บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
AAPICO Hitech (AH) 1Q65 ทําสถิติ แนวโน้มเติบโตดี
Company Update
1Q65 ทำสถิติ แนวโน้มเติบโตดี หุ้นมีมูลค่าถูก แนะนำซื้อ
แนวโน้มปี 2565 ผู้บริหารตั้งเป้าหมายจะเติบโตสูง 30% แรงหนุนจากอุตสาหกรรมรถยนต์ที่จะเติบโต รวมถึงได้รับคำสั่งซื้อใหม่ ซึ่งเป็น Global Model ดีกว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ยอดผลิตรถยนต์ในปีนี้ 1.8 ล้านคัน เติบโต 7% ประมาณการของเราค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ประเมินยอดขาย 23,045 ล้านบาท โต 12.8% และมีกำไรสุทธิ 1,130 ล้านบาท โต 10% ส่วนกำไรปกติโต 43% ราคาหุ้นปัจจุบันมี Valuation ที่ถูก ซื้อขาย P/E ปี 2565 ที่ต่ำ 7.5 เท่า P/BV 0.9 เท่า และผลตอบแทน 4.4% ประเมินราคาเป้าหมาย 28 บาท บนค่า Forward P/E ปี 2565 เท่ากับ 8.8 เท่า โดยให้ส่วนลดจากค่าเฉลี่ย Forward P/E 10 ปี ซึ่งเท่ากับ 9.9 เท่า เนื่องจากกำไรในอดีตมีความผันผวนสูง คงแนะนำ ซื้อ
ผลประกอบการ 1Q65 ทำสถิติสูงสุดใหม่
AH รายงานกำไรปกติที่เติบโตสูง 406 ล้านบาท (+172%QoQ, +32%YoY) ทำสถิติสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนสำคัญจากยอดขายที่เติบโตสูงเท่ากับ 6,730 ล้านบาท (+ 17%QoQ, +20%YoY) ทำสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจากได้รับคำสั่งซื้อใหม่เพิ่ม และธุรกิจจำหน่ายรถยนต์มีการเปิดโชว์รูมเพิ่ม 2 แห่ง อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ดี 11.1% ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน 10% แต่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน 12.1% จาก AH สามารถปรับราคาตามต้นทุนเหล็กที่ปรับขึ้นได้ดี
ปี 2565 ผู้บริหารตั้งเป้าหมายจะโตสูง 30%
จากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวาน (31 พ.ค.) ผู้บริหารคงเป้าหมายยอดขายในปีนี้จะเติบโตสูง 30% ได้แรงหนุนจาก 1.) การเติบโตของยอดผลิตรถยนต์ 1.8 ล้านคัน โต 6.8% 2.) ได้รับคำสั่งซื้อชิ้นส่วนรถยนต์ใหม่จากค่ายรถยนต์ Ford ซึ่งเป็น Global Model 1,100 ล้านบาทต่อปี ปีนี้จะรับรู้ 700 ล้านบาท 3.) คำสั่งซื้อชิ้นส่วนรถ EV ของ Vinfast เวียดนาม 100 ล้านบาทต่อปี ปีนี้จะรับรู้ 20 ล้านบาท 4.) เปิดโชว์รูมรถยนต์ เพิ่มสองแห่งตั้งแต่ปลายปี 2564 คือ Mazda และ MG ส่วนปลายปี2565 จะเปิดเพิ่มอีก 1 แห่ง คือ GWM
แนวโน้ม 2Q65 จะชะลอตัว คงประมาณการแบบอนุรักษ์นิยมคาดปีนี้จะโต
แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2Q65 จะชะลอตัวลง หลังยอดขาย และกำไรปกติไตรมาส 1Q65 ทำสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจากไทยเป็นช่วงโลซีซั่น มีวันหยุดเทศกาลหลายวัน และโรงงานในจีนได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ เราคงประมาณการแบบอนุรักษ์นิยม และต่ำกว่าประมาณการของผู้บริหาร ประเมินยอดขายเท่ากับ 23,045 ล้านบาท เติบโต 12.8% และคาดจะมีกำไรสุทธิ 1,130 ล้านบาท เติบโต 10% ถ้าไม่รวมกำไรอัตราแลกเปลี่ยนในปีก่อนจะมีกำไรปกติที่โตถึง 43%