ยังให้ความสำคัญกับการเลือกหุ้นในกลุ่มที่มีแนวโน้มกำไรเชิงบวก

การแถลงของประธานเฟดไม่มีข้อมูลใหม่ การแถลงต่อคณะกรรมการด้านการเงินของวุฒิสภา เจอโรม พาวเวล ยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งมาก และสามารถรับมือกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้ และเฟดจะยังคงมุ่งมั่นในการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดยยังมองถึงความเป็นไปได้ในการชะลอให้ “เศรษฐกิจลดความร้อนแรง โดยที่ไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย” (soft landing) ขณะที่ไม่ได้ปฏิเสธว่าการเกิดเศรษฐกิจถดถอยนั้นมีความเป็นไปได้เช่นกัน ซึ่งภาพรวมไม่ได้มีปัจจัยใหม่ที่สร้างความกังวลเพิ่มเติมให้กับตลาด และทำให้นักลงทุนจะมองไปยังข้อมูลหรือปัจจัยที่ช่วยหรือลดการเกิดเงินเฟ้อ อาทิ 1) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของม.มิชิแกน (24 มิ.ย.) 2) การครบกำหนดของคำสั่งประธานาธิปดี เกี่ยวกับการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน (6 ก.ค.) และ 3) การดำเนินการอื่นๆ เพื่อเพิ่มอุปทานน้ำมันซึ่งจะช่วยควบคุมเงินเฟ้อ // เรามองภาพรวมของตลาดหุ้นในช่วง 1-2 เดือนนี้ โดยรวมอาจผันผวนทางลง แต่หุ้นที่มีโมเมนตัมของผลการดำเนินงานเชิงบวก จะยังมีแนวโน้มจะเคลื่อนไหวได้ดี

กลุ่มที่เก็งกำไรได้ กับกลุ่มที่รอซื้อหลังผลประกอบการไตรมาส 2/65 ภาพรวมการยังทุนยังอยู่กับสามธีมใหญ่ คือ เปิดเมือง ได้ประโยชน์จากบาทอ่อน และการบริโภคในประเทศฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง ซึ่งเรามองหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก 2 ธีมแรก อาทิ ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า อาหาร สามารถลงทุนหรือเก็งกำไรได้จากโมเมนตัมกำไรที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งหุ้นในกลุ่มนี้ ได้แก่ AOT, MINT, CENTEL, ERW, VRANDA, SPA, MAJOR, MBK, CPN, CRC, CPF, GFPT, TU, ASIAN, CFRESH, BBL // สำหรับหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ อาทิ ค้าปลีก การเงิน เช่าซื้อ หลายตัวอาจจะยังมีผลประกอบการระยะสั้นที่อ่อนแอ ทำให้เรามองเพียงทยอยสะสม โดยมีจังหวะเข้าลงทุนที่ดี หลังประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/65 ไปแล้ว อาทิ MAKRO, CPALL, TIDLOR, MTC, SAWAD, KCAR KBANK, SCB // สำหรับหุ้นที่อาจมีปัจจัยเก็งกำไรระยะสั้นที่น่าสนใจ ได้แก่ กลุ่มไฟฟ้าที่ผล ประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้ว BGRIM, GPSC และพลังงานทดแทน อาทิ ACE, BWG, ETC, TPCH

ประเด็นเก็งกำไรอื่น

1) กลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE

2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA

3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR

4) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, GFPT, TFG, TU, KSL, KTIS, KBS, BIS, ASIAN

5) หุ้นประกัน TIPH, BLA, TVI, THREL (แค่เก็งกำไรรับไทยประกันเข้า IPO)

6) หุ้นพลังงาน-ปิโตรที่ไม่กระทบจากการขอความร่วมมือ IVL, OR

7) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA,

ภาพรวมกลยุทธ์: SET ยังมีกรอบการแกว่งตัว 1,540-1,590 จุด เน้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่โมเมนตัมกําไรเป็นบวก (ท่องเที่ยว อาหาร) ทยอยสะสมหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นในช่วงครึ่งหลัง (กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก การเงิน) และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน (DR และ ETF อิงหุ้นจีน)

หุ้นแนะนำ: BABA80*, ETC* SPA*, MAKRO*,

แนวรับ: 1,550 / แนวต้าน : 1,565-1,585 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

ประเด็นการลงทุน

  • สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสินเชื่อซื้อบ้านเพิ่มขึ้น – เพิ่มขึ้น 8% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
  • รัฐควีนแลนด์ปรับขึ้นอัตราภาษี Coal royalty – จากเดิมสูงสุด 15% สำหรับราคาถ่านหินสูงกว่า $150 ต่อตัน เป็น 20% สำหรับราคาสูงกว่า $175 ต่อตัน ถัดมา 30% สำหรับราคาสูงกว่า $225 ต่อตัน และ 40% สำหรับราคาสูงกว่า $300 ต่อตัน มีผลเดือน ก.ค. //UOB Kay Hian Comment – BANPU จะไม่ได้รับผลกระทบ ดังกล่าว เนื่องจากมีการขึ้นภาษีที่รัฐควีนแลนด์ แต่เหมือง CEY ของ BANPU อยู่ที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ อนาคตอาจมีโอกาสที่จะมีการบังคับใช้มายังรัฐอื่นๆ เพิ่มเติม แต่การบังคับใช้ล่าสุดในรัฐควีนแลนด์เป็นถ่านกลุ่ม Coking Coal ที่ใช้ในโรงถลุงเหล็ก ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์จะเป็น Thermal Coal ที่ใช้ในโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นคนละชนิด
  • สภาพัฒน์คาด GDP ไทยปี 66 ขยายตัว 4.3-4.5% – จากในปีนี้ที่คาดว่าจะโตได้ 3% โดยมาจากแรงหนุนการส่งออก และท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 7-10 ล้านคน แต่ยังคงต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงต่างๆ
  • เปิดรับซื้อไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม 100 MW – คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติรับซื้อไฟฟ้าและอัตรารับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) สำหรับปี 65 ปริมาณ 100 เมกะวัตต์ ในอัตรา 6.08 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมอัตรา Fit Premium) สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) และกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ในปี 69
  • หุ้นที่มีโอกาสเข้าเกณฑ์ Cash Balance – ได้แก่ RP และ GLORY

ประเด็นติดตาม: 23 มิ.ย. – US&EU Manufacturing PMI, Services PMI, Russia Debt Payment / 24 มิ.ย. – US New Home Sales, Russia Debt Payment / 27 มิ.ย. – US Core Durable Goods Orders, US Pending Home Sales / 28 มิ.ย. – US CB Consumer Confidence

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

ประเด็นลงทุนสำหรับหุ้นแนะนำ

  • เก็งกำไร SPA* (13.10): ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุด และราคายังฟื้นตัวจากโควิดน้อยกว่ากลุ่มท่องเที่ยวอื่น (79% vd กลุ่มโรงแรมที่ฟื้น 140-230%) ทำให้เป็น laggard play ที่คาดจะฟื้นตัวแรงในรอบนี้ ตัดขาดทุน 7.80 บาท
  • เก็งกำไร MAKRO* (40): ผลการดำเนินงานคาดทยอยฟื้นตัวตามภาคการท่องเที่ยวและเปิดประเทศ ตัดขาดทุน 33.50 บาท
  • เก็งกำไร BABA80* (5.50): หุ้นจีนมีแนวโน้มฟื้นตัว โดยได้รับผลดีจากการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทยอยออกมา ตัดขาดทุน 4.40 บาท
  • เก็งกำไร ETC* (4.40): คาดถูกเก็งกำไรจากประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากขยะฉบับใหม่ของกพช. ตัดขาดทุน 3.74 บาท

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)

Market News & Factors

ตลาดหุ้นสหรัฐ – ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (22 มิ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด) กล่าวยืนยันต่อสภาคองเกรสว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะสกัดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี เขากล่าว ว่าการที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย นอกจากนี้ การร่วงลงอย่าง หนักของหุ้นกลุ่มพลังงานยังเป็นปัจจัยฉุดตลาดเช่นกัน (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นยุโรป – ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 1 ปีในวันพุธ (22 มิ.ย.) เนื่องจากการร่วงลงของราคาน้ำมันและโลหะ ส่งผลกระทบต่อหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่เงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นของอังกฤษทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก (อินโฟเควสท์)

ตลาดหุ้นญี่ปุ่น – ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพลิกปิดลบ ตามตลาดฟิวเจอร์ของสหรัฐที่ปรับตัวลง ประกอบกับนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังดัชนีนิกเกอิปิดตลาดพุ่งแรง (อินโฟเควสท์)

ตลาดน้ำมัน – สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในวันพุธ (22 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย และฉุดดีมานด์น้ำมันชะลอตัวลง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 3.33 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 106.19 ดอลลาร์/บาร์เรล (อินโฟเควสท์)

สหรัฐเผยจํานวนผู้ขอสินเชื่อซื้อบ้านเพิ่มขึ้น – เพิ่มขึ้น 8% ในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ลดลง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (อินโฟเควสท์)

โพลล์รอยเตอร์ฟันธงเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% – ผลการสำรวจพบว่า นักวิเคราะห์ราว 3 ใน 4 ที่ถูกสำรวจ คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการ ประชุมเดือนก.ค. (อินโฟเควสท์)

รัฐควีนแลนด์ปรับขึ้นอัตรา ภาษี Coal royalty – จากเดิมสูงสุด 15% สำหรับราคาถ่านหินสูงกว่า $150 ต่อตัน เป็น 20% สำหรับราคาสูงกว่า $175 ต่อตัน ถัดมา 30% สำหรับราคาสูงกว่า $225 ต่อตัน และ 40% สำหรับราคาสูงกว่า $300 ต่อตัน มีผลเดือน ก.ค. (ABC, Australian Broadcasting Corporation)

UOB Kay Hian Comment – BANPU จะไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว เนื่องจากมีการขึ้นภาษีที่รัฐควีนแลนด์ แต่เหมือง CEY ของ BANPU อยู่ที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ อนาคตอาจมีโอกาสที่จะมีการบังคับใช้มายังรัฐอื่นๆ เพิ่มเติม แต่การบังคับใช้ล่าสุดในรัฐควีนแลนด์เป็นถ่านกลุ่ม Coking Coal ที่ใช้ในโรงถลุงเหล็ก ขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์จะเป็น Thermal Coal ที่ใช้ในโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นคนละชนิด

สภาพัฒน์ คาด GDP ไทยปี 56 ขยายตัว 4.3-4.5% –จากในปีนี้ที่คาดว่าจะโตได้ 3% โดยมาจากแรงหนุนการส่งออก และท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา ประมาณ 7-10 ล้านคน แต่ยังคงต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้อย่างใกล้ชิด ได้แก่ ปัญหา เงินเฟ้อในสหรัฐและสหภาพยุโรป เศรษฐกิจจีนชะลอตัว (อินโฟเควสท์)

รัฐบาลเตรียมจัดหาพลังงานทดแทน แก้ปัญหาน้ำมัน-ก๊าซราคาแพง – นายกฯ กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่ามีการพิจารณาหลายเรื่องที่เกี่ยวกับ การบริหารจัดการพลังงานในภาพรวม ไม่เจาะจงเฉพาะราคาน้ำมันที่แพงขึ้นเท่านั้น เพื่อปรับรูปแบบการใช้พลังงาน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้พลังงานจากโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์ เพื่อใช้แหล่ง พลังงานอื่นมาทดแทนกรณีค่าน้ำมันและก๊าซแพงขึ้น (อินโฟเควสท์)

เปิดรับซื้อไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะอุตสาหกรรม 100 MW – คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติรับซื้อไฟฟ้าและอัตรารับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม ในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) สำหรับปี 65 ปริมาณ 100 เมกะวัตต์ ในอัตรา 6.08 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมอัตรา Fit Premium) สําหรับผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) และกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (SCOD) ในปี 69 (อินโฟเควสท์)

หุ้นที่มีโอกาสเข้าเกณฑ์ Cash Balance – ได้แก่ RP และ GLORY (UOB Kay Hian)

Report & Corporate News

Transport, Land Upgraded OVERWEIGHT – เราคาดว่าปริมาณการจราจรและจำนวนผู้โดยสารจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับทั้ง BEM และ BTS อันเนื่องมาจากการกลับมาเป็นปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไป และนโยบายที่เอื้ออำนวยภายหลังการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. คนใหม่ นอกจากนี้ BEM จะได้รับประโยชน์จากความได้เปรียบในการแข่งขันในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขณะที่ BTS จะได้รับประโยชน์จากปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวกำลังคืบหน้า ปรับเพิ่มคำแนะนำ เป็น OVERWEIGHT โดยมี BTS เป็น Top Pick ของเรา

AOT – บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท.มีมติแต่งตั้งนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เป็นประธานกรรมการ ทอท. และนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย เป็นกรรมการ ทอท. แทน นายสราวุธ เบญจกุล โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2565 (อินโฟเควสท์)

AP – บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) เปิดเผยว่า บริษัทตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดทาวน์โฮมในเมือง ผ่านแผนพัฒนาโครงการใหม่ทั้งหมด 29 โครงการ มูลค่ารวม 25,200 ล้านบาทนับเป็นการเปิดโครงการใหม่สูงที่สุด มูลค่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 6 เท่า โดยแบ่งการเปิดตัวในครึ่งปีแรก จำนวน 13 โครงการ มูลค่า 10,160 ล้านบาท และครึ่งปีหลัง จำนวน 16 โครงการ มูลค่า 15,040 ล้านบาท ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ผ่าน 6 แบรนด์คุณภาพ ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ในระดับราคาที่คุ้มค่าที่สุด ตอบรับกับดีมานด์จริงบนสุด ยอดทำเลทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล (อินโฟเควสท์)

LEO – บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) เปิดเผยว่าบริษัทฯได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ (Strategic Cooperation Agreement ) กับ บริษัท Yunnan Tengjun Multimodal Transport Holding Ltd. ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของประเทศจีน เพื่อพัฒนาระบบบริการรถไฟสำหรับการขนส่งผลไม้และสินค้าอีคอมเมิร์ซ ระหว่างไทยและจีน (อินโฟเควสท์)

- Advertisement -