บล.ทรีนีตี้:
เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ – BJC คาดกำไรไตรมาส 2/2565 ทรงตัว QoQ ดีขึ้น YoY
- กำไรสุทธิไตรมาส 1/2565 เท่ากับ 1,246 ล้านบาท (-9.9%QoQ, +23.1%YoY) เนื่องจากการเติบโตของยอดขายในทุกกลุ่มธุรกิจ รวมถึงการฟื้นตัวของรายได้ค่าเช่าจากการให้ส่วนลดค่าเช่าลดลง
- คาดการเปิดประเทศช่วยเพิ่มยอดขายโดยรวมทั้งปีของบริษัท แต่อาจจะถูก offset ด้วยค่าเงินเฟ้อ และการแข็งค่าของค่าเงินบาท
- คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 39.80 บาท ณ ราคาปัจจุบันมี Upside ราว 22.5% Forward PE ราว 35.1 เท่า (เท่ากับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ที่ 35 เท่า)
คาดกำไรไตรมาส 2/2565 ทรงตัว แม้รายได้จากการขายจะเพิ่ม แต่มองว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจะกดดัน Gross Margin และ Net Margin
- ผู้บริหารมองว่ายอดขาย sssg ดีขึ้นใน 2Q65 ในขณะที่ CAPEX ทั้งปีลดลงเหลือ 10,000 – 11,000 ล้านบาท จากการลดแผนการเปิดสาขาใหม่ใน 2H65 และมองว่าการเติบโตของขาดขายทั้งปีจะอยู่ในระดับต่ำถึงกลาง โดยผู้บริหารมีมุมมองค่อนข้าง conservative
- โดยในปี 2565 ผู้บริหารได้ให้ความสำคับกับการบริหาร supply chain โดยเฉพาะธุรกิจบรรจุภัณฑ์ รวมถึงการบริหารต้นทุนในทุกธุรกิจ และจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ Private Label
- โดยเรามีมุมมองว่ายอดขายธุรกิจค้าปลีกดีขึ้น เนื่องจากการเปิดเรียน รวมถึงการกลับมาทำงานที่ออฟฟิศของพนักงาน หลังจากที่ work from home มานาน เนื่องจากสถาณการณ์โควิด-19 รวมถึงการเติบโตของสินค้า Private Label ที่ผู้บริหารจะผลักดันในปี 2565 (ในไตรมาส 1/2565 สัดส่วน private label เพิ่มมาเป็น 14.9% จาก 10% ของยอดขายธุกิจค้าปลีก)
- คาดเงินเฟ้อและการอ่อนค่าของค่าเงินบาทกระทบต้นทุนค่าใช่จ่ายทางด้านพลังงานและวัตถุดิบ โดยเฉพาะธุรกิจบรรจุภัณฑ์ และธุรกิจอุปโภคบริโภค
- เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 บริษัทได้มีการจ่ายปันผลจากผลกำไรดำเนินงานของบริษัทประจำปี 2564 ในอัตตราหุ้นละ 0.51 บาทต่อหุ้น
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 39.80 บาท
- คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 39.80 บาท (วิธี DCF ใช้ WACC 6.3%, TG 2.5%) ณ ราคาปัจจุบันมี Upside ราว 22.5% ระดับ Forward PE 35.1 เท่า
- ประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ราว 4,378 ล้านบาท (+22.1%YoY) เนื่องจากจะมีการขยายสาขาเพิ่มใน 2H65 ประมาณ 150 สาขา (เป็น Hypermarket 1 – 2 สาขา, Food place 5 สาขา, Big C mini 100 สาขา, Big C Cambodia 50 สาขา, Pure 7 สาขา และ Siripharma 2 สาขา)
ความเสี่ยง: โควิด-19, เงินเฟ้อ