สรุปภาวะตลาด
วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่องถึง +14 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ จากการคลายความกังวลทางด้านเงินเฟ้อ รวมถึงการที่เซี่ยงไฮ้ประกาศยุติมาตรการล็อกดาวน์วันที่ 1 มิ.ย. โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้น และTFEX ต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,653.61 จุด +14.86 จุด +0.91% มูลค่าการซื้อขาย 66,000 ลบ.ต่างชาติ +3,673 ลบ. TFEX +22,435 สัญญา ตราสารหนี้ +1,438.89 ลบ.
ปัจจัยบวก+
+/- ตลาดหุ้น ตลาดน้ำมัน ตลาดทองคํา และตลาดเงินของสหรัฐปิดทำการวานนี้ (30 พ.ค.) เนื่องในวัน Memorial Day
+ นครเซี่ยงไฮ้งเป็นศูนย์กลางการเงินของจีนประกาศ มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
+ ฮ่องกงเตรียมผ่อนปรนข้อบังคับการตรวจหาโควิด-19 สําหรับผู้โดยสารที่เดินทางเข้าเมือง ขณะที่รัฐบาลเริ่มต้น (SWIFT) ผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการจํากัดการเดินทางบางส่วน
+ ครม.รับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ วันที่ 31 มี.ค.65 โดยอยู่ที่ 9.9 ล้านล้านบาท หรือ 60.58% ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบที่กำหนดไม่เกิน 70% ขณะที่มูลค่า GDP ปัจจุบันอยู่ที่ 16.4 ล้านลบ.
+ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC) ประเมินทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยปี 65 เริ่มกลับมาฟื้นตัวหลังชะลอตัวต่อเนื่องจากโควิด-19 ระบาด โดยตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบยังคงเป็นกลุ่มที่นำตลาด ขณะที่ตลาด คอนโดมิเนียมเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว
+ กระทรวงอุตสาหกรรมรายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เม.ย. 65 +0.56YoY ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 4M65 MPI +1.37YoY และอัตราการใช้กําลังการผลิต 64.63% หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศคลื่คลาย
ปัจจัยลบ –
– องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า โรคฝีดาษลิงมีความเสี่ยงต่อระบบสาธารณสุขทั่วโลกระดับปานกลาง หลังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในประเทศที่ปกติไม่ค่อยพบการระบาด
– EU มีมติระงับการน่าเข้านํามันจากรัสเซียในสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 และตัด Sberbank ธนาคารใหญ่ที่สุดของ รัสเซียออกจากระบบธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศ
– กกต. ยังไม่รับรองผลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อร้องเรียน/รับรอง 40 ส.ก.
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 3,955 ราย มีผู้เสียชีวิต 21 ราย รักษาหาย 6,607 ราย
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาด ประกอบกับมีการปรับ น้ำหนัก MSCI มีผลวันนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทรงตัวในระดับสูงช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีในวันนี้ เคลื่อนไหวในกรอบ 1,648-1,660 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- MSCI ประกาศหุ้นเข้า/ออก มีผลวันที่ 31 พ.ค.
- MSCI Global Standard Index : เข้า JMT ออก STGT
- MSCI Global Small Cap: เข้า ASK BYD DITTO FORTH KEX PSG SABUY STGT STARK VIBHA ออก EASTW JMT
- เปิดประเทศ 1 มิ.ย. : AOT AAV BA BEM ERW CENTEL MINT AWC ASAP
- FTSE ประกาศหุ้นเข้า/ออก มีผลวันที่ 17 มิ.ย.
- FTSE All World Index : เข้า – ออก –
- Micro Cap Index: เข้า BRI CIVIL HENG KTBSTMR PEACE SVT TKC TFM WFX ออก –
- หุ้นส่งออกเดือน เม.ย. ที่ขยายตัวได้ดี : TWPC BRR KSL TU ASIAN KCE PDJ INOX
หุ้นรายงานพิเศษ
SISB – “รายงานกำไร 1Q65 ที่ 63 ลบ. -10%YoY แต่ +138%QoQ”
<Bloomberg Consensus 13.45 บาท>
- รายได้หดตัว 3%YoY สู่ 283 ลบ. แม้ว่าจำนวนนักเรียนจะเพิ่มขึ้น 188 คนจากปลายปี 64 สู่ 2,622 คน แต่รายได้ลดลง เนื่องจากนักเรียนเรียนแบบผสมผสานทั้งที่โรงเรียนและเรียนออนไลน์ ส่งผลให้ค่า กิจกรรมและค่าอาหารปรับตัวลง ด้านอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวที่ระดับ 50% เนื่องจากต้นทุนส่วนใหญ่ เป็นต้นทุนคงที่
- ผู้บริหารตั้งเป้าการเติบโตในอีก 5 ปี นักเรียนเติบโต 4,150 คน จากในปัจจุบันมีนักเรียน 2,622 คน หรือคิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 11.3% ต่อปี โดยได้แรงหนุน จากการเปิดสาขาธนบุรีเฟส 2 ปี 2565 สาขานนทบุรี และสาขาระยอง (เปิดเร็วขึ้นจากปี 2567 เป็น 2566) ปี 2566 โดยคาดว่าจะสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 45-50% และ 20 25% ตามลำดับ
- ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 2Q65 หลังภาครัฐ ประกาศให้นักเรียนกลับเข้าเรียนที่โรงเรียน 100% และจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สามารถชดเชยค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาธนบุรีเฟส 2 ได้ นอกจากนี้ SISB ยังมีแผนเติบโตชัดเจนในปี 2566 เราจึง แนะนํา “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) PTT (Bloomberg consensus 45.60 บาท) เดินหน้าธุรกิจอีวี พร้อมรับ OEM แย้มเจรจาอยู่หลายค่ายรถทั้งจีน ยุโรป และสหรัฐ หวังต่อยอดการเติบโต พร้อมลุยธุรกิจยาครบวงจร เผยไตรมาส 2/2565 ปัจจัยบวกหนุนเพียบทั้งราคาน้ำมัน ราคาก๊าซดีกว่าไตรมาสแรก ขณะที่ดีมานด์ใช้งานฟื้นตัว ประเมินราคาน้ำมันปีนี้ 98-103 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SWC (Bloomberg consensus บาท) ส่งสัญญาณไตรมาส 2/2565 แจ่ม ไฮซีซันเคมีเกษตร หนุนดีมานด์ล้น รุกขยายฐานส่งออกมาเลย์ อินโด และฟิลิปปินส์ ด้านธุรกิจอาหารเล็งคลอดโปรดักต์ใหม่รับเมกะเทรนด์ เร่งดันกลุ่มเครื่องดื่มสู่ประเทศจีนเพิ่ม หวังปั๊มรายได้กลุ่มอาหารโต 100% แย้มแผนทุ่ม 1.5 พันล้านบาท ซื้อกิจการเสริมแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BE8 (Bloomberg consensus 48.56 บาท) ประกาศหลังควบรวมกิจการ X10 ช่วยการสร้างการเติบโต ทั้งยอดขาย, บุคลากร และฐานลูกค้าทันที เพื่อโอกาสรับงานใหญ่ในตลาดพรีเมียม เซอร์วิส ชี้ผลงานไตรมาส 2/2565 โตต่อเนื่องตามภาพรวมของตลาดดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน เตรียมรับรู้รายได้งานในมือปีนี้กว่า 313 ล้านบาท เป้ารายได้ 2,000 ล้านบาท ปี 2567 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) AJA (Bloomberg consensus – บาท) รุกธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเต็มสูบ วางเป้าขึ้นแท่นเป็นเบอร์ 1 ของเมืองไทย รองรับดีมานด์ผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมตั้งเป้ายอดขายไว้ 6,000 คันต่อปี กางแผนธุรกิจรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าอยู่ในช่วงขาขึ้น เล็งบุก 3 กลุ่มเป้าหมาย ผู้ใช้ทั่วไป ไรเดอร์ และวินมอเตอร์ไซค์ (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- 31 พ.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
- 29 มิ.ย. ประชุมกนง. ครั้งที่ 4/65
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 31 พ.ค. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการ เดือนพ.ค.จาก สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน
อียู รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค.
- 2 มิ.ย. การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส หารือปริมาณการผลิต ตลาดคาดว่าโอเปกพลัสจะผลิตตามข้อตกลงเดิม แม้สหรัฐและหลายชาติที่นำเข้าน้ำมันต่างเรียกร้องให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตเพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น
- 14 – 15 มิ.ย. ประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ