Daily Focus: Value and Laggard Play

2022 SET Target: 1770

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index พักตัวลงระยะสั้น ปิดลบ 3.40 จุด หลังรีบาวด์ได้แข็งแกร่งกว่าคาดในช่วงก่อนหน้า  และไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้นเพิ่มเติม สถาบันในประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 587 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิ 1.5 พันลบ. (แต่ยัง Long Index Futures อีก 1.4 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index มีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways Down ในกรอบ 1,650-1,665 จุด ชะลอตัวระยะสั้น หลังจาก Rebound ได้กว่าครึ่งทางของที่ปรับลง รวมถึง Sentiment ลบจากตลาดหุ้นต่างประเทศ ตลาดกลับมากังวลนโยบายการเงินของ FED ที่ยังเดินหน้าตึงตัวขึ้นอีกครั้ง หลังตัวเลข ISM Manufacturing PMI เดือน พ.ค. ขยายตัวดีกว่าคาด ซึ่งอาจสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ โตร้อนแรงเกินไป รวมถึงเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่ธนาคารกลางแคนาดาปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วจาก 1% เป็น 1.5% เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง ส่วนภาพของ SET Index แม่เราประเมินว่าจะแข็งแรงกว่าจากอานิสงส์ของเศรษฐกิจไทยที่เป็นขาขึ้น แต่จาก Valuation ที่ค่อนข้างดึงตัว เราดึงแนะนําทยอยลดพอร์ดบางส่วน บริเวณ 1,680+- จุด หลังจากสะสมไปแล้วบริเวณ 1,600+- จุด และยังคงเน้นลงทุนในหุ้น Value Play ที่มี PER/PBV ไม่สูงเทียบกับช่วงปี 2019 ก่อนมี COVID-19 และยัง Laggard ตลาด

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Value และ Laggard Play ที่แนวโน้มกำไรแข็งแกร่ง 2Q22-2H22

หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : BCP, CK, CPALL, MAJOR, SAWAD

หุ้นเด่นวันนี้ : ILINK

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 12 บาท
  • โมเมนตัมกำาไร 2Q22 คาดเร่งตัวขึ้น Q-Q และดีต่อเนื่องใน 2H22 จากธุรกิจ Distribution และ EPC ที่แข็งแรง รวมถึงกำาไรของ ITEL ที่จะเร่งตัว
  • ระยะสั้นมีแรงหนุนจากการรอผลประมูลเคเบิ้ลใต้น้ำเกาะเต่ามูลค่า 1.7-1.8 พันลบ. เราคาดกําไรปี 2022-2023 +14 CAGR อีกจุดเด่นคือ PER ที่ต่ำเพียง 12 เท่า
  • แนวรับ 8.60 บาท แนวต้าน 9.50//10 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลออกจากภูมิภาค US$400 ล้านหลัง ไหลเข้าหนาแน่นในช่วง 2 วันก่อนหน้า เม็ดเงินไหลออกน่าโดยไต้หวัน US$373 ล้าน สวนอาเซียนยังผสมผสานไหลออกจากไทย US$43 ล้าน แต่ไหลเข้าเวียดนาม US$26 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออก ตลาดกลับมา โฟกัสการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และนโยบายการเงิน FED ที่ตึงตัวขึ้น

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) OPEC+ ประชุมวันนี้และมีข่าวว่าอาจมีการระงับการมีส่วนร่วมของรัสเซียในด้านการผลิต ซึ่งจะเปิดทางให้ซาอุดิอาระเบีย และ UAE และสมาชิกรายอื่นสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากกว่าเดิมเพื่อชดเชยส่วนของรัสเซียที่หายไป เรามองราคาน้ำมันดิบจะยังยืนระดับสูงจากผลของสงคราม Supply ที่ดึงตัวจาก Demand ที่สูงตามการ Reopening ทั่วโลก โดยเฉพาะภาคการบินที่จะเร่งตัวขึ้น ยังชอบกลุ่มโรงกลั่นและปั๊มน้ำมันมากที่สุด ในกลุ่มพลังงาน Top Pick คือ BCP ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 40 บาทและ ESSO ราคา เป้าหมายจาก FSSIA 12.90 บาท

(+) AH ผู้บริหารให้ข้อมูลเชิงบวกและคงเป้ารายได้ปีนี้ +30% Y-Y จากค่าสั่งซื้อที่เร่งตัว ขณะที่ราคาเหล็กเริ่มทรงตัวเป็นสัญญาณดี ส่วนโรงงานที่จีนคาดว่าจะไม่ขาดทุนใน 2Q22 หลังกลับมาเปิดดำเนินงานอีกครั้ง และจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เราคาดกําไร 2Q22 จะเติบโต Y-Y ตามอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ฟื้นตัว เราคาดกําไรปีนี้ +40% Y-Y ปัจจุบันเทรด PER เพียง 8 เท่า ราคาเป้าหมาย 28 บาท แนะนำ “ซื้อ” เป็น Top Pick กลุ่มยานยนต์ (Source: FSSIA)

(+) SFLEX กำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1Q22 แต่ยังไม่รีบฟื้นใน 2Q22 เพราะมีรายจ่ายจากการย้ายโรงงานอีกเล็กน้อย กำไรน่าจะฟื้นชัดเจนตั้งแต่ 3Q22 เพราะไม่มีรายจ่ายพิเศษ ได้ประโยชน์เต็มที่จากการปรับราคาขาย กำาลังการผลิตใหม่เข้ามา และน่าจะปิดดีลเวียดนามได้ เราปรับกำไรปี 2022 ขึ้น 7% โดยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นหลังบริษัทปรับขึ้นราคาขายได้ ปรับราคาเป้าหมายกลางปี 2023 ขึ้นเป็น 4.80 บาทจาก 4.60 บาท ยังไม่รวมส่วนแบ่งกำไรจากเวียดนาม เพราะอยู่ระหว่างเจรจาราคาและสัดส่วนการลงทุน คาดเห็นความชัดเจนใน 3Q22 แนะนำ “ซื้อลงทุน”

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 176.89 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 32,813.23 จุด จากความกังวลว่าเฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยหลังจากหดตัวลง 1.4% ใน 1Q22

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ หลังเยอรมนีเปิดเผยยอดค้าปลีกอ่อนแอกว่าคาดลดลง 5.4% ในเดือนเม.ย. และภาคการผลิตในยูโรโซนชะลอลงเดือนพ.ค.

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง ตามตลาดดาวโจนส์ ท่ามกลางความกังวลเฟด เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ติดตามออสเตรเลียรายงานยอดนำเข้ายอดส่งออก และดุลการค้าเดือนเม.ย.ในเช้านี้

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าลง อยู่ที่บริเวณ 34.36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 115.26 ดอลลาร์/บาร์เรล จากข่าวสหภาพยุโรป (EU) ลงมติระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ขณะที่ติดตาม EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐใน วันนี้

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,848.7 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,067.12 / -1.16

- Advertisement -