ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
เทรดไซด์เวย์ต่อ
ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ เทรดไซด์เวย์ต่อ… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยค่อนข้างผันผวน มีแรงผลักขึ้นระหว่างเทรดแต่ยืนไม่ได้ กลับมาปิดเกือบไม่เปลี่ยนแปลง (ตามคาด) และฟันด์โฟลว์ต่างชาติชะลอตัวเมื่อวานนี้ ขณะที่ในวันนี้ปัจจัยโดยรวมเป็นกลาง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เทรดในกรอบแคบๆ หลังจากนักลงทุนย่อยรายงานการประชุมเฟด (FOMC meeting minutes) จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อต้นเดือนนี้ ทั้งนี้รายงานดังกล่าวว่ากรรมการเฟดเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.50% ในการประชุม 2-3 ครั้งข้างหน้า และพร้อมที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยให้ขึ้นสูงเกินระดับที่เป็นกลางต่อเศรษฐกิจ (neutral rate) หากจำเป็น ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ประเมินว่า neutral rate ของสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.50-2.75% ทั้งนี้ตลาดการเงินรวมทั้ง CME เฟดฟันด์ฟิวเจอร์ ไม่ได้ตอบสนองต่อ minutes เท่าใดนัก เนื่องจากทิศทางนโยบายดังกล่าวรับรู้อยู่ในตลาดอยู่แล้ว นอกจากนี้ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทน เมษายน ออกมาต่ำกว่าที่ consensus คาด และยอดบ้านคงค้างปรับขึ้นสูงเกือบเท่าตัว เมื่อเทียบกับเมษายนปีที่แล้ว ส่งผลให้นักลงทุนยังคงกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่… สำหรับในคืนวันนี้ สหรัฐฯ จะ รายงาน GDP ไตรมาส 1/2565 (รายงานรอบสอง) ขณะที่ในคืนวันศุกร์จะมีตัวเลขสำคัญ ได้แก่ PCE inflation สหรัฐฯ… ด้านปัจจัยภายในประเทศ สภาพัฒน์ฯ เตรียมหารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับครึ่งปีหลังในเร็วๆ นี้ แต่ส่งสัญญาณว่ามาตรการคนละครึ่งเฟส 5 อาจช่วยเพียงเฉพาะกลุ่ม เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ ขณะที่เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อฯ ทรงตัวที่ 4,924 ราย เสียชีวิต 37 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 5,560 ราย
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร SHR, OTO, MAJOR*
- SHR (เป้าพื้นฐาน 4.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.2 บาท / แนวต้าน 4.6 บาท กรณี Breakout แนวต้านนี้ได้มีโอกาสทดสอบแนวตานถัดไป 4.8 บาท (Stop loss 4.0 บาท) 2) อัตราการเข้าพัก รร. ในกลุ่มฯ เดือน เม.ย.ปรับขึ้นเป็น 61% (มากกว่าเฉลี่ย 1Q65 ที่ 46%) สะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมตั้งแต่ 2Q – 4Q โดยเฉพาะต่างประเทศ หลังหลายประเทศเริ่มคลายมาตรการรับมือโควิด-19 แล้ว 3) คาดปีนี้ลุ้นไม่มีผลขาดทุนสุทธิ ขณะที่คาดกระแสเงินสด EBITDA ฟื้นแรงเป็นบวก +1.7 พันล้านบาท ขณะที่ PBV ยังต่ำเพียง 0.99 เท่า (กลุ่มโรงแรม PBV สูงกว่า +2 เท่าขึ้นไป)
- OTO (เป้าพื้นฐาน 16.2 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 12.9 บาท / แนวต้าน 13.6 – 13.9 บาท หาก Breakout ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 14.5 บาท (Stop loss 12.6 บาท) 2) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q65 Turnaround จากธุรกิจ Esports ที่จะเริ่มรับรู้รายได้การลงทุนในทีม PSG (ROV) หลังจากที่ 1Q65 มีผลขาดทุนจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์ ขณะที่มีกำไรจากการดำเนินงาน และล่าสุดอนุมัติลงทุนในทีม XERXIA (Valorant) (ยังไม่รวมในประมาณการฯ) ขณะที่ 3Q65 จะเริ่มรับรู้รายได้จาก Platform HUBBER (ศูนย์รวมการเล่มเกมส์ออนไลน์) 3) ประเมินกระแส Esports ในไทยเริ่มดีต่อเนื่อง หลังทีม Esports ไทยได้เหรียญรางวัลจากการแข่งซีเกมส์
- MAJOR* (เป้า Consensus 24.7 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 20.7 บาท / แนวต้าน 21.5-22.0 บาท กรณีผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 23.0 บาท (Stop loss 20.2 บาท) 2) ประเมิน Earnings momentum เป็นขาขึ้น ตามการฟื้นตัวของธุรกิจ และคาดมีโอกาสปรับความจุในการเข้าชมโรงภาพยนต์ขึ้นเป็นเต็ม 100% (ปัจจุบัน 75%) หลังการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น (คาด ก.ค.นี้) 3) หนังฟอร์มยักษ์เตรียมทยอยเข้าโรง อาทิ Top Gun: Maverick / Jurassic World Dominion เป็นต้น หลังจากที่หนัง Doctor Strange ทำรายได้ให้ MAJOR* ถึง 225 ล้านบาท (เริ่มฉาย ต้น พ.ค.) 4) PBV 2.56 เท่า (คิดเป็นราว 1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต) ขณะที่คาดปีนี้กำไรจากการดำเนินงาน Turnaround YoY
หุ้นมีข่าว
(+) CPF*-GFPT ตีปีก! มาเลย์หยุดส่งออกไก่ (ข่าวหุ้น) 3 หุ้นส่งออกไก่ GFPT-CPF*-TFG พุ่ง! รับอานิสงส์มาเลเซียระงับการส่งออกไก่ตั้งแต่ 1 มิ.ย.นี้ เพิ่มโอกาสส่งออกไก่จากไทยไปสิงคโปร์และฮ่องกง ฟากหุ้นน้ำตาล BRR-KTIS-KBS เด้ง! รับข่าวอินเดียจำกัดส่งออกน้ำตาล ดันราคาขายน้ำตาลเฉลี่ยปีนี้พุ่ง 10-20% ทะลุ 20 เซนต์ต่อปอนด์ โบรกฯ จ่อปรับกำไรไตรมาส 2 เพิ่มอีก 20% หลังวอลุ่ม-ราคาขายขาขึ้นไม่หยุด
(+) GULF* ผนึก GUNKUL* ใหญ่ร่วมทุนไฟฟ้าสะอาดพันเมก (ทันหุ้น) GULF* ประกาศตั้งบริษัทร่วมทุน ร่วม GUNKUL* รุกใหญ่โครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกัน ตั้งเป้า 1,000 เมกะวัตต์ใน 5 ปี พร้อมลุยนวัตกรรมพลังงาน เป็นการผนึกความแข็งแกร่งเครือข่ายธุรกิจ มีลูกค้ารายใหญ่ ด้านผู้บริหาร GUNKUL* รับต่อจิ๊กซอว์สเกลใหญ่โครงสร้างพื้นฐานระดับประเทศ ต่อยอดสู่คาร์บอนเครดิต
(+) สายสีส้ม เข้มสเปก ซองเทคนิค คะแนนผ่านเกณฑ์ 90% – BTS* – BEM* พร้อมซิง (กรุงเทพธุรกิจ) รฟม.ขายซอง 27 พ.ค. ลงนามได้ภายในปีนี้ รฟม.ตั้งโจทย์หินคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม หวังคัดฝีมืองานโยธาคุณภาพสูง เหตุแนวเส้นทางผ่านพื้นที่สำคัญ เข้มเกณฑ์คะแนนเทคนิค 90% จึงจะมีสิทธิเปิดซองราคา เปิดช่องชี้ขาดขั้นสุดท้ายด้วยเทคนิค เริ่มขายซอง 27 พ.ค.นี้ “บีทีเอส-บีอีเอ็ม” พร้อมลงสนามเปิดศึกชิง
(+) OR* การันตีไตรมาส 2 พุ่ง ยอดขายน้ำมันพื้นแรง (ข่าวหุ้น) OR* มั่นใจผลงานไตรมาส 2/65 เติบโตรับปัจจัยหนุนยอดขายน้ำมันทั้งกลุ่มเบนซิน ดีเซลเพิ่มขึ้น ขณะที่น้ำมันอากาศยานฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ เร่งเจรจาดีลใหม่เพียบจ่อสรุปภายในปีนี้ “จิราพร” กางแผน 10 ปี อัดงบลงทุน 2 แสนล้านบาท ดันอีบิทด้าพุ่ง 4 หมื่นล้านบาท ในปี 73
(+ กลุ่มนิคมฯ) ‘อีอีซี เนื้อหอม ตั้งเป้า 5 ปีดึงลงทุน 2.2 ล้านล้าน (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) จีนจ่อลุย อีวี-เยอรมนีแบตฯ “คณิศ” นำทีม สกพอ.โชว์ผลสำเร็จขับเคลื่อน อีอีซี 4 ปี ผลักดันลงทุน 1.7 ล้านล้านบาท ใช้รูปแบบ PPP ผุดโครงสร้างพื้นฐานหลักครบรัฐรับประโยชน์กว่า 4.4 แสนล้าน ดึงทุนต่างชาติเสริมแกร่ง เศรษฐกิจปักหมุด 5 ปี (65-69) ลุยดึงลงทุน 2.2 ล้านล้านบาท สัญญาณลงทุนยังไม่แผ่ว จีนส่อลุยคลัสเตอร์อีวี เยอรมนี้ลุยแบตเตอรี่ รีไซเคิลพลาสติก พร้อมดึงลงทุนทั้งคลัสเตอร์ ต่อยอด 5G สร้างคน ชุมชน โรงงานอัจฉริยะ
(+) BDMS* เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทอนุมัติการทำรายการเช่าที่ดินระยะยาว 30 ปี บริเวณหัวมุมถนนสารสินและถนนหลังสวน (ตรงข้ามสวนลุมพินี) พื้นที่ 30 ไร่ 60.18 ตารางวาจากสำนักงานทรัพย์สินฯ โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง 6.5 ปี (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เรามองเรื่องดังกล่าวเป็นบวกต่อ BDMS ในอนาคต ทั้งนี้บริษัทสามารถจัดการทางการเงินด้วยกระแสเงินสดภายในกิจการ และการกู้บางส่วน (ไม่มีการเพิ่มทุน) เรามองว่าโครงการดังกล่าวรองรับแนวโน้มการดูแลผู้สูงอายุที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย ทั้งนี้ เรายังไม่ได้รวมเรื่องดังกล่าวในประมาณการ เรายังคงแนะนำซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2565 เท่ากับ 31.00 บาท
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- BEM* (เป้า Consensus 9.9 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 8.9 บาท)
- CPF* (เป้าพื้นฐาน 30.5 บาท) แนวรับ 25.0 บาท / แนวต้าน 25.75-27.0 บาท (Trailing stop 24.7 บาท)
- IVL* (เป้าพื้นฐาน 59 บาท) แนวรับ 48.5 บาท / แนวต้าน 50-52 บาท (Trailing stop 47.5 บาท)
- IP (เป้า Consensus 26.6 บาท) แนวรับ 20.00 บาท / แนวต้าน 20.8-21.2 บาท (Stop loss 19.6 บาท)
- BEC* (เป้าพื้นฐาน 18 บาท) แนวรับ 15.0 บาท / แนวต้าน 15.5-16 บาท (Stop loss 14.5 บาท)
- PTG* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) แนวรับ 14.5 บาท / แนวต้าน 15.2-15.7 บาท (Stop loss 14.5 บาท)
- INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 89.5 บาท) แนวรับ 72.5 บาท / แนวต้าน 76 บาท (Stop loss 71.5 บาท)
- CPALL* (เป้าพื้นฐาน 75 บาท) แนวรับ 63.5 บาท / แนวต้าน 65-67 บาท (Stop loss 63.5 บาท)
- UBE (เป้าพื้นฐาน 2.9 บาท) แนวรับ 2.0 บาท / แนวต้าน 2.1-2.2 บาท (Stop loss 1.98 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
SHR แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 4.8 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์มุมมองเป็นบวก อัตราการเข้าพัก รร. ในกลุ่มฯ เดือน เม.ย.เพิ่มขึ้นเป็น 61% (จากเฉลี่ย 46% ใน 1Q65) ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯประเมินปัญหาเรื่องต้นทุนรายจ่ายที่ปรับขึ้นยังสามารถควบคุมได้ดี คาดผลการดำเนินงาน 2Q65 ฟื้นตัวเด่น ยังคงแนะนำ “ซื้อ”
ZEN แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 11.1 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นบวกเล็กน้อย ยอดขายเริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ดี ประมาณการฯทั้งปีของฝ่ายวิจัยฯ มี Downside ขณะที่ Upside จากประมาณการฯปัจจุบันจำกัด จึงแนะนำเพียง “ถือ”
BGRIM แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 41 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์มุมมองเป็นบวก คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานฟื้นตัวแรงใน 2H65 ขณะที่มี Upside จากการลงทุนขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าอีกทั้งในไทยและเวียดนามจากแผน PDP ใหม่ คงคำแนะนำ “ซื้อ”
BCH” แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 28 บาท แม้ว่าอานิสงส์จากการรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 จะเริ่มลดลงแล้ว แต่ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินผู้ป่วยนอกเหนือจากโควิด-19 จะเริ่มฟื้นตัวใน 2H65 ทั้งจากผู้ป่วยคนไทยและต่างชาติ
EGCO* อยู่ระหว่างพิจารณาปรับประมาณการฯและคำแนะนำ “Under Review” จากการประชุมนักวิเคราะห์มุมมองเป็นกลาง ยังไม่มีประเด็นใหม่เพิ่มเติม โดยยังคงแผนการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า +1,000MWe ในปีนี้ คาดจะเริ่มมีความชัดเจนใน 2H65 อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินงานใน 2Q65 คาดจะชะลอตัวลง QoQ (ค่าเงินบาท และโรงไฟฟ้าพลังงานลมเข้าสู่ Low season)