บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) 16.1%
Close Jun 1, 2022 Price (THB) 11.20
12M Target (THB) 13.00
Previous Target (THB) 13.00
What’s new?
- คาด Presale ช่วง เม.ย.-พ.ค. 2565 ที่ 7.2 พันลบ. ทรงตัว YoY จากการเปิดตัวโครงการใหม่ใน 2Q65 ส่วนใหญ่จะกระจุกอยู่ในเดือน มิ.ย. 2565 ส่งผลให้คาด Presale เดือน มิ.ย. 2565 จะฟื้นตัวโดดเด่น
- เราคาดกำไรใน 2Q65 เบื้องต้นที่ 1.1-1.3 พันลบ. ลดลง 36% ถึง 25% QoQ จากฐานที่เป็นจุดสูงสุดรายไตรมาสใน 1Q65 ขณะที่ YoY คาดทรงตัวถึงเติบโต 17%
Our view
- คาดกำไรใน 2Q65 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี และคาดฟื้นตัวเด่นใน 3Q65 หนุนจากการเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ที่หนาแน่น และการโอนโครงการแนวสูง JV สร้างเสร็จใหม่ 2 โครงการ
- เราคาดว่าบริษัทจะสามารถบรรลุเป้า Presale ทั้งปีที่ 5.0 หมื่นลบ.ได้ จาก Presale ใน 1Q65 ที่คิดเป็น 25.9% ของเป้าทั้งปีแม้เป็นไตรมาสที่มีการเปิดโครงการใหม่น้อยที่สุดของปี
- คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 13.00 บาท/หุ้น
AP (THAILAND) Presale QTD ทรงตัว YoY คาด มิ.ย. ฟื้นเด่น
คาด Presale เม.ย.-พ.ค. 2565 ทรงตัว YoY
เราคาด Presale เดือน เม.ย.-พ.ค. 2565 ที่ 7.2 พันลบ. (flat YoY) แบ่งเป็นแนวราบ 5.7 พันลบ. และแนวสูง 1.5 พันลบ. อย่างไรก็ตาม Presale QTD คิดเป็นยอดเฉลี่ยต่อเดือนที่ 3.6 พันลบ. เพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบกับเฉลี่ยใน 2Q64 นอกจากนี้ เราคาด Presale ในเดือนมิ.ย. จะฟื้นตัวโดดเด่นจากแผนเปิดตัวโครงการมูลค่า 1.5 หมื่นลบ. แบ่งเป็นแนวราบ 9.0 พันลบ. และแนวสูง 5.6 พันลบ.ได้แก่ Aspire Ratchayothin (1.4 พันลบ.) และ Aspire Sukhumvit Rama4 (4.2 พันลบ.) เทียบกับเดือนเม.ย. ที่เปิดโครงการแนวราบไป 2 โครงการ มูลค่า 1.6 พันลบ. (Take up rate 20-30%) และเดือน พ.ค. ที่ไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่
ทั้งนี้ หากบริษัทเปิดโครงการทั้งหมดได้ตามแผน เราคาดว่า Presale 2Q65 จะไม่น้อยกว่า 1.2 หมื่นลบ. (หรือเติบโตมากกว่า 21.8% YoY) ด้านแนวโน้ม Presale ในช่วง 2H65 คาดเติบโตทั้ง HoH และ YoY หนุนจากแผนเปิดโครงการใหม่ใน 2H65 ที่หนาแน่น (67.3% ของแผนทั้งปี) รวมทั้งสิ้น 44 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 42 โครงการ 4.6 หมื่นลบ. และแนวสูง 2 โครงการ 6.2 พันลบ. ทำให้โดยรวมแล้วทั้งปี 2565 บริษัทตั้งเป้าเปิดตัวโครงการใหม่รวม 65 โครงการ มูลค่า 7.8 หมื่นลบ. (เติบโต 246.1% YoY และเป็นจุดสูงสุดใหม่) นอกจากนี้ เราคาดว่าบริษัทจะสามารถบรรลุเป้า Presale ทั้งปีที่ 5.0 หมื่นลบ. (+42.7% YoY) ได้ เนื่องจาก Presale 1Q65 อยู่ที่ 1.3 หมื่นลบ. คิดเป็น 25.9% ของเป้าทั้งปี แม้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ไปเพียง 11.8% ของแผน
คาดกำไร 2Q65 เป็นจุดต่ำสุดของปี
เราคาดกำไรปกติใน 2Q65 เบื้องต้นที่ 1.1-1.3 พันลบ. ลดลง 36.4% ถึง 24.9% QoQ จากฐาน 1Q65 ที่เป็น จุดสูงสุดรายไตรมาส (จากทั้งยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์แนวราบที่ทำจุดสูงสุดรายไตรมาสเช่นเดียวกัน) ประกอบกับใน 2Q65 ไม่มีโครงการแนวสูงสร้างเสร็จเริ่มโอนเทียบกับ 1Q65 ที่เริ่มโอน Aspire Erawan Prime (3.2 พันลบ.) อย่างไรก็ตาม เราคาดกำไรปกติใน 2Q65 ทรงตัวถึงเติบโตได้ 16.6% YoY หนุนจาก Backlog แนวราบ ณ สิ้น 1Q65 สูงถึง 1.2 หมื่นลบ. (เพิ่มขึ้น 66.5% เมื่อเทียบกับสิ้น 1Q64 ที่ 7.5 พันลบ.)
สำหรับแนวโน้มกำไรในช่วงที่เหลือของปี เราคาดกำไรใน 2Q65 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี และคาดเห็นการฟื้นตัวเด่น QoQ ใน 3065 จาก 1) แผนเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ใน 3Q65 มูลค่าสูงถึง 2.6 หมื่นลบ. (+142.1% QoQ, +267.0% YoY) คาดมีบางส่วนที่สามารถโอนได้ภายในไตรมาส และ 2) บริษัทมีโครงการแนวสูงสร้างเสร็จ 2 โครงการเริ่มโอนในไตรมาสดังกล่าว ได้แก่ JV-Life Sathorn Sierra (6.3 พันลบ. Sold 53%) และ JV-Rhythm Ekkamai Estate (3.2 พันลบ. Sold 30%)
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 13.00 บาท/หุ้น
คงประมาณการปี 2565/66 ที่ 5.0 พันลบ. (+11.1% YoY) และ 5.4 พันลบ. (+6.7% YoY) ตามลำดับ คาด ทำจุดสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่องทั้งปีนี้และปีหน้า คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 13.00 บาท/หุ้น (อิง PER2565 ที่ 8.1x เทียบเท่า +1.0 SD จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีของบริษัท)
นอกจากนี้ บริษัทมี Backlog คอนโด (ทั้ง AP และ JV) ณ สิ้น เม.ย. 2565 ที่ 1.7 หมื่นลบ. คาดรับรู้รายได้ ในปี 2565 ที่ 7.7 พันลบ. คิดเป็น Secured condo transfer ที่ 88.2% และ 95.1% เมื่อเทียบกับเป้าบริษัท 1.2 หมื่นลบ. และประมาณการของเราที่ 1.1 หมื่นลบ. ตามลำดับ สะท้อนถึงประมาณการยอดโอนกรรมสิทธิ์แนวสูงและส่วนแบ่งกำไรในปี 2565 มีความไม่แน่นอนค่อนข้างต่ำ