บล.พาย:
SHR: คาดทิศทางกิจการที่ดีขึ้นใน 2H22
การประชุมนักวิเคราะห์ให้น้ำหนักเป็นบวกต่อภาพรวมปี 2022 คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่เพิ่มมูลค่าพื้นฐานขึ้น 7% เป็น 4.80 บาท อิง 1x PBV’23E เพื่อสะท้อนภาพรวมเชิงบวกสำหรับปี 2023 จากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวทั่วโลก
- คาด EBITDA ปี 2022 โตขึ้น 4 เท่า สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตด้านรายได้ที่ผู้บริหารกำหนดไว้ที่ 61% หนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวทั่วโลก
- คาดพอร์ตกิจการในสหราชอาณาจักร (UK) เติบโตมั่นคงจากผลงานที่ซบเซาใน 1Q22 เพราะ low season ประเมินว่ากิจการส่วนนี้จะพลิกฟื้นสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 ได้ภายในสิ้นปี 2022 ส่วนพอร์ตในมัลดีฟส์จะเข้าสู่ช่วง low season ใน 2Q22 แต่คาดถึงทิศทางกำไรที่พลิกฟื้นขึ้นอีกครั้งใน 2H22
- คาดกิจการในไทยปรับดีขึ้นใน 2Q22 จากการยกเลิกมาตรการ Test & Go ตั้งแต่เดือน พ.ค. เป็นต้นไป โดยคาดว่าจำนวนการไหลเข้าของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะโตเป็นอย่างมากใน 2H22 หลังจากมีการยกเลิกมาตรการ Thailand Pass ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยได้ง่ายขึ้น
ภาพรวมปี 2022
- พอร์ตธุรกิจใน UK : ผู้บริหารคาดถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งตั้งแต่ 2Q22 หนุนจากช่วง high season และการท่องเที่ยวในประเทศที่สูงขึ้น กิจกรรมในกลุ่ม MICE ฟื้นตัวขึ้น 50% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ผู้บริหารคาดอัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพักต่อคืน (RevPar) ในปี 2022 จะฟื้นสู่ระดับก่อนเกิดโควิด-19 ด้วย upside 32% YoY
- โครงการ CROSSROADS เฟส 1 – ผู้บริหารคาดว่าพอร์ตมัลดีฟส์จะโตอย่างมีนัยสำคัญจากจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่โตขึ้น 21% YoY เป็น 1.60 ล้านรายในปี 2022 คิดเป็นอัตราการเข้าพักเฉลี่ยที่ 70% และอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) ที่โตขึ้น 30% ขณะที่เราคาดว่า RevPar จะเพิ่มขึ้นราว 60% ในปี 2022
- ธุรกิจโรงแรมที่บริหารเอง : ธุรกิจโรงแรมในไทยจะได้ประโยชน์จากการยกเลิกมาตรการ Test & Go และ Thailand pass เพราะจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มากขึ้น ผู้บริหารคาด ADR ของโรงแรมทราย 3 แห่งที่สูงกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ใน 4Q22 ขณะที่เราคาดว่า RevPar ของธุรกิจในไทยจะโตขึ้นราว 6 เท่า YoY ในปี 2022
- โรงแรม Outrigger : ผู้บริหารคาดว่า ADR ของโรงแรมมอริเชียสโตขึ้นมายืนเหนือระดับในช่วงก่อนเกิดโค วิด-19 และประเมินว่าการดำเนินงานในฟิจิจะปรับสูงขึ้นหลังจากมีการเปิดพรมแดนโดยไม่มีเงื่อนไขการกักตัว ขณะที่เราคาดว่า RevPar จะโตขึ้นราว 5 เท่า YoY ในปี 2022
- คาดกำไรพลิกเป็นบวกในปี 2022 ที่ 32 ล้านบาท จากการเติบโตของรายได้ 61% ที่หนุนจากการฟื้นตัวของ ภาคการท่องเที่ยวทั่วโลก ขณะที่คาดว่า EBITDA ปี 2022 จะโต 4 เท่า สอดคล้องกับเป้าหมายของผู้บริหาร
สรุปผลประกอบการ
- ขาดทุนสุทธิ 1Q22 อยู่ที่ 204 ล้านบาท เทียบขาดทุนสุทธิ 311 ล้านบาท ใน 1Q21 และขาดทุนสุทธิ 70 ล้านบาท ใน 4Q21 โดยรวมแล้วสอดคล้องกับคาดการณ์
- EBITDA ใน 1Q22 เพิ่มขึ้น YoY เป็น 256 ล้านบาท เทียบกับขาดทุน EBITDA ที่ 59 ล้านบาท ใน 1Q21 ได้แรงหนุนจากธุรกิจโรงแรมที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง แต่ในเชิง QoQ นั้นปรับลดลง 15% จากช่วง low season ในสหราชอาณาจักร (UK)
- อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ 25.5% ถือว่าโตขึ้น YoY แต่ลดลง 4.2ppts QoQ
- พอร์ตธุรกิจใน UK โตขึ้น YoY จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว แต่ลดลง QoQ จากอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) และอัตราการเข้าพักที่ลดลงเพราะช่วง low season
- โรงแรม CROSSROADS เฟส 1 ในมัลดีฟส์ รวมถึงการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจนมี ADR และอัตราเข้าพักที่แตะจุดสูงที่ 14,843 บาท และ 74.3% ตามลำดับ จะทำให้มีการเติบโตต่อเนื่องในปี 2022
- ธุรกิจโรงแรมที่บริหารจัดการเองที่หลักๆ อยู่ในไทยมีผลงานที่ดีขึ้น YoY และ QoQ จากการกลับมาเปิดประเทศและมาตรการ test & go ขณะที่การยกเลิกเงื่อนไข test & go จะช่วยกระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2022 มากขึ้น
- โรงแรม Outrigger ในฟิจิและมอริเชียสมีผลการดำเนินงานที่ปรับดีขึ้น YoY ได้แรงหนุนจากการกลับมาเปิดพรมแดนใน 4Q21 แต่ทรงตัว QoQ เพราะผลกระทบจากโอมิครอนที่มีต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และช่วง low season ในฟิจิ
SHR: Downside earnings revision due to trimmed gross margin assumptions
- ปรับลดประมาณการกำไรปี 2022 ลง 73% หลังจากปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลง 9% เพราะเงินเฟ้อ และราคาพลังงานที่สูงขึ้นในปี 2022 แต่ได้ปรับเพิ่มรายได้ปี 2022 ขึ้น 19% เพราะ RevPar สำหรับพอร์ตใน UK และมัลดีฟส์ที่ดีกว่าคาด
- ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2023 ขึ้น 16% หลังจากปรับเพิ่มรายได้ขึ้น 15% แต่ลดสมมติฐาน GPM สำหรับปี 2023 ลง เพราะมีมุมมองที่รัดกุมต่อเงินเฟ้อ และราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องถึงปี 2023 แม้คาดถึงความรุนแรงที่น้อยลงก็ตาม
Revenue breakdown
ขณะที่ธุรกิจโรงแรมที่บริหารจัดการด้วยตัวเองจะหมายถึง กลุ่มโรงแรมที่บริษัทบริหารและดำเนินการภายใต้แบรนด์ของบริษัท ซึ่งโรงแรม Outrigger ก็ถูกรีแบรนด์ และเปลี่ยนมาเป็นโรงแรมที่บริหารจัดการด้วยตัวเอง ตั้งแต่เดือน ก.พ. เดือน ก.พ. 2021 โดยกลุ่มธุรกิจนี้คิดเป็น 10% ของรายได้รวม
สำหรับโครงการ Crossroads เฟส 1 คือโครงการ 3 แห่งที่พัฒนาอยู่ในเอ็มบูดูลากูน มัลดีฟส์ โดยโครงการในเฟส 1 ประกอบไปด้วยโรงแรม 2 แห่ง ได้แก่ โรงแรมทราย ลากูน มัลดีฟส์ คูลิโอ คอลเลคชั่น บาย ฮิลตัน และฮาร์ดร็อคโฮเทล ซึ่งคิดเป็น 36% ของรายได้ทั้งหมด
พอร์ตกิจการใน UK ประกอบด้วยโรงแรม 28 แห่ง ภายใต้แบรนด์เมอร์เคียว ซึ่งคิดเป็น 54% ของรายได้รวม