KS Daily View 24.05.2022 >> หุ้นโลกเริ่มมีปัจจัยบวก หลัง Biden พิจารณายกเลิกภาษีนำเข้าจีน และจีนเตรียมเปิดเมือง SET วันนี้คาด 1640-1645 จุด หุ้นแนะนำ CK JWD

ต่างประเทศ : ภาพต่างประเทศ KS ประเมินในสัปดาห์นี้เริ่มมีปัจจัยบวก (+) หนุนตลาดหุ้นโลกในช่วงสั้น ล่าสุด 1.) เมื่อวานประธานาธิบดีสหรัฐ Biden เผยอาจจะยกเลิกภาษีนำเข้า(tariff)วงเงิน 3.5 แสนล้านเหรียญ จากจีน (ซึ่งเกิดขึ้นสมัย Donal Trump และจะครบกำหนดในวันที่ 6 ก.ค. เพื่อชะลอเงินเฟ้อ แต่ยังไม่มีรายละเอียดเรื่องจะยกเลิกสินค้าประเภทใด KS ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นโลก และหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์, ปิโตรเคมี, น้ำมัน, Logistic ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อ ทั้งการพิจารณาผ่านสภาสหรัฐ ฯลฯ 2.) การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน KS คาดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว (Bottomed out) ในเดือน พ.ค. เนื่องจีนคลายล๊อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ในวันที่ 1 มิ.ย. และรัฐบาลเดินหน้าอัดฉีดลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ประกอบ นายกรัฐมนตรีของจีน นาย Li Leqiang ให้สัมภาษณ์จะเดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับฝั่งนโยบานการเงินเมื่อวันศุกร์ที่แล้วธนาคารกลางจีน(PBOC) ประกาศปรับลด LPR-5yearsจาก 4.6% เป็น 4.45%กระตุ้นอสังหาฯ โดยรวมบวกต่อหุ้นเรือเทกอง PSL, TTA

เป็นประเด็นที่ต้องติดตามและอาจสร้างความผันผวนต่อตลาดหุ้นในช่วงสั้น คือ 1.) สถานการณ์แพร่กระจายของโรคฝีดาษลิง (โรคติดเชื้อ) ทั่วโลก ปัจจุบันพบแล้ว 15 ประเทศ จำนวนที่พบราว 100 ราย ส่วนไทยยังไม่พบ โดยกระทรวงสาธารณสุข ยกระดับสกัด คัดกรองเข้มสนามบิน หากแพร่กระจายในวงกว้าง ประเมินจะบวกต่อหุ้นถุงมือยาง และโรงพยาบาล 2.) ติดตามวันที่ 26 พ.ค.ติดตามรายงาน Fed Minutes จะออกมาโทนใด? หากออกมาจะไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยประเมินจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น 3.) ความกังวล Geopolitic ระหว่างสหรัฐ-ไต้หวัน–จีน เมื่อวาน สหรัฐจะเผยเข้าแทรกแซงทางทหารหากจีนพยายามใช้กำลังกับไต้หวัน 4.) สงครามรัสเซีย-ยูเครน ติดตามท่าทีของรัสเซียจะเป็นอย่างไร หลังฟินแลนด์-สวีเดนเข้าร่วมนาโต

อัตราแลกเปลี่ยน : แนวโน้มค่าเงินหยวน พลิกกลับมาแข็งค่าแรง จาก 6.8 USDCNY ล่าสุดอยู่ที่ 6.64 เป็นส่วนนึงทำให้สกุล Dollar เดินหน้าอ่อนค่าต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 102 จุด KS ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นฝั่งประเทศกำลังพัฒนา อีกฝั่งนึงคือ ทำให้ทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่า ล่าสุด อยู่ที่ 34.1 บาท ช่วงสั้นเป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มส่งออก อาทิ ASIAN, CPF,TU, GFPT,CBG แต่จะบวกต่อโรงไฟฟ้า

กลยุทธ์การลงทุน : KS แนะนำสำหรับนักลงทุนที่เราแนะนำให้กลับมาสะสมหุ้นบริเวณแนวรับ 1585 จุดที่ลงมาในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้า แนะนำตลาดหุ้นที่ขึ้นมารอบนี้ Lock Profit กำไร 1666 +/- และรอติดตามรายงาน Fed minutes ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ ยอดขายบ้านใหม่, อัตราเงินเฟ้อ PCE/Core PCE Index เดือน เม.ย., และดัชนี PMI ในเดือน พ.ค. ซึ่งเกือบทุกดัชนีตลาดคาดจะอ่อนตัวลง จากผลกระทบสงคราม และเงินเฟ้อที่สูง ฯลฯ หากลดลงมากกว่าคาดอาจสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้น และการประชุม Fed ยังคงมุมมองคือ ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสแกว่งตัว (Sideway) คำแนะนำลงทุน คือเน้น

1.) กลุ่มเปิดเมือง อาทิ BEM, CENTEL,OR, PTG, D, AMATA แต่ต้องติดตามสถานการณ์โรคฝีดาษลิง แต่หากมีการประกาศห้ามเดินทาง คุมกิจกรรมเศรษฐกิจ แนะนำชะลอการลงทุน

2.) กลุ่ม Growth อาทิ SINGER, BE8

3.) กลุ่ม Defensive อาทิ BH, BDMS, ADVANC, AP

4.) กลุ่มโรงกลั่น แนะนำ SPRC

5.) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากจีนเปิดประเทศ (CPF,CBG, EKH)

มุมมองตลาดหุ้น SET วันนี้คาด 1640-1645 จุด หุ้นแนะนำ CK, JWD

Top pick :

  • CK (ราคาเป้าหมายที่ 28.3 บาท) Catalyst หนุนราคาหุ้น รฟม.ออก TOR ประมูลรถไฟฟ้าสีส้มตะวันตก (9.6 หมื่นลบ. หาก CK ชนะประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกจะเป็น Upside ต่อราคา ระยะถัดไปจะมาจากได้รับโครงการทางด่วนสองชั้นใหม่จาก BEM โดย ราคาหุ้น CK ยัง Laggard คือ ลดลง 12% YTD เทียบกับ STEC ที่ลดลง 10% YTD และ SET ที่ลดลง 2.2% และปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ PER ปี 2565 ที่ 34 เท่าหรือเท่ากับ 2.5SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 5 ปี
  • JWD (ราคาเป้าหมายที่ 22.8 บาท) เราคาดกำไรรายไตรมาสของ JWD ในปี 2565 จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปี นอกจากการเติบโตภายในของธุรกิจหลักทั้งหมด เช่น คลังสินค้าสินค้าทั่วไป ลานสินค้าอันตราย อาหาร การขนส่ง และห้องเก็บของให้เช่า (self-storage) นอกจากนี้ สัดส่วนการถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นใน ESCO และการเริ่มต้นโครงการใหม่หลายแห่ง เช่น คลังสินค้าภายใต้บริษัทร่วมทุน Alpha ห้องเย็นแห่งใหม่ที่ อ.มหาชัย และ จ.สระบุรี โดยรวมจะหนุนกำไรในอนาคต Catalyst หนุนราคาหุ้นในปัจจุบัน คือ การประกาศการลงทุนใหม่ที่น่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. คาด 57.9 จุด (-2.2% MoM) ตัวเลข S&P Global Service PMI ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. คาด 55.4 จุด (ทรงตัว MoM) ตัวเลข New home sales ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด 0.75mn ยูนิต (-1% MoM) และถ้อยแถลงของ Fed Chair Powell
  • วันพุธ ถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde ตัวเลข Durable goods orders ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด +0.6% MoM การรายงานสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯรายสัปดาห์ ถ้อยแถลงของ Fed Brainard และ FOMC minutes
  • วันพฤหัสฯ ติดตาม การประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ คาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25bps. เป็น 1.75% ตัวเลข Initial jobless claim รายสัปดาห์ของสหรัฐฯ คาด +2.21 แสนคน (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.18 แสนคน)
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลข Personal spending และ Personal income ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด +0.7% MoM และ +0.6% MoM ตามลำดับ ตัวเลข Retail inventories ex auto ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด +1.5% MoM ตัวเลข Wholesale inventories ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด +2.1% MoM และตัวเลข Michigan consumer sentiment ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. คาด 59.1 จุด (-9.4% MoM)
- Advertisement -