บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (maintain)
TP upside (downside) +32.6%
Close Jun 17, 2022 Price (THB) 44.50
12M Target (THB) 59.00
Previous Target (THB) 59.00
What’s new?
- การควบรวมกิจการปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของ กสทช. คาดจะมีความเห็นอย่างเป็นทางการว่าจะอนุญาต หรือไม่อนุญาตควบรวมกิจการภายในวันที่ 10 ก.ค. 65 เราคาดกรณีฐาน (โอกาส 70%) กสทช. จะอนุญาตการควบรวมภายใต้เงื่อนไข
- เราคงราคาเหมาะสมของ DTAC ที่ 59.00 บาทต่อหุ้น อิงโอกาสเกิดดีล 70%
Our view
- Risk-Reward Ratio น่าสนใจแล้ว หาก กสทช. ไม่อนุมัติ เราคาดตลาดจะกลับไปประเมินมูลค่าหุ้น TRUE และ DTAC ในภาวะตลาดมีผู้เล่น 3 ราย ซึ่งมูลค่าเหมาะสมของ DTAC จะอยู่ที่ราว +/ 40.00 บาทต่อหุ้น หรือ Downside ราว 11% แต่หากอนุมัติตลาดจะประเมิน Synergy ของ Merge Co. ในราคาหุ้น หุ้นมีโอกาสปรับขึ้นไปได้เกินราคา Tender Offer เราคาดกรอบเบื้องต้นราว 55.00 บาทต่อหุ้น หรือ Upside Risk ราว 24%
TOTAL ACCESS COMMUNICATION
จับตาโค้งสุดท้ายของการขออนุญาตควบรวมกิจการ คาดกำไรปกติ 2Q65 ทรงตัว QoQ แต่อ่อนแอลง YoY
คาดกำไรปกติ 2Q65 ของ DTAC ที่ 838 ล้านบาท (-1.2% QoQ, -25.5% YoY) กำไรปกติทรงตัว QoQ จากการลดค่าใช้จ่ายเป็นหลัก แต่ลดลง YoY ตามรายได้ที่อ่อนแอ สรุปสาระสำคัญดังนี้ 1) คาด Service revenue ex. IC ที่ 1.37 หมื่นล้านบาท (-1.0% QoQ -3.9% YoY) ภาพรวมการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นอย่างชัดเจน เทียบ QoQ ตลาด Prepaid มีการปรับแพคเกจให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตในการให้บริการเร็วขึ้น ในขณะที่ยังคิดราคาเท่าเดิม เช่น จ่าย 150 บาทจากเดิมได้ความเร็ว 4 mbps ก็ปรับเพิ่มเป็น 8mbps ขณะที่ตลาด Postpaid การแข่งขันรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง นำโดย TRUE เป็นผู้นำในการแข่งขันด้านราคาในไตรมาสนี้ ลดราคาแพ็คเกจ 5G Low-end เหลือ 299 บาทต่อเดือน ในขณะที่ ADVANC และ DTAC ราคาต่ำสุดยังอยู่ที่ 349 บาทต่อเดือน ซึ่งไม่แปลกใจสำหรับเรา เนื่องจากเราเชื่อว่า TRUE จะเร่งการแข่งขันก่อนการควบรวมกิจการเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าการแข่งขันยังรุนแรงในอุตสาหกรรม
บนสถานการณ์ปัจจุบัน เราคาดว่า DTAC มีโอกาสทำได้แค่ขอบล่างของ Guidance หรือรายได้และ EBITDA ทั้งปีทำได้เพียงทรงตัว YoY และมีโอกาสปรับลด Guidance หากการแข่งขันยังรุนแรงต่อเนื่อง 2) คาดยอดขายมือถือได้รับผลกระทบจากการ Lockdown ในจีนทำให้เกิดปัญหาในการจัดหาสินค้า เราคาดยอดขายมือถือยังอ่อนแอ ขณะที่ Device Margin เราคาดยังอ่อนแอเช่นกัน 3) ด้านต้นทุนเราคาด DTAC พยายามควบคุมต้นทุนให้ชดเชยรายได้ที่อ่อนแอ เพื่อรักษาระดับกำไรปกติให้ทรงตัว QoQ เราคาดปันผล 1H65 ที่ 0.71 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Yield ราว 1.6% DTAC จะประกาศงบวันที่ 15 ก.ค. 65
จับตาความเห็นสุดท้ายจาก กสทช. …กรณีฐานเราคาดอนุมัติภายใต้เงื่อนไข
หากกำไรออกมาตามคาด กำไร 1H65 จะคิดเป็น 42% ของประมาณการปี 2565 ที่ 4.0 พันล้านบาท แม้ ประมาณการของเรามีความท้าทายขึ้น แต่ประมาณการระยะสั้นมีผลกระทบน้อยต่อการประเมินมูลค่าที่ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของการควบรวมกิจการแบบ Amalgamation มากกว่า ทำให้เรายังคงประมาณการ เนื่องจากศาลปกครองไม่สั่งคุ้มครองฉุกเฉินการใช้ประกาศ กสทช. ปี 2561 ทำให้การควบควบกิจการเหลือขั้นตอนสุดท้าย คือ การพิจารณาของ กสทช. ว่าจะอนุญาตหรือไม่ คาดจะเกิดขึ้นภายในวันที่ 10 ก.ค. 65 เราคาดกรณีฐาน (โอกาสเกิด 70%) กสทช. จะอนุญาตการควบรวมภายใต้เงื่อนไขการควบคุมราคา เพื่อไม่ให้กระทบผู้บริโภคและมีเงื่อนไขอื่นๆ แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบกับ Synergy ที่เราคาดราว 1-2 หมื่นล้านบาทต่อปีอย่างมีนัยสำคัญ เพราะมาจากการลดต้นทุนระหว่างกันเป็นสำคัญ ไม่ได้ขึ้นกับขารายได้
Risk-Reward Ratio น่าสนใจแล้ว … เชิงกลยุทธ์ถึงเวลากลับเข้าเก็งกำไร
หาก กสทช. ไม่อนุมัติ เราคาดตลาดจะกลับไปประเมินมูลค่าหุ้น TRUE และ DTAC ในภาวะตลาดมีผู้เล่น 3 ราย มูลค่าเหมาะสมของ DTAC จะอยู่ที่ราว +/-40.00 บาทต่อหุ้น ที่ระดับ Bond yield ปัจจุบัน หรือ Downside ราว 11% จากราคากระดาน แต่หาก กสทช. อนุมัติบนเงื่อนไขที่ไม่กระทบกับการลดต้นทุน และคดีฟ้องร้องที่อาจเกิดขึ้นไม่ได้กระทบความคืบหน้าของดีลเป็นเพียงเรื่องระยะยาวในชั้นศาล ในกรณีนี้เราคาดตลาดจะประเมิน Synergy สำหรับ Merge Co. ลงในราคาหุ้น ทำให้หุ้นมีโอกาสปรับขึ้นเกินราคา Tender Offer เราคาดกรอบมูลค่าเบื้องต้น DTAC ราว 55.00 บาทต่อหุ้น จาก Risk-Reward Ratio ที่น่าสนใจ ทำให้เราคาดตลาดจะกลับเข้าเก็งกำไรหุ้น TRUE & DTAC ในช่วงเข้าใกล้วันที่ 10 ก.ค.65
คงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงมูลค่าเหมาะสม 59.00 บาทต่อหุ้น
เราคงราคาเหมาะสมของ DTAC ที่ 59.00 บาทต่อหุ้น อิงความน่าจะเป็นที่จะเกิดดีล 70%
ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) การแข่งขันด้านราคารุนแรงอีกครั้ง 2) ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์กับภาครัฐ และ 3) ดีล การควบรวมกิจการระหว่าง TRUE และ DTAC ไม่ประสบความสำเร็จ