Daily Focus: Value and Defensive Play
2022 SET Target: 1770
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงต่ำสุดบริเวณ 1,590 จุดในระหว่างวัน ก่อนจะมีแรงซื้อกลับหนุนให้ดัชนีฟื้นตัวกลับมาปิดบวกได้เล็กน้อย 2.97 จุด และยังยืนเหนือ 1,600 จุดได้แข็งแรงกว่าที่คาด สถาบันในประเทศยังขายสุทธิในตลาดหุ้นแต่บางลง เหลือ 625 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิบางๆ 97 ลบ. (แต่ยัง Short Index Futures หนาแน่น 1.7 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่งตัว Sideways บริเวณ 1,600+- จุด โดยตลาดรอดูผลการประชุม FED คืนนี้ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามคาดหรือไม่ (ตลาดคาดความน่าจะเป็น 98.6%) เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ยังสูงกว่ากรอบเป้าหมายอยู่มาก และเสี่ยงทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงจับตาถ้อยแถลงของประเทศ FED ต่อความกังวลเงินเฟ้อช่วงที่เหลือของปี และแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยใน 2 การประชุมข้างหน้า เม็ดเงินยังคงไหลออกจากทั้งหุ้น พันธบัตร ทองคำ และถือครองดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Dollar Index แข็งค่าสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2002 อย่างไรก็ตาม สําหรับ SET Index เราเชื่อว่าเผชิญแรงขายกดดันต่ำกว่าจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเร่งตัวตามการเปิดประเทศ ขณะที่เงินเฟ้อยังไม่รุนแรงเท่า และยังกระจุกในหมวดพลังงาน ระยะสั้นมีแนวรับหลักที่ 1,580-1,590+- จุด สําหรับเก็งกำไรลุ้นรีบาวด์สําหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง ส่วนระยะกลาง-ยาวมองระดับที่น่าสนใจในการเข้าสะสมบริเวณ 1,520-1,560 จุด โดยยังเน้นกลุ่ม Value และ Defensive Play ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าบริการจําเป็น รวมถึงกลุ่มท่องเที่ยวที่ได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศระยะยาว
กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Value และ Defensive Play ที่แนวโน้มกำไร 2Q22-2H22 แข็งแกร่ง
หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : BCP, CK, CPALL, MAJOR, SAWAD
หุ้นเด่นวันนี้ : NSL
- แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 21 บาท
- แนวโน้มกำไร 2Q22 คาดยังสดใส และมีลุ้นทำ New High ต่อเนื่อง ฟื้นตัวตาม Traffic เข้า 7-11 ขณะที่ต้นทุนเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้นชดเชยได้จากการปรับขึ้นราคา
- ภาพการเติบโตทั้งปียังสดใสได๋ได้ประโยชน์จาก Economy of Scale จากการใช้กําลังการผลิตที่สูงขึ้น เราคาดกําไรปี 2022 +30% Y-Y ทำจุดสูงสุดใหม่
- แนวรับ 16.70-16.80 บาท แนวต้าน 17.40-17.50//18 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคอีก US$1,094 ล้าน นำโดยไต้หวัน US$835 ล้าน รองลงมาคือเกาหลีใต้ US$214 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน ไหลออกจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ แต่ไหลเข้าไทยและเวียดนามบางๆ แนวโน้มของกระแสเงินทุนวันนี้คาดชะลอการไหลออกรอดูผลการประชุม FED คืนนี้ ซึ่ง ตลาดคาดปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75%
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) จับตาการประชุม FED คืนนี้ ตลาดคาดว่า FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% รวมถึงมีแนวโน้มปรับขึ้นอีก 0.75% และ 0.5% ในการประชุมเดือน ก.ค. และ ก.ย. ตามลำดับ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยนโยบายของ FED ปรับขึ้นเป็น 2.75 3% จะเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤต Subprime และเริ่มมีคาดการณ์ว่าจะไต่ระดับขึ้นต่อเนื่องแตะ 4% ในช่วงกลางปี 2023 ซึ่งให้ติดตามมุมมองคณะกรรมการ FOMC จาก Dot Plot รวมถึงถ้อยแถลงของประธาน FED หากมีมุมมองแสดงความกังวลต่อเงินเฟ้อมาก และส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วต่อเนื่องจะยังเป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยง เรายังเน้นพักเงินในหุ้น Value และ Defensive Play ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า บริการจําเป็น เช่น อาหาร เนื้อสัตว์ การแพทย์ อสังหาฯระดับกลาง-บน
(+) กลุ่มโรงกลั่น เราคาดว่าการที่รัฐบาลขอร้องให้กลุ่มโรงกลั่นลดค่าการกลั่นเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคด้านราคาน้ำมันที่สูง เราเชื่อว่าเป็นไปได้ยากเนื่องจากติดด้านกฎหมายแข่งขันเสรี แต่คาดว่าการขอความช่วยเหลือจะออกมาในรูปแบบของการ Subsidy อย่างสมัครใจลดราคาขายน้ำมันจากกลุ่มโรงกลั่นเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ค. 2008 ที่ซึ่งคาดว่าผลกระทบต่อกำไรจะมีไม่มากเพียง 2-5% เรามองราคาหุ้นที่ปรับลงแรงในช่วงก่อนหน้า สะท้อนความกังวลไปแล้ว เป็นโอกาสในการ “ซื้อ” โดย Top Pick ยังเป็น ESSO (ราคาเป้าหมาย 12.90 บาท) และ BCP (ราคาเป้าหมาย 40 บาท) (Source: FSSIA)
(0) SMT ผู้บริหารปรับลดเป้ารายได้ปี 2022 ลงเป็น 3 พันลบ. จาก 3.3 พันลบ. จากปัญหาวัตถุดิบและ Product Mix แต่ยังสูงกว่าคาดการร์ของเรา ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าราว 2.7 พันลบ. ส่วน Gross Margin ยังคาดตามเดิมที่ 20% แนวโน้มกำไร 2Q22 จะโตทั้ง Q-Q, Y-Y แต่สิ่งที่ต้องระวังคือเตรียมตั้งเครื่องขุด BTC 200 เครื่อง และเริ่มขุดในอีก 1 เดือนข้างหน้า อาจเป็น Downside ต่อประมาณการกำไรปี 2022 ปัจจุบัน ที่ +13% Y-Y ยังคงราคาเป้าหมายที่ 6 บาท ปรับลดค่าแนะนําเป็น “เก็งกำไร” ส่วน Top Pick ยังเป็น KCE (ราคาเป้าหมาย 72 บาท)
(0) คาดการณ์หุ้นเข้าออก SET50-SET100 งวด 2H22 สําหรับ SET50 คาดหุ้นเข้า JMT JMART หุ้นออก RATCH STGT ส่วน SET100 คาดหุ้นเข้า AAV ASK FORTH ONEE PSL TIPH หุ้นออก BPP MAJOR RS SIRI STEC TTA
(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 151.91 จุด หรือ 0.50% ปิดที่ 30,364.83 จุด จากความกังวลว่าหากเฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ท่ามกลางติดตามการแถลงผลการ ประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ ตามเวลาไทย
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ จากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในสหรัฐ และแนวโน้มเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย
(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง กดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐหลังเฟดมีแนวโน้มเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางติดตามจีนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ค.ในเช้านี้ อาทิ การผลิต ภาคอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีก
(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าลง อยู่ที่บริเวณ 35.03 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 2 ดอลลาร์ หรือ 1.65% ปิดที่ 118.93 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลว่าเฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่ติดตาม EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ” ~8 เวลา 21.30 น. ตามเวลาไทย ท่ามกลางนักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา
(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 18.3 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1,813.5 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และเฟดจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,063.93 / -4.93