KS Daily View 25.05.2022 >> วันนี้รอ Fed minutes SET วันนี้คาดแนวรับ 1610 จุด หุ้นแนะนำ ADVANC, BEM

ต่างประเทศ : ภาพใหญ่ทางปัจจัยพื้นฐานที่หนุนตลาดหุ้นโลกช่วงต้นสัปดาห์ มาจากความคาดหวังสหรัฐอาจจะยกเลิกภาษีนำเข้า (tariff) กับจีน และเศรษฐกิจจีนคาดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว(Bottomed out) เนื่องจากจะมีการคลายล๊อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ในวันที่ 1 มิ.ย. และรัฐบาลจีนเดินหน้ากระตุ้นทั้งนโยบายการเงินและการคลัง
แต่อย่างไรก็ตามผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ และมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียที่ยังมีอยู่หนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทรงตัวสูง โดยเฉพาะราคาน้ำมัน กดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก โดยประเด็นความกังวลเศรษฐกิจโลกจะถดถอย (Recession) กลับมาเนื่องจากเมื่อคืนมีรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)ของเดือน พ.ค. หลายประเทศ อาทิ สหรัฐ, เยอรมัน, อังกฤษ ฯลฯ ออกมาต่ำคาด และลดลงจากเดือนก่อนหน้า แต่ยังยืนเหนือ 50 จุด และฝั่งสหรัฐ รายงาน ยอดขายบ้านใหม่ เดือน เม.ย. ลดลงแรง -16.6% MoM โดยรวมรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอกลับมากดดันสร้างความผันผวนต่อตลาดหุ้นสหรัฐ และยุโรปเมื่อคืนอีกครั้งหลังจาก Rebound ขึ้นมาคือ ดัชนี S&P500 -0.8%DoD, ดัชนี Nasdaq -2.3%DoD, ดัชนี DAX -1.8%ฯลฯ อีกฝั่งนึงคือเงินไหลเข้าไปพักที่พันธบัตร เห็นได้จาก Bond Yields สหรัฐ อายุ 2 ปี และ 10 ปี ปรับลงทำจุดต่ำสุดต่อ อยู่ที่ 2.52% และ 2.76% โดย KS คาดทิศทาง Bond Yields ได้ผ่านจุด Peak ไปแล้ว ประเมินเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มการเงิน

KS ประเมินว่าประเด็นโอกาสการเกิดเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ คาดประเทศ สหรัฐ, จีน, ไทย ความเสี่ยงที่จะเกิด Recession ยังต่ำต่อเนื่อง ยกเว้นยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากสงครามมากกว่า โดย KS ประเมินว่าภาพเศรษฐกิจที่เริ่มเห็นสัญญาณอ่อนตัว คาดจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจจะชะลอหรือไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยคาดโอกาสการขึ้นดอกเบียฯ ในการประชุมที่เหลือของปีนี้จะไม่ขึ้นเกิน 50 bps ปัจจุบันตลาดเชื่อว่าจะขึ้นดอกเบี้ยฯ 50bps ในการประชุม 3 ครั้งถัดไป (จากเดิมคาด 75 bps) และดอกเบี้ยสิ้นปีของสหรัฐจะอยู่ที่ 2.75-3% โดยต้องติดตาม รายงาน Fed Minutes จะออกมาโทนใด? หากออกมาไม่ Hawk เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น

อัตราแลกเปลี่ยน : แนวโน้มค่าเงินสกุล Dollar เดินหน้าอ่อนค่าต่อเนื่อง และทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ล่าสุดอยู่ที่ 101.76 จุด KS ประเมินเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นฝั่งประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงตลาดหุ้นไทย เมื่อวานต่างชาติซื้อสุทธิ 191 ล้านบาท และนับตั้งแต่ต้นเดือนซื้อสุทธิ 6.2 พันล้านบาท ผลจากทิศทางค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า ล่าสุด อยู่ที่ 34.1 บาท เงินบาทที่แข็งค่าเป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มส่งออก อาทิ ASIAN, CPF,TU, GFPT,CBG แต่จะบวกต่อโรงไฟฟ้า

กลยุทธ์การลงทุน : KS ยังคงคำแนะนำสำหรับนักลงทุนที่กลับมาสะสมหุ้นบริเวณแนวรับ 1585 จุดที่ตลาดหุ้นที่ขึ้นมารอบนี้ Lock Profit กำไร เชื่อว่าตลาดหุ้นจะเริ่มผันผวนในช่วงรายงาน Fed minutes วันพรุ่งนี้ และความกังวลจะเกิด Recession เพิ่มขึ้น และช่วงนี้รายงาน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อาทิ ยอดขายบ้านใหม่, อัตราเงินเฟ้อ PCE/Core PCE Index เดือน เม.ย., และดัชนี PMI ในเดือน พ.ค. ซึ่งเกือบทุกดัชนีตลาดคาดจะอ่อนตัวลง หากลดลงมากกว่าคาดอาจสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้น และการประชุม Fed ยังคงมุมมองคือ ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสแกว่งตัว (Sideway) คำแนะนำลงทุนเน้น

1.) กลุ่มเปิดเมือง อาทิ BEM, CENTEL,OR, PTG, D, AMATA แต่ต้องติดตามสถานการณ์โรคฝีดาษลิง หากมีการประกาศห้ามเดินทาง คุมกิจกรรมเศรษฐกิจ แนะนำชะลอการลงทุน

2.) กลุ่ม Defensive อาทิ BH, BDMS, ADVANC, AP

3.) กลุ่มโรงกลั่น แนะนำ SPRC ESSO

4.) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากจีนเปิดประเทศ (CPF,CBG, EKH)

5.) กลุ่มที่ได้ปรโยชน์หากสหรัฐยกเลิกภาษี (tariff) KCE, JWD

6.) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Bond Yield ปรับลง คือ กลุ่มโรงไฟฟ้า GUNKUL กลุ่มการเงิน (TIDLOR, SAWAD)

มุมมองตลาดหุ้น SET วันนี้คาด 1610 จุด หุ้นแนะนำ ADVANC , BEM

Top pick :

  • ADVANC (ราคาเป้าหมายที่ 249.4 บาท) ปัจจัยหนุนราคา 1) ข้อตกลงคลื่น 700 MHz กับ NT ที่ดีเกินคาด 2) การรวมตลาดเน็ตบ้านที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกับการสร้างรายได้จากสินทรัพย์และ 3) สภาพแวดล้อมการแข่งขันของตลาดมือถือที่ดีขึ้นจากการควบรวมกิจการระหว่าง DTAC และ TRUE เราปรับราคาเป้าหมายขึ้น 6.9% จาก 233.32 บาทเป็น 249.45 บาท
  • BEM (ราคาพื้นฐาน 9.99 บาท) กระแสบวกจากการเปิดเมือง ทั้ง 1) นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสอาจเดินทางเข้าไทยได้โดยไม่ต้องตรวจโควิด-19 2) โรงเรียนเริ่มเปิดเรียนออนไซต์ 3) การเปิดร้านอาหารและบริการอย่างเต็มรูปแบบ 4) การกลับไปทำงานในสำนักงาน โดยมาตรการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มการเดินทางและเป็นประโยชน์โดยตรงต่อ BEM

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพุธ ถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde ตัวเลข Durable goods orders ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด +0.6% MoM การรายงานสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯรายสัปดาห์ ถ้อยแถลงของ Fed Brainard และ FOMC minutes
  • วันพฤหัสฯ ติดตาม การประชุมธนาคารกลางเกาหลีใต้ คาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25bps. เป็น 1.75% ตัวเลข Initial jobless claim รายสัปดาห์ของสหรัฐฯ คาด +2.21 แสนคน (เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.18 แสนคน) และตัวเลข Pending home sales ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด -1.9% MoM
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลข Personal spending และ Personal income ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด +0.7% MoM และ +0.6% MoM ตามลำดับ ตัวเลข Retail inventories ex auto ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด +1.5% MoM ตัวเลข Wholesale inventories ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด +2.1% MoM และตัวเลข Michigan consumer sentiment ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. คาด 59.1 จุด
- Advertisement -