ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ปรับลงแต่ไม่แรง น่าจะยังแข็งกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศ

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์ปรับลง แต่ไม่น่าลงแรง… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยบวกสวนทิศทางตลาดหุ้นเอเชีย ตามแรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นธนาคารใหญ่ หลังจาก กนง. ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าเดิม + มองเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่ฟันด์โฟลว์พลิกมาเป็นฝั่งซื้อสุทธิ… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยต่อตลาดหุ้นเป็นลบ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงค่อนข้างแรง หลังจากตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 2.29 แสนคน (สูงกว่าที่ consensus คาด) ขณะที่การสำรวจของ CNBC ล่าสุดที่สอบถามผู้บริหารด้านการเงินของ บ.ในสหรัฐฯ พบว่า 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าช่วงถดถอยในครึ่งแรกของปี 2566 ii) ผลประชุม ธ. กลางยุโรป (ECB) คงดอกเบี้ยนโยบายแต่ส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. และได้ประกาศยุติมาตรการซื้อพันธบัตรทั้งหมด ณ สิ้นเดือน มิ.ย. นี้ นอกจากนี้ ECB ปรับลดคาดการณ์ GDP ยูโรโซนปี 2565 จาก 3.7% เป็น 2.8% และปรับเพิ่มเงินเฟ้อปี 2565 จาก 5.1% เป็น 6.8%… สำหรับคืนวันนี้ สหรัฐฯ จะรายงานตัวเลขสำคัญ ได้แก่ เงินเฟ้อผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค. ซึ่ง consensus คาดว่า headline และ Core CPI จะเพิ่มขึ้น 8.3% YoY และ 5.9% YoY ตามลำดับ ซึ่งหากตัวเลขออกมาตามคาด จะช่วยยืนยันว่าเงินเฟ้อสหรัฐฯ ผ่านจุดสูงสุดแล้ว….. ด้านปัจจัยภายในประเทศ เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทรงตัวในระดับต่ำที่ 2,836 ราย เสียชีวิต 24 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 3,518 ราย… สำหรับสัปดาห์หน้า ปัจจัยสำคัญต่อตลาดน่าจะเป็นผลประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ ที่จะออกมาในคืนวันที่ 15 มิ.ย.

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

สะสม BBL* / เก็งกำไร SHR, IP

  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 155 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 133 บาท และ 131 บาท ตามลำดับ / วานนี้ราคาหุ้นปรับขึ้นทดสอบแนวต้านที่เราประเมินไว้ 135 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ไปได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/-140 บาท (Trailing stop130 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวดีกว่าคาด จากการเตรียมเปิดประเทศ ส่งผลให้ที่ประชุม กนง. ส่งสัญญาณการเตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วง 2H65 เป็นประเด็นบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ทั้งในมุมด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ (คาดสินเชื่อกลับมาโต + NPL แนวโน้มชะลอ) และด้านอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น 3) Valuation ไม่แพง PBV 0.52 เท่า คาด Dividend yield ปี 2565 – 66 เท่ากับ 2.8% – 3.6% ตามลำาดับ
  • SHR (เป้าพื้นฐาน 6.0 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.54 บาท / แนวต้าน 4.8-5.0 บาท (Stop loss 4.4 บาท) 2) ประเมินผลการดำเนินงาน 2Q65 จะฟื้นตัวได้เด่นที่สุดในกลุ่มโรงแรม จากการที่มีโรงแรมในยุโรปและมัลดีฟส์ (High season) และในไทย (รับการเปิดประเทศ) โดยอัตราการเข้าพักใน 2Q65 เริ่มฟื้นตัวแรง QoQ 3) Valuation ไม่แพง PBV 1.07 เท่า ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯคาดปีนี้ EBITDA ฟื้นตัวบวกแรง +1,800 ล้านบาท (จาก +500 ล้านบาทในปีก่อน)
  • IP (เป้า Consensus 26.6 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 20.7 บาท / แนวต้าน 21.5-22.0 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 22.6 บาท (Stop loss 20.0 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มประมาณการฯปี 2566 มี Upside จากความร่วมมือกับทางพันธมิตร บ. อินโนบิก (กลุ่ม PTT) ที่จะเข้ามาถือหุ้นเพิ่มทุน 20% (ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติฯ 20 ก.ค. นี้) โดยสรุปคาด IP จะได้ประโยชน์ i) การใช้กำลังการผลิตโรงงานผลิตยาและอาหารเสริมของทาง IP ii) เพิ่มช่องทางจำหน่ายยาและอาหารเสริมในเครือข่ายกลุ่ม PTT* ทั้งในและต่างประเทศ (ปั๊ม OR* และคาเฟ่ อเมซอน) เป็นต้น โดยปัจจุบัน Consensus คาด EPS (รวมผลของ Dilution effect) ปี 2565 – 66 โต 64% YoY และ 34% YoY ตามลำดับ คิดเป็นการเติบโต +48% CAGR (2564-66) 3) Valuation ไม่แพง Forward PE ปีนี้ +/-36 เท่า และจะลดลงเหลือ +/-27 เท่าในปีหน้า

หุ้นมีข่าว

(+) ออมสิน ลุยปล่อยกู้ที่ดิน ตั้งเป้าปีแรก 2 หมื่นล้าน (กรุงเทพธุรกิจ) ออมสินตั้งบริษัทร่วมทุน TIPH – BCP ตั้งบริษัทมีที่มีเงิน รุกปล่อยสินเชื่อที่ดิน ขายฝาก หวังช่วยเหลือเอสเอ็มอี ประชาชนเข้าถึงสภาพคล่อง คาดคิดดอกเบี้ย ต่ำกว่าตลาดที่ 7-9% ต่ำกว่าตลาดที่ปล่อยกู้ 15-30% เริ่มปล่อยกู้ต.ค.นี้ หวังปีแรกปล่อยกู้แตะ 2 หมื่นล้าน

(- โรงกลั่น) “สุพัฒนพงษ์” จี้หาทางลดค่ากลั่นน้ำมัน (ไทยรัฐ) โรงกลั่นครวญขอความเป็นธรรมไม่ได้กำไรพุ่งปรี๊ดอย่างที่เห็น พลังงานทุกหน่วยงานหาทางลดราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น ชี้ต้องรอบคอบหวั่นผิดกฎการค้าเสรี ด้านกลุ่มโรงกลั่นแจงค่าการกลั่นไม่สะท้อนกำไรที่แท้จริง ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไม่ได้มีกำไรสูง

(+) CPN* จัดงบลงทุน 1 หมื่นล. ยึดหัวเมืองขยายโรงแรม (ทันหุ้น) CPN* จัดงบลงทุน 5 ปี (2565-2569) ที่ 10,000 ล้านบาท วางหมากขยายลงทุนธุรกิจกลุ่มโรงแรม 37 โครงการ ใน 27 จังหวัด รวมกว่า 4,000 ห้อง นำร่อง 10 โครงการ ใน 2 ปีแรก เจาะจังหวัดหัวเมืองใหญ่ต่อยอด ผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่ง

(+) BTS* เปิดครบ 60 สถานี ผู้โดยสารชน 9 แสนคน (ทันหุ้น) BTS* มั่นใจรายได้ปี 2565/2566 โตทุก กลุ่มธุรกิจ คาดปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันแตะ 9 แสนคนต่อวัน หลังเปิดให้บริการครบ 60 สถานี พร้อมทุ่มงบลงทุน 700 ล้านบาทต่อยอดธุรกิจโฆษณา ปัญหาสัญญาสัมปทานสายสีเขียวไม่กระทบรายได้

(+) EPG* เล็งซื้อกิจการ 2-3 ดีล ตั้งเป้า 5 ปีรายได้ 2 หมื่นล. (กรุงเทพธุรกิจ) รักษากรอสมาร์จิน งวดปีนี้ 29-32% “อีพีจี” เผย ศึกษาซื้อกิจการ 2-3 ดีล เน้นธุรกิจดำเนินงานแล้ว ตั้งเป้ารายได้งวดปี 65/66 แตะ 1.35 หมื่นล้าน โต 12-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.18 พันล้าน มีกรอสมาร์จินเหตุทุกธุรกิจเติบโตคาด ภายใน 5 ปี แตะ 2 หมื่นล้าน

(+) DITTO ผนึกกำลัง TEAMG ลุ้นรับบิ๊กโปรเจกต์ร่วมกัน (ข่าวหุ้น) DITTO เซ็น MOU กับ TEAMG ผนึก กำลังเดินหน้าดำเนินธุรกิจด้านวิศวกรรม สิ่งแวดล้อม และนวัตกรรม DITTO เล็งเข้าประมูลงานใหม่มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท คาดมีโอกาสได้งานโครงการใหญ่ร่วมกับ TEAMG อย่างน้อย 1-2 โครงการ นอกจากนี้เล็งร่วมลงทุนลุยธุรกิจสร้างรายได้ประจำในอนาคตเพิ่มขึ้น

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • CPF* (เป้าพื้นฐาน 30.5 บาท) แนวรับ 26.0 บาท / แนวต้าน 27.0-27.5 บาท (Trailing stop 25.5 บาท)
  • BEC* (เป้าพื้นฐาน 18 บาท) แนวรับ 15.7 บาท / แนวต้าน 16.0-16.5 บาท (Trailing stop 15.5 บาท)
  • IVL* (เป้าพื้นฐาน 59 บาท) แนวรับ 50 บาท / แนวต้าน 52-54.5 บาท (Trailing stop 49.0 บาท)
  • OTO (เป้าพื้นฐาน 16.2 บาท) แนวรับ 12.4 บาท / แนวต้าน 13.0-13.3 บาท (Stop loss 12.4 บาท)
  • UBE (เป้าพื้นฐาน 2.9 บาท) แนวรับ 2.02 บาท / แนวต้าน 2.12-2.2 บาท (Stop loss 1.98 บาท)
  • LEO (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) แนวรับ 12.5 บาท / แนวต้าน 13.0-13.4 บาท (Stop loss 12.5 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 28.5 บาท / แนวต้าน 30.0-31.5 บาท (Stop loss 27.5 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • กลุ่ม Non-Bank น้ำหนักลงทุน “เท่ากับตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯ มีมุมมองที่ดีขึ้นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศ โดยฝ่ายวิจัยฯปรับคำแนะนำลงทุนในหุ้น MTC* ขึ้นเป็น “ซื้อ” (เดิม “ขาย”) และยังคงมุมมองบวกต่อ KTC* ตามเดิม อย่างไรก็ดี สำหรับ SAWAD* คาดการปรับโครงสร้างองค์กรยังต้องใช้เวลา (วันนี้ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์หุ้น SAWAD* ยังคงแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 66 บาท จากเดิม 76.5 บาท) ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯ กังวลต่อคุณภาพสินทรัพย์ของ SINGER* และ TIDLOR* เลือก MTC* และ KTC* เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มฯ
- Advertisement -