บล.พาย:
OISHI บมจ.โออิชิ กรุ๊ป “เบอร์หนึ่งเรื่องชาเขียว”
เราปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ที่ราคาพื้นฐาน 54.25 บาท (20XPER’22E) ด้วยจุดเด่นที่เป็นผู้นำในกลุ่มเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่ม ที่มีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 48% ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตได้ต่อเนื่อง จากความต้องการสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ส่วนธุรกิจร้านอาหารได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของการเปิดประเทศ แม้จะมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแต่สามารถปรับราคาได้ โดยเราคาดกำไรทั้งปีเติบโต 87%YoY มาอยู่ที่ 1,021 ลบ.
ออกสินค้าใหม่ + เดินหน้าเปิดร้านรับการเปิดประเทศ
- แนวโน้มธุรกิจของ OISHI ในช่วง FY2H22 แบ่งเป็นกลุ่มเครื่องดื่มจะมีการออกสินค้ากลุ่มน้ำตาล 0% ได้แก่ Oishi Honey lemon ในเดือน เม.ย. และการขายสินค้าทำโปรโมชั่นร่วมกับธุรกิจอาหาร ขณะที่ตลาดต่างประเทศได้รับผลดีจากการเปิดประเทศทั้งที่กัมพูชาและที่ลาว ซึ่ง OISHI มีการทำรายการส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เครื่องดื่มในกลุ่มชาเขียวพร้อมดื่มมีมูลค่าการตลาดในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ขยายตัวกว่า 12%YoY จากการเป็นเครื่องดื่มที่มีภาพลักษณ์เพื่อสุขภาพ ทำให้ยังคงได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
- ส่วนธุรกิจร้านอาหารมีแผนเปิดสาขาเพิ่ม เพื่อรองรับการกลับมาของลูกค้า หลังภาครัฐมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด โดยล่าสุดมีการเปิดสาขารูปแบบใหม่อีก 1 แบรนด์ ได้แก่ Shabu by Oishi หลังจากเปิด OISHI Biztoro ไปแล้วในช่วง FY1Q22 (ปัจจุบันมี 4 สาขา) โดยสาขารูปแบบใหม่มีต้นทุนต่อสาขาที่ต่ำกว่าสาขาปกติมาก รวมแล้วในช่วง FY1H22 มีการเปิดสาขาแล้วทั้งสิ้น 10 สาขา (แต่ปีด 4 สาขา) นอกจากนี้ยังมีการปรับร้านให้รองรับกับความต้องการลูกค้าในกลุ่มซื้อกลับ และบริการส่งถึงบ้านเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีร้านที่มีรูปแบบ Cloud Kitchen จำนวน 143 ร้าน จากสิ้นเดือน ก.ย. 21 ที่มี 88 สาขา
- ด้านผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบอาหารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทาง OISHI เองมีการปรับราคาแล้วตั้งแต่เดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มบุฟเฟ่หรือกลุ่ม Packaged food อย่างเกี๊ยวซ่า เป็นต้น โดยเฉลี่ยประมาณ 5-10%
ปรับกำไรขี้นเล็กน้อย พร้อมเพิ่มคําแนะนำเป็น “ซื้อ”
- เราปรับกำไรสุทธิ FY22 ขึ้น 9% มาอยู่ที่ 1,021 ลบ. (+87%YoY) หลังผลประกอบการช่วง FY1H22 มีกำไรสูงถึง 660 ลบ. และด้วยผลประกอบการที่เติบโต เราจึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” จากเดิม “ถือ”
FY2Q22 มีกำไรสุทธิ 265 ลบ. (+89%YoY, -32%QoQ)
- OISHI มีกำไรสุทธิงวด FY2Q22 (ม.ค.-มี.ค. 22) จำนวน 265 ลบ. (+89%YoY, -32%QoQ) โดยการเติบโตจากปีก่อนเกิดจากธุรกิจเครื่องดื่มที่มีกำไรเพิ่มขึ้น ขณะที่ธุรกิจอาหารมีผลขาดทุนที่ลดลง
- รายได้อยู่ที่ 3,011 ลบ. (+27%YoY, +1%QoQ) แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 1,749 ลบ. (+24%YoY, +3%QoQ) ได้รับผลดีจากตลาดชาเขียวโดยรวมที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการส่งออกที่ขยายตัวหลังลาวและกัมพูชามีการเปิดประเทศ ส่วนธุรกิจอาหารมีรายได้อยู่ที่ 1,262 ลบ. (+32%YoY, -2%QoQ) การเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกิดจากมาตรการผ่อนคลายโควิดของภาครัฐฯ ทำให้ยอดขายต่อสาขาเดิม (Same Store Sale Growth) เพิ่มขึ้นถึง 26.1% รวมถึงการเปิดสาขาใหม่ที่ยังมีอีก 5 สาขา (ปิดไป 2 สาขา) ทำให้มีสาขารวมที่ 261 สาขา
- กำไรขั้นต้นรวมที่ 32.3% ดีขึ้นจาก 31.6% ใน FY2Q22 เพราะธุรกิจเครื่องดื่มมีกำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นหลังยอดขายเพิ่ม และธุรกิจอาหารมีผลขาดทุนลดลง แต่ลดลงจาก 34.6% ใน FY1Q22 เพราะธุรกิจอาหารพลิกกลับมาขาดทุน หลังจากได้รับผลกระทบจากต้นทุนอาหารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในส่วนของวัตถุดิบอาหาร และค่าเช่าร้านที่มีส่วนลดที่น้อยลง ขณะที่การปรับราคาทำได้บางส่วนในเดือน มี.ค. เท่านั้น
- ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ 711 ลบ. (+10%YoY, +17%QoQ) เป็นผลจากการใช้ค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นก่อนเข้าช่วงฤดูร้อน
Revenue breakdown
โครงสร้างรายได้ของ OISHI แบ่งได้ 2 ธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจอาหาร ที่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นภายใต้แบรนด์ โออิชิแกรนด์ โออิชิบุฟเฟ่ ชาบูชิ เป็นต้น และกลุ่ม Packaged food อย่างเกี๊ยวซ่า และแซนวิชเป็นต้น 2. ธุรกิจเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ชาเขียวโออิชิ ขณะที่สัดส่วนรายได้จากในประเทศ อยู่ที่ระดับ 89% ส่วนการส่งออกอยู่ที่ 11%