DMT ส่งสัญญาณแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 โตต่อเนื่อง หลังปริมาณการจราจรกลับมาคึกคัก รับภาครัฐผ่อนคลายมาตรการโควิด โรงเรียนกลับมาเปิดเรียนเปิด Onsite คาดยอดผู้ใช้บริการมากกว่าทั้งปีที่ผ่านมา ระบุจากลักษณะธุรกิจของบริษัทเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐาน ส่งผลให้ฟื้นตัวเร็วกว่าอุตสาหกรรมอื่น มั่นใจดันรายได้ค่าผ่านทางปีนี้โตเกิน 50% แตะระดับ 1,900 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าลุยประมูลงานใหม่ 4-5 โครงการ

 

นายธานินทร์ พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT เปดเผยว่า ประเมินปริมาณการจราจรในไตรมาส 2/65 น่าจะดีอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1/65 ที่มีปริมาณจราจรของทางยกระดับดอนเมืองเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 68,160 คันต่อวัน ส่วนสัมปทานเดิมเฉลี่ยต่อวัน 40,539 คันต่อวัน ส่วนสัมปทานตอนต่อขยายด้านทิศเหนือ เฉลี่ยต่อวัน 27,621 คันต่อวัน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งปีของปี 2564 ที่ 20.8% และ 17.3% โดยค่าเฉลี่ยปริมาณการจราจรของทางยกระดับดอนเมืองในปี 2564 ทั้งปีอยู่ที่เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่  57,105 คันต่อวัน แบ่งเป็นปริมาณจราจรส่วนสัมปทานเดิมเฉลี่ยต่อวัน 33,556 คันต่อวัน ส่วนสัมปทานตอนต่อขยายด้านทิศเหนือ เฉลี่ยต่อวัน 23,549 คันต่อวัน

สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนปริมาณการจราจร มาจากปัจจัยบวกของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายลง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง การเตรียมประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นทั่วประเทศ การเปิดประเทศ รวมถึงโรงเรียนประมาณ 35,000 แห่งทั่วประเทศกลับมาเรียน Onsite อีกครั้ง นอกจากนี้ การพัฒนาเมืองและการขนส่งที่มุ่งเน้นทางด่วนโดยรอบ ซึ่งจากประเด็นข้างต้นบ จึงคาดว่าจะเป็นผลบวกต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/65 ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

“คาดการณ์แนวโน้มในไตรมาส 2/65 และแนวโน้มครึ่งปีหลังน่าจะดีต่อเนื่อง จากมาตรการผ่อนคลายกิจกรรมของภาครัฐ ช่วยสนับสนุนการเดินทางและปริมาณจราจรบนทางยกระดับให้เพิ่มขึ้น ซึ่งลักษณะธุรกิจของบริษัทเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานประเภททางด่วนที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง จึงคาดว่าธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้จะฟื้นตัวเร็วกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ” นายธานินทร์ กล่าว

ด้านดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ DMT ระบุ คาดการณ์รายได้ค่าผ่านทางในปีนี้อยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท คิดเป็นรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 5.25 ล้านบาทต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 50% จากปีก่อนที่มีรายได้ค่าผ่านทางอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการที่ภาครัฐเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน ทั้งในธุรกิจทางด่วนและทางพิเศษ ได้แก่ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองส่วนต่อขยาย ทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต-บางปะอิน (M5) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว (M82) โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง และธุรกิจอื่นนอกเหนือจากธุรกิจทางด่วนและทางพิเศษ อาทิ โครงการพัฒนาจุดพักรถริมทางหลวง และโครงข่ายระบบขนส่งสาธารณะระบบรอง เชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง

“ในไตรมาส 1/65 ที่ผ่านมา บริษัทดำเนินงานต่อเนื่องในการยกระดับและการวางรากฐานการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน โดยมีโครงการพัฒนาด้านต่างๆ ที่บริษัทได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและแล้วเสร็จในไตรมาส 1/65 ได้แก่ โครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำใต้ทาง เปลี่ยนท่อระบายน้ำแยกลาดพร้าว และการเชื่อมต่อข้อมูลด้านการจราจร ศูนย์บริหารจัดการจราจรและอุบัติเหตุ กรมทางหลวง เป็นศูนย์กลางประสานความร่วมมือด้านการจราจร บริษัทได้สนับสนุนภาพจากกล้อง CCTV จำนวน 26 กล้องบนทางยกระดับ แสดงผลที่ศูนย์ฯ ได้เรียบร้อย และพร้อมเดินหน้าโครงการต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามแผนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนต่อไป” ดร.ศักดิ์ดา กล่าว

*****

- Advertisement -