บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Bangkok Dusit Medical Services (BDMS)
โครงการ Wellness ไม่ใช่ S Curve ใหม่
ราคาหุ้นย่อแรงเกินไป คง ซื้อ ราคาเป้าหมาย 29 บาท
BDMS ประกาศลงทุนพัฒนาโครงการ Silver Wellness & Residence มูลค่า 2.35 หมื่น ลบ. ในใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งจะเปิดให้บริการในปี 2572 ประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย โรงแรมเพื่อสุขภาพ และศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ ราคาหุ้นปรับฐาน 4% ในวันที่ 26 พ.ค. เนื่องจาก ตลาดกังวลว่าโครงการใหม่จะกดดันงบดุลและกำไรจะลดลงจากค่าเสื่อมราคาจำนวนมาก ทั้งนี้ เราเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาเนื่องจากค่าเช่า 9.4 พันลบ. (สัญญาเช่า 30 ปีสามารถต่ออายุได้อีก 30 ปีหลังจากนั้น) จะจ่ายเพียง 2.5 พัน ลบ.ในเดือน มิ.ย. 65 และส่วนที่เหลืออีก 6.6 พัน ลบ.เมื่อแล้วเสร็จในปี 72 นอกจากนี้ โครงการขนาดใหญ่นี้จะมีพันธมิตรเข้ามาช่วยลดภาระผูกพันด้านการลงทุน โดยรวมของ BDMS ส่วนในแง่ของงบกำไรขาดทุน ค่าตัดจำหน่ายและค่าเสื่อมราคาจะเริ่มในปี 72 ที่โครงการมีรายได้แล้ว ดังนั้น จึงไม่น่าจะเป็นภาระในระยะเวลาอันใกล้นี้ อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองเป็นกลาง เนื่องจากกว่าโครงการจะแล้วเสร็จก็ปี 72 และไม่มีผลต่อ TP (DCF) ของเราในตอนนี้ เนื่องจากยังไม่เปิดเผยประมาณการทางการเงิน เราจึงไม่ได้นํามาคํานวณในการคาดการณ์ EPS และ TP ของเรา
เราคาดหวังผลกำไร แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่รายได้ประจำ
ก่อนหน้านี้เราคาดว่าโครงการที่อยู่อาศัยจะสร้างรายได้ประจำ (เช่น บ้านพักคนชราที่ทำกำไรได้) แต่ดูเหมือนว่าการพัฒนาที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ (มูลค่า 1.6 หมื่น ลบ.) จะเป็นแบบขายขาด แม้เราจะชอบการสร้างรายได้ประจำ แต่เรามองว่าโครงการน่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ และน่าจะทำกำไรได้ ในทางกลับกัน ในขณะที่ศูนย์ดูแลสุขภาพ จะสร้างรายได้แบบประจำ แต่เราเชื่อว่าความสามารถในการทำกำไรจะมีไม่มากนัก เนื่องจากต้นทุนการพัฒนาโครงการที่สูง ผู้บริหารคาดว่า IRR จะอยู่ที่ 11-12% และระยะเวลาคืนทุน 10-11 ปี
ระบบนิเวศดิจิทัล ตัวขับเคลื่อนรายได้ระยะยาว
BDMS วางแผนที่จะสร้างระบบนิเวศด้านสุขภาพดิจิทัลโดยมีสมาชิก 20 ล้านคนภายในปี 2569 ซึ่งสร้างรายได้ 10-15% เพิ่มขึ้นจาก 1% ในขณะนี้ ซึ่งรวมถึงบริการการแพทย์ทางไกล เวชภัณฑ์ และการดูแลที่บ้านบนแพลตฟอร์ม แม้ว่ากำไรขั้นต้นจะต่ำกว่าบริการให้คำปรึกษาทางการแพทย์แบบเดิมๆ แต่ BDMS เชื่อว่าจะให้บริการผู้ป่วยได้มากขึ้น ลดต้นทุน และเพิ่มความพึงพอใจ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดการขยายตัวในด้านใหม่ๆ เช่น การดูแลผู้ป่วยบ้าน ซึ่งไม่ง่ายในการบริการด้วยวิธีการแบบเดิม โดย BDMS จะลงทุน 500 ล้านบาทในปี 65 เพื่อสร้างระบบนิเวศด้านสุขภาพดิจิทัล
ความเสี่ยงที่สำคัญคือการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ฟื้นตัวช้า
เราใช้วิธี DCF ประเมินมูลค่า BDMS ด้วย WACC 6.2% และการเติบโต 3.1% ความเสี่ยงที่สำคัญคือการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์อาจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะหาก Covid กลับมาระบาดอีก ส่งผลให้ไทยต้องออกมาตรการกักตัวที่เข้มงวด