สรุปภาวะตลาด

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ราว -4 ถึง -5 จุด ดัชนีย่อตัวหลังจากปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญยังเป็นเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด การทำ QT และราคาน้ำมันที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กดดันต่อสถานการณ์เงินเฟ้อ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,660.01 จุด -3.40 จุด -0.20% มูลค่าการซื้อขาย 70,483 ลบ. ต่างชาติ -1,465.06 ลบ. TFEX +13,948 สัญญา ตราสารหนี้ -2,207.90 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ +0.5% ปิดที่ 115.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับข่าวสหภาพยุโรป (EU) ลงมติระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นครเซี่ยงไฮ้ของจีนยุติ มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน

+ ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.1 ในเดือนพ.ค. สวนทางที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนี 59.2 ในเดือนเม.ย. จะร่วงลงสู่ระดับ 54.5 จากระดับ 55.4 ในเดือนเม.ย. โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งซึ่งส่งผลให้คำสั่งซื้อใหม่ดีดตัวขึ้น

+ ญี่ปุ่นประกาศรับนักเดินทางขาเข้าเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเป็น 20,000 คนต่อวัน และอนุญาตให้นักเดินทางส่วนใหญ่ไม่ต้องทดสอบเชื้อไวรัสโควิด-19 และไม่ต้องกักตัว

+ กกร.แนะรัฐเร่งประกาศโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นให้เร็วที่สุด สร้างความมั่นใจประชาชน ท่องเที่ยว รับอานิสงส์ฟื้นตัวต่อเนื่อง หนุนเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปีนี้โตตามเป้า 2.5-4% จับตาสงคราม-น้ำมัน-เงินเฟ้อ

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 2,560 ราย ATK 4,387 ราย มีผู้เสียชีวิต 34 ราย รักษา หาย 5,605 ราย

ปัจจัยลบ –

– ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 176.89 จุด -0.54% ร่วงลง ติดต่อกันวันที่ 2 และปิดที่ระดับต่ำกว่า 33,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

– ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 57.0 ในเดือนพ.ค.ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 57.5 จากระดับ

– WHO ตั้งเป้าควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง (Monkeypox) ด้วยการยับยั้งการแพร่เชื้อในมนุษย์ให้ได้มากที่สุด พร้อมเตือนว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นในยุโรป และพื้นที่อื่นๆ ในช่วงฤดูร้อนนี้

– สหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 455,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 11.4 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

– สหรัฐรายงานการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค.

– ธปท. เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าพบว่า ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีกทั้งภาวะปัจจุบันและใน ระยะ 3 เดือนข้างหน้าปรับลดลงจากภาวะค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้นซ้ำเติมกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังอ่อนแอ และมาตรการกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐทยอยหมดลง ซึ่งกดดันการฟื้นตัวของธุรกิจค้าปลีก

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยความกังวลที่ว่าเฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เศรษฐกิจ สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยยังคงอยู่ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทรงตัวในระดับสูงช่วยพยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีในวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,650-1,670 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • เปิดประเทศ 1 มิ.ย. : AOT AAV BA BEM ERW CENTEL MINT AWC ASAP
  • FTSE ประกาศหุ้นเข้า/ออก มีผลวันที่ 17 มิ.ย.:
    • FTSE All World Index : เข้า – ออก -,
    • Micro Cap Index: เข้า BRI CIVIL HENG KTBSTMR PEACE SVT TKC TFM WFX ออก –
  • หุ้นส่งออกเดือน เม.ย. ที่ขยายตัวได้ดี : TWPC BRR KSL TU ASIAN KCE PDJ INOX
  • กม. PDPA มีผลบังคับใช้ : HUMAN SECURE ITEL IIG INSET

หุ้นรายงานพิเศษ

SCM – “มุมมองบวก”

  • รายงานกำไร 1Q65 ที่ 36.3 ลบ. +1.2%YoY -51%QoQ จากช่วงไฮซีซั่นใน 4Q64 %GP ปรับดีขึ้น แม้รายได้หดตัว -5%YoY แต่อัตรากำไรขั้นต้นปรับดีขึ้นมากจาก 72.1% ใน 1Q64 เป็น 77.8% จากสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงในกลุ่มสินค้าเพื่อการเกษตรมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น และอัตรากำไรสุทธิ 12.9% ดีขึ้นจาก 1Q64 ที่ระดับ 12.2% ต้นทุนลดลงจากการปรับกิจกรรมการตลาดสู่รูปแบบออนไลน์ที่ประหยัด คชจ.และเข้าถึงผู้บริโภคได้ดี
  • ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายเติบโตปีน้ี 20% โดยมี key driver จาก 1. เพิ่มฐานสมาชิกเดือนละ 5,000 คนซึ่งคาดจะมีสมาชิก 200,000 คนในช่วงสิ้นปี 2. เพิ่ม %active ในการซื้อสินค้าจาก 13% เป็น 15% โดยมุ่งเป้าที่สินค้าอาหารเสริม และสินค้าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยต้ังเป้าเติบโตจากสินค้ากลุ่มน้ี 50% 3. รับผลิตสินค้าอาหารเสริมสุขภาพแบบ OEM 4. ธุรกิจลีสซิ่ง คาดจะเร่ิมบริการ 3Q65 ต่อยอดจากฐานสมาชิก

ความเห็น: มีมุมมองบวกต่อผลประกอบการปี 65 เนื่องจากรายได้หลักของ SCM อยู่ที่สินค้าอาหารเสริมสุขภาพ โดยมีสัดส่วนในโครงสร้างรายได้ถึง 59% จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น และโอกาสเติบโตในธุรกิจใหม่ ราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E 19.5x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 35x

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 31 พ.ค. – 2 มิ.ย. อภิปรายร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566
  • สัปดาห์ที่ 2 หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัย หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน และอัพเดตสถานการณ์ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวการณ์ซื้อขายหลักทรัพย์
  • 6 มิ.ย. กระทรวงพาณิชย์ แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ
  • 8 มิ.ย. ประชุมกนง. ครั้งที่ 3/65

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 2 มิ.ย. การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส หารือปริมาณการผลิต ตลาดคาดว่าโอเปกพลัสจะผลิตตามข้อตกลงเดิม แม้สหรัฐและหลายชาติที่นำเข้าน้ำมันต่างเรียกร้องให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตเพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น

สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน พ.ค.จาก ADP จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนเม.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศ ด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

  • 3 มิ.ย. อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ค. ยอดค้าปลีกเดือน เม.ย.
  • 14 – 15 มิ.ย. ประชุม FOMC ของธนาคารกลาง สหรัฐ
- Advertisement -