บอร์ด NCL ไฟเขียวออกหุ้นกู้จำนวนไม่เกิน 1 พันล้านบาท อายุ 2 ปี ดอกเบี้ยประมาณ 7% รองรับการขยายธุรกิจ เป็นแหล่งเงินทุนเพื่อดำเนินกิจการ พร้อมเพิ่มทุนบริษัทย่อยเป็น 10 ล้านบาท ลงทุนในธุรกิจจัดซื้อจัดหาและธุรกิจ Fulfillment ด้านผลงานปีนี้ ตอกย้ำความมั่นใจรายได้มีโอกาสทำ New High เติบโตไม่ต่ำกว่า 50-60% จากปีก่อน

 

นายพงษ์เทพ วิชัยกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NCL เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทอนุมัติออกหุ้นกู้ จำนวนไม่เกิน 1,000 ล้านบาท หรือเงินสกุลต่างประเทศในวงเงินเทียบเท่าเงินบาทจำนวนดังกล่าว โดยประเภทของหุ้นกู้อาจเป็นหุ้นกู้ด้อยสิทธิหรือไม่ด้อยสิทธิชนิดทยอยคืนเงินต้นหรือคืนเงินต้นครั้งเดียวเมื่อครบกำหนดไถ่ถอน มีประกันหรือไม่มีประกัน มีหรือไม่มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาวะตลาดในขณะออกและเสนอขายหุ้นกู้นั้นๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ เป็นแหล่งเงินทุนเพื่อการดำเนินกิจการของบริษัท

“การออกหุ้นกู้ครั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายในประเทศหรือต่างประเทศให้แก่ประชาชนและหรือผู้ลงทุนสถาบันและหรือผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงหรือเป็นการทั่วไปและในการออก โดยเสนอขายตราสารหนี้ จะออกและเสนอขายคราวเดียวเต็มจำนวนหรือหลายคราวก็ได้ อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยประมาณร้อยละ 7 ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ไม่มีหลักประกัน โดยบริษัท จะจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/65 ในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00 น. เพื่อขออนุมัติจากผู้ถือหุ้น” นายพงษ์เทพ กล่าว

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อย ล่าสุดได้เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทจากเดิมเป็น 10,000,000 บาท มีจํานวนหุ้น 100,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 100 บาท โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นแบ่งเป็น  NCL ถือหุ้นร้อยละ 100 เพื่อประกอบธุรกิจจัดซื้อ จัดหาและธุรกิจ Fulfillment รองรับการขยายธุรกิจและเสริมสร้างฐานะทางการเงินให้มีศักยภาพเหมาะสมกับการดําเนินธุรกิจในอนาคต

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงคาดว่ารายได้ในปีนี้มีโอกาสทำ New High หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 50-60% จากปี 2564 ที่ทำได้ 1,923.89 ล้านบาท หลังธุรกิจการขนส่งระหว่างประเทศเติบโตโดดเด่น เพราะได้รับปัจจัยบวกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายและมีการผ่อนคลายในหลายๆ มาตรการ ส่งผลให้เศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศดีขึ้น

*******

- Advertisement -