากำไรในปีนี้ บริษัทจะพยายามทำให้ดีกว่าปีที่ผ่านมา แม้จะมีปัจจัยต่างๆ ที่ควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นอัตราแลกเปลี่ยนทางการเงินและราคาวัตถุดิบ แต่จะพยายามบริหารจัดการปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมให้ดีที่สุด เพื่อให้เกิดประโยชน์ที่ดีที่สำหรับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน

*********

- Advertisement -