KS Daily View 01.06.2022 >> 1 มิ.ย. จีนคลายล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ ไทยเปิดสถานบันเทิง ผับวันแรก SET วันนี้คาด 1650 -1660 จุด หุ้นแนะนำ BLA, PRM
ต่างประเทศ : ตลาดหุ้นสหรัฐกลับมาเปิดทำการเมื่อวาน ปรับลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นติดต่อกัน 3 วันก่อนหน้า (ดัชนี Dow Jones -0.7%DoD ,S&P-0.6%, Nasdaq -0.63%) โดยไม่มีมีปัจจัยใหม่ที่มีผลต่อตลาดหุ้น ส่วนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะน้ำมันดิบ Brent ที่ปรับขึ้นมาอยู่ในกรอบ 115-120 เหรียญ จากก่อนหน้าแกว่งตัว Sideway 100-110 เหรียญในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แรงหนุนจาก Driving season และ ผู้นำประเทศ EU ลงมติระงับนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียราคาน้ำมันดิบ โดยรวมน้ำมันที่ยังสูงบวกต่อ PTT PTTEP แต่ Sentiment ลบต่อหุ้น Anti Commodity อาทิ (PTG EPG, SCGP, BGRIM,GULF, OR, AAV, BA) แต่อีกฝั่งนึงน้ำมันที่ขึ้น จะทำให้ตลาดจะกลับมาคาดว่าเงินเฟ้อมีโอกาสทรงตัวสูงเป็นแรงหนุนต่อ Bond yields โดยฝั่งสหรัฐ อายุ 2 ปีปรับขึ้นแรงอยู่ที่ 2.57% จากวันก่อนหน้าที่ 2.47%, อายุ 10 ปีขยับขึ้นมา 2.86% ใกล้แตะแนวต้านที่ 3%อีกครั้ง Sentiment บวกต่อหุ้น BLA
ประเด็นที่ตลาดให้น้ำหนักวันนี้ : 1 มิ.ย.วันแรกของเดือน ประเด็นสำคัญที่จะเกิดคือ 1.) จีนคลายล๊อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ อนุญาตให้ห้างสรรพสินค้าและร้านค้ากลับมาเปิดตามปกติ ฯลฯ และเมื่อวานรัฐบาลจีนมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มอีก 33 มาตรการทั้ง ภาคการเงิน การลงทุน และภาคอุตสาหกรรม KS ประเมินหุ้นที่ได้ประโยชน์ (PSL,CBG, HANA, DELTA, SCGP, DOHOME) 2.) ไทยวันนี้จะเริ่มเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ฯลฯ ประเมินจะบวกต่อหุ้นเปิดเมือง อาทิ กลุ่มร้านอาหาร (M,ZEN), กลุ่มค้าปลีก (CPALL), กลุ่มรถไฟฟ้าและทางด่วน (BEM, BTS ,DMT), กลุ่มท่องเที่ยวโรงแรม(AWC, DUSIT,MINT,CENTEL), กลุ่มห้างสรรพสินค้า (CPN), กลุ่มpackaging (BGC), และโรงพยาบาล (BH, BDMS) อย่างไรก็ตามแนะนำระมัดระวัง Sell on fact เนื่องจากราคาหุ้นถูกเก็งกำไรขึ้นมาตอบรับข่าวดีในช่วงก่อนหน้า 3.) วันแรกของการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) จะมีผลต่อรายได้ที่มิใช่ค่าธรรมเนียมของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มการเงิน รวมถึงยอดขายประกันต่างๆ 4.) ประเด็นเรื่อง Fed วันนี้วันแรกที่ Fed จะเริ่ม QT และให้น้ำหนักการให้ถ้อยแถลงของ Fed William และ Fed Bullard (1 ในคณะกรรมการที่ตลาดให้น้ำหนักคำแถลง) หลังจากสัปดาห์ที่แล้วได้แถลงพลิกมุมมองกลับมาส่งสัญญาณ Fed จะลดดอกเบี้ยนโยบายในปี 2566 หรือ 2567 จากเดิมเป็นผู้ที่สัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ยมาตลอด โดยปัจจุบันตลาดเชื่อว่าโอกาสน้อยลงที่ Fed จะเร่งขึ้นดอกเบี้ย 75bps หรือคาดขึ้นไม่เกิน 50bps ต่อรอบ ในการประชุม รอบ มิ.ย.- ก.ค.ส่วนรอบ ก.ย. คาดขึ้นเหลือ 25bps
ในประเทศ : ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับขึ้นมาอยู่ที่ 1666 จุด ใกล้เคียงกับวันสุดท้ายของสิ้นเดือน เม.ย. และนับจาก Low ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.–ปัจจุบัน ปรับขึ้นราว 78 จุด หรือบวกราว 5% KS ประเมิน Upside ในการปรับขึ้นของดัชนีจำกัด หากเทียบจากดัชนีเป้าหมายสิ้นปี 2565 ซึ่งคาดที่ 1650 จุด (ภายใต้สมมติฐาน EPS ที่ 106 บาทและส่วนต่างผลตอบแทนพันธบัตรกับตลาดหุ้น(EYG) ที่ -0.875SD) และแนวต้านทางเทคนิคที่ 1666 จุด โดยรวมยังคงแนะนำตามเดิม คือ ขึ้นมาในรอบนี้แนะนำหุ้นที่มีกำไรให้ทยอย Lock Profit ยังไม่เพิ่มพอร์ตลงทุน โดยเดือน มิ.ย. ประเด็นที่อาจสร้างแรงกดดัน ในปต่างประเทศ คือ สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ฯลฯ ในปรเทศ คือ การเมืองเริ่มมีแรงกดดันในช่วงนี้-2 มิ.ย. การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระที่ 1 ประเด็น พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 กระแสฝ่ายค้านโหวตคว่ำ หากไม่ผ่านคาด Sentiment ลบต่อ SET Index
IDEA การลงทุนอื่น : 1.)9 มิ.ย. 2565 เป็นต้นไป ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ.2565 จะมีผลบังคับใช้ หุ้นที่ได้ประโยชน์หลักคือ RBF, GUNKUL 2.) ความกังวลเศรษฐกิจจะถดถอย (KS ยังคาดสหรัฐ ไทย โอกาสเกิดยังต่ำในปีนี้) แนะนำเน้นหุ้น Defensive อาทิ โรงพยาบาล (BH, BDMS) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GUNKUL)
มุมมองตลาดหุ้น SET วันนี้คาด 1650 -1660 จุด หุ้นแนะนำ BLA, PRM
Top pick :
BLA (ราคาพื้นฐาน 56.0 บาท) แนะนำเก็งกำไร จากปัจจัยหนุน คือ 1.ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจาก Bond yields ที่ดีดขึ้นแรง 2.) BLA คาดจะถูกคัดเข้า SET50 รอบ 2H22 3.)คาดงบงวด 2Q22 จะดีต่อเนื่องจาก Bond yields ที่ทรงตัวสูง และคอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน(CAR) ที่ปรับตัวดีขึ้น,Combined ratio ที่ลดลง
PRM (ราคาพื้นฐาน 7.26 บาท) เรามีการปรับราคาเป้าหมายทางพื้นฐานเป็น 7.26 บาทจาก 7.09 บาท โดยมีมุมมองเชิงบวกหลังการประชุมนักวิเคราะห์ ผู้บริหารคาดว่าจะให้ความสำคัญกับการใช้สินทรัพย์จาก TM ที่ซื้อมาเมื่อปีที่แล้ว และเราประเมินผลประกอบการของ PRM จะแตะจุดต่ำสุดในปี 2564 และคาดว่าจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปี 2565 คาดเติบโต 25%
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันพุธ ติดตาม ตัวเลข Jibun bank Manufacturing PMI ของญี่ปุ่นเดือน พ.ค. คาด 53.2 จุด (-0.6% MoM) ตัวเลข GDP 1Q22 ของออสเตรเลียคาด +0.7%QoQ และ +3% YoY ดัชนี Caixin Manufacturing PMI เดือน พ.ค. คาด 48 จุด (+4.4% MoM) ดัชนี ISM Manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. คาด 54.5 จุด (-1.6% MoM) ตัวเลข JOLTs Job openings ของสหรัฐฯ เดือน เม.ย. คาด 11.4 ล้านตำแหน่ง (-1.3% MoM) และถ้อยแถลงของ Fed William และ Fed Bullard
วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนโดย ADP คาด 3 แสนตำแหน่ง (+21% YoY) ตัวเลข Initial jobless claim ของสหรัฐฯ รายสัปดาห์คาด +2.14 แสนคน (+1.9% WoW) ถ้อยแถลงของ Fed Logan และ Fed Mester ตัวเลขนำ้มันดิบคงคลังของสหรัฐฯรายสัปดาห์ และการประชุมของกลุ่ม OPEC+ คาดคงนโยบายเพิ่มการผลิตเดือนละ 432K bpd ไปถึงสิ้นเดือน ก.ย. เพื่อกลับไปเท่าระดับก่อนเกิดโควิด-19
วันศุกร์ ติดตามตัวเลข Jibun Bank Service PMI เดือน พ.ค. คาด 51.7 จุด (+2% MoM) ตัวเลข S&P Global Services PMI ของยูโรโซน เดือน พ.ค. คาด 56.3 จุด (-2.4% MoM) ตัวเลข Non-farm payroll ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. คาด +3.2 แสนตำแหน่ง (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ +4.28 แสนตำแหน่ง) อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. คาด 3.5% (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 3.6%) ค่าจ้างรายชั่วโมงของสหรัฐฯเดือน พ.ค. คาด +0.4% MoM และ +5.2% YoY ตัวเลข ISM Non-manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. คาด 56.4 จุด (-1.2% MoM) และถ้อยแถลงของ Fed Brainard