บล.พาย:
TTW: ภาพไม่สู้ดีในปี 2022 แต่คาดฟื้นตัวในภายหลัง
ลดคำแนะนำจากซื้อเป็น “ถือ” และลดมูลค่าพื้นฐานลง 22% เป็น 11.70 บาท เพราะภาพรวมด้านกำไรที่อ่อนแอ สืบเนื่องจากอุปสงค์การใช้น้ำประปาที่สาเหตุจากการเข้าสู่ฤดูฝน มูลค่าพื้นฐานดังกล่าวอิง 16xPE’22E หรือที่ค่าเฉลี่ย 3 ปี
- กำไรสุทธิ 1Q22 ลดลงเหลือ 613 ล้านบาท (-13% YoY, -1% QoQ) แตะจุดต่ำรอบ 4 ปี และนับว่าต่ำกว่าคาด
- กำไรที่ลดลง YoY เป็นผลจากอัตรากำไรที่ลดลง อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายที่สูงขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจาก CKP ที่ลดลง ขณะที่รายได้ก็ลดลง 4% YoY เพราะยอดขายน้ำบริสุทธิ์จากทั้ง TTW และ PTW ที่ลดลง (-12% YoY) โดยมีสาเหตุมาจากจำนวนลูกค้าของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ที่ลดลง
- คาดกำไร 2Q-3Q22 จะปรับดีขึ้น QoQ จากปัจจัยตามฤดูกาลที่หนุนกิจการโรงไฟฟ้าพลังน้ำจาก CKP (ฤดูฝน) แต่คาดถึงภาพรวมที่อ่อนแอในปี 2022 จากปริมาณขายน้ำประปาจาก TTW และ PTW ที่ลดลงในไตรมาสถัดๆ ไป แม้จะมีราคาขายเฉลี่ยที่ปรับดีขึ้นเล็กน้อยก็ตาม
สรุปผลประกอบการ 1Q22
- กำไรสุทธิ 1Q22 ลดลงเหลือ 613 ล้านบาท (-13% YoY, -1% QoQ) แตะจุดต่ำรอบ 4 ปี และนับว่าต่ำกว่าคาด
- กำไรที่ลดลง YoY เป็นผลจากอัตรากำไรที่ลดลง อัตราส่วน SG&A ต่อยอดขายที่สูงขึ้น และส่วนแบ่งกำไรจาก CKP ที่ลดลง
- ขณะที่รายได้ก็ลดลง 4% YoY เพราะยอดขายน้ำบริสุทธิ์จากทั้ง TTW และ PTW ที่ลดลง (-12% YoY) โดยมีสาเหตุมาจากจำนวนลูกค้าของ กปภ. ที่ลดลง
- อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลดลงเหลือ 63.1% ใน 1Q22 จาก 65.4% ใน 1Q21 สืบเนื่องจากค่าเสื่อมของ PTW ที่สูงขึ้น (จากการเดินเครื่องสินทรัพย์มากขึ้นในปี 2021)
- SG&A อยู่ที่ 68 ล้านบาท (+18% YoY, -14% QoQ) การปรับเพิ่มขึ้น YoY ส่วนใหญ่เป็นผลจากค่าใช้จ่ายด้าน CSR ส่วนที่ลดลง QoQ เป็นเพราะการจ่ายค่าตอบแทนพนักงานที่ลดลง
- ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยลดลงเหลือ 10 ล้านบาท (-66% YoY, -68% QoQ) เป็นผลจากปัจจัยตามฤดูกาลของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังน้ำ และอัตรากำไรของโรงไฟฟ้าพลังก๊าซที่ถูกฉุดลง จากต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น
คาดกำไร 2Q22 จะปรับดีขึ้น QoQ แต่ลดลง YoY
- คาดกำไร 2022 จะดีขึ้น QoQ ด้วยส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยอย่าง CKP ที่สูงขึ้น หนุนจากปัจจัยตามฤดูกาลสำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ที่จะไปช่วยชดเชยปริมาณขายน้ำของ TTW ที่อ่อนแอได้
- ยอดขายน้ำของ TTW ใน 1Q22 ลดลง 13% ส่วนแบ่งกำไรจาก CKP ก็ลดลง 66% YoY จากอัตรากำไรที่อ่อนตัวลงเพราะต้นทุนก๊าซที่สูงขึ้น คาดว่าบรรยากาศเช่นนี้จะดำเนินต่อเนื่องไปถึง 2Q22 และฉุดกำไรในเชิง YoY ลง
- ภาพรวมปี 2022 ยังอ่อนแอ เพราะคาดว่ากำไรต่อหุ้น (EPS) จะลดลง 3% YoY ปริมาณขายน้ำยังมีภาพที่อ่อนแอในปี 2022 (-10 YoY) สืบเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะเป็นปีที่มีฝนตกมาก ผนวกกับส่วนแบ่งกำไรจาก CKP ที่จะเผชิญแรงกดดันจากอัตรากำไรที่ลดลงเพราะมีต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูง
- คาดกำไรจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในปี 2023 จากคาดการณ์ว่าธุรกิจน้ำประปาจะปรับดีขึ้นจากราคาขายที่ดีขึ้น (+0.5%-30% สำหรับ TTW และ PTW หรือปรับตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI))
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2022-23 ลง 10%-11%
- ปรับลดประมาณการกำไรปี 2022-23 ลง 10% และ 11% ตามลำดับ หลังจากปรับลดสมมติฐานการเติบโตของรายได้ GPM และส่วนแบ่งกำไรจาก CKP ลง
- ปรับลดสมมติฐานการเติบโตของรายได้ปี 2022 ลง 5% เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดสมมติฐานปริมาณขายน้ำประปาของ TTW และ PTW ลง เนื่องจากจำนวนลูกค้าของ กปภ. ที่ลดลงสืบเนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่สูงขึ้นในปี 2021-2022 (ปรากฏการณ์ลานีญา) ที่ฉุดทั้งอุปสงค์การใช้น้ำประปาในประเทศและภาคอุตสาหกรรมลง
Revenue breakdown
TTW ผลิตและจำหน่ายน้ำประปาในพื้นที่สมุทรสาครและนครปฐม ปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวมสูงสุด 540,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน มีบริษัทย่อยคือ บจ.ประปาปทุมธานี (PTW) ซึ่งผลิตและจำหน่ายน้ำประปาในพื้นที่ปทุมธานี ปัจจุบันมีกำลังการผลิตสูงสุด 488,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน
รายได้จากการขายน้ำประปาทั้งหมดมีสัดส่วนราว 67% ของรายได้ทั้งหมด คิดเป็น 31% ที่มาจาก PTW ขณะที่บริษัทย่อยอีก 2 แห่งอย่าง บจ.ไทยวอเตอร์ โอเปอเรชั่นส์ (TWO) และนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน (BIE) นั้นคิดเป็น 2% ของรายได้ทั้งหมดของ TTW โดย TWO จะบริหารและจัดการระบบผลิตและจ่ายน้ำประปาและระบบบำบัดน้ำเสียในปทุมธานี ขณะที่ BIE ทำการผลิตน้ำประปาด้วยกำลังการผลิตที่ 48,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน และมีกำลังในการบำบัดน้ำเสียที่ 18,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน