บล.พาย:

KSL บมจ.นํ้าตาลขอนแก่น “กำไรดี หลังปริมาณขายพุ่ง”

เราคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ที่ราคาพื้นฐาน 4.16 บาท (14.5XPER’23E) จากปัจจัยบวกเรื่องผลประกอบการงวด FY2Q22 ที่ออกมาดีมีกำไรปกติเพิ่มขึ้นถึง 91%YoY ขณะที่แนวโน้มในปี 23 คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตได้ หลังจากมีการคาดหมายถึงปริมาณอ้อยของไทยจะเพิ่มขึ้นกว่า 25% และทำให้ปริมาณขายน้ำตาลของ KSL ปรับตัวเพิ่มไปด้วย เราจึงประเมินว่ากำไรสุทธิยังรักษาระดับที่สูงกว่า 1,000 ลบ. ได้ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

น้ำตาลโลกยังเกินดุลต่อ

ภาพรวมน้ำตาลโลกในฤดูกาลผลิต 22/23 คาดว่าจะยังอยู่ในภาวะเกินดุลอยู่ โดยคาดไว้ที่ 3.87 ล้านตัน (เพิ่มจากประมาณการครั้งก่อนที่คาดไว้ที่ 2.45 ล้านตัน) โดยประเมินว่าผลผลิตจากประเทศผู้ผลิตหลัก ทั้งบราซิล อินเดีย และไทย มีผลผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไทยที่คาดว่าปริมาณน้ำตาลจะเพิ่มถึง 25%YoY มาอยู่ที่ 12.45 ล้านตัน อย่างไรก็ ตามแม้ว่าภาวะน้ำตาลจะเกินดุลแต่ในแง่ของราคาน้ำตาลคาดว่าจะอยู่ในกรอบ 18.5-20.5 Cents/Pound ได้ต่อเนื่อง เพราะมีปัจจัยบวกจากเรื่องราคาน้ำมันที่สูง ทำให้บราซิลอาจหันไปผลิตเอทานอลแทนได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยปัญหาเรื่องเงินเฟ้อทำให้การบริโภคอาจจะลดลงเป็นปัจจัยลบที่อาจจะทำให้ราคาปรับตัวลดลงได้

การขายปีนี้คาดว่าจะได้ถึง 700,000 ตัน

แนวโน้มช่วง FY2H22 คาดว่าปริมาณขายยังใกล้เคียงกับ FY1H22 ที่ระดับ 340,000-350,000 ตัน รวมแล้วปริมาณขายจะสูงถึงระดับ 700,000 ตัน (+46%YoY) ขณะที่ราคาส่งออกคาดว่าจะสูงขึ้นได้เล็กน้อยตามราคาในตลาดโลกปีที่ผ่านมา แต่ธุรกิจไฟฟ้าคาดว่าจะมีปริมาณขายลดลง ซึ่งเป็นผลตามฤดูกาลอยู่แล้ว

ปรับกำไรลง 16% แต่ยังสูงสุดในรอบ 8 ปี

  • แม้กำไรในช่วง FY1H22 จะมีสัดส่วน กว่า 55% ของกำไรทั้งปีที่เราเคยประเมินไว้ แต่ด้วยแนวโน้มในช่วง FY2H ที่ตามปกติจะมีกำไรที่ต่ำกว่าช่วง FY1H เพราะธุรกิจไฟฟ้ามีรายได้และกำไรที่ลดลง ทำให้เรามีการปรับกำไรปี 22 ลงจากเดิม 16% มาอยู่ที่ 1,027 ลบ. (+67%YoY) โดยปรับลดกำไรขั้นต้นลงเหลือ 18% จากเดิม คาดไว้ที่ 19% แต่กำไรดังกล่าวถือเป็นระดับที่สูงสุดในรอบ 8 ปี นับตั้งแต่ปี 14 (นับเฉพาะกำไรปกติ)
  • ส่วนปี 23 เราประเมินว่ารายได้จะเติบโตได้ต่อเนื่องตามปริมาณอ้อยเข้าหีบที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 25%YoY มาที่  8.2 ล้านตันอ้อย และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงทำให้การกำหนดราคาที่ทำในปีนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ด้วย โดยเราคาดรายได้และกำไรสุทธิที่ 17,530 ลบ. (+20%YoY) และกำไรสุทธิที่ 1.265 ลบ. (+23%YoY)

FY2Q22 มีกําไรสุทธิ 265 ลบ. (+89%YoY, -32%QoQ)

  • FY2Q22 (ก.พ.-เม.ย.) มีกำไรสุทธิ 415 ลบ. (+305%YoY, +25%QoQ) ถ้าไม่รวมรายการพิเศษอย่างกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 9 ลบ. และกำไรจากการเปลี่ยนสัดส่วนการถือหุ้นใน BBGI จำนวน 58 ลบ. (อยู่ในรายได้อื่น) จะมีกำไรสุทธิ 347 ลบ. (+91%YoY, +6%QoQ) ได้รับปัจจัยบวกจากธุรกิจน้ำตาลที่ปรับตัวขึ้นตามปริมาณ (+111%YoY,+18%QoQ) และราคาขาย (+6%YoY,+2%QoQ) ส่วนธุรกิจไฟฟ้ามีปริมาณขายเพิ่มขึ้น 12%YoY,+30%QoQ และมีราคาขาย +6%YoY,+3%QoQ
  • รายได้อื่นอยู่ที่ 4,192 ลบ. (+84%YoY,+22%QoQ) กำไรขั้นต้นที่ 16% ลดลงจาก 19% ใน FY2Q21 และ 18% ใน FY1Q22 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากต้นทุนน้ำตาลที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 248 ลบ. (+24%YoY,+3%QoQ )
  • ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 63 ลบ. (-35%YoY, +126%QoQ) รายได้อื่น 86 ลบ. (+261%YoY,+61%QoQ)
  • กำไรสุทธิในช่วง FY1H22 อยู่ที่ 747 ลบ. (+82%YoY) แต่กำไรปกติ 676 ลบ. (+37%YoY)

Revenue breakdown

โครงสร้างรายได้ของ KSL มาจาก 3 ธุรกิจ ได้แก่ 1.น้ำตาล (รวมถึงกากน้ำตาล) 2.การขายไฟฟ้า และ 3 อื่นๆ (เช่น การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์) โดย ธุรกิจน้ำตาลมีการขายทั้งในประเทศและส่งออก

- Advertisement -