ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
ฟื้นตัวต่อ ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศดูดีขึ้น
ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันจันทร์ ฟื้นตัวต่อ…. หลังจากเมื่อศุกร์ที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยบวกแรงกว่าที่เราคาด หนุนโดยแรงซื้อต่อเนื่องจากสถาบันภายในประเทศ เน้นหุ้นเชื่อมโยงธีมเศรษฐกิจภายในประเทศ… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยต่างประเทศเป็นบวก และน่าจะหนุนจิตวิทยาของตลาดให้รีบาวด์ต่อ กล่าวคือ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แรลลี่แรงเมื่อคืนวันศุกร์ หลังนักลงทุนคลายกังวลต่อเงินเฟ้อ ตัวเลข inflation expectations ที่จัดทำโดย ม.มิชิแกน เดือน มิ.ย. ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า ผนวกกับราคาน้ำมันที่ปรับฐานลงในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดมีความหวังมากขึ้นว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ผ่านจุดสูงที่สุดไปแล้ว ii) ผู้ว่าการเฟดคนสำคัญ ได้แก่ นาย James Bullard สาขาเซ็นหลุยส์ ให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีโอกาสน้อยมากที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2565 เนื่องจากฐานการใช้จ่ายบริโภคยังคงเติบโตสูง หลังจากผ่านช่วง COVID-19 มาแล้ว ทั้งนี้ค่าเงินดอลล่าร์ฯ กลับมาอ่อนเล็กน้อย และบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ทรงตัว น่าจะลดแรงกดดันต่อฟันด์โฟลว์ ซึ่งได้ปรับพอร์ตขายสุทธิหุ้นเอเชีย และหุ้นไทยค่อนข้างแรงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา… สำหรับในสัปดาห์นี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็น ตัวเลข PCE inflation พ.ค. ของสหรัฐฯ ที่จะรายงานในวันพฤหัสฯ ทั้งนี้ Consensus คาดว่า core PCE inflation จะชะลอสู่ 4.8% YoY เทียบกับ 4.9% YoY ในเดือนก่อนหน้า… ด้านปัจจัยภายในประเทศ เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ทรงตัวต่ำที่ 1,735 ราย เสียชีวิต 15 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 2,138 ราย
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน
เก็งกำไร ADVANC*, HMPRO*, TFG
- ADVANC* (เป้า Consensus 244.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 200 บาท / แนวต้าน 204 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสรีบาวน์ขึ้นทดสบแนวต้านถัดไป 210-213 บาท (Stop loss 196 บาท) 2) ประเมินการได้เป็นพันธมิตรคลื่น 700MHz กับทางบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) จะเป็นบวกต่อการแข่งขันในอุตสาหกรรมฯ (คาดเซ็นสัญญาเดือน ก.ค. นี้) 3) ราคาหุ้นพักฐาน Valuation น่าสนใจ PBV 7.95 เท่า (คิดเป็นราว -0.75 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต) ขณะที่ Consensus คาดกำไรปีหน้าฟื้น +11% YoY กลับไปยืนเหนือระดับ 3 หมื่นล้านบาท/ปี และคาด Dividend yield ปี 2565 – 66 เฉลี่ย 3.95% – 4.42% ตามลำดับ
- HMPRO* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 12.8 บาท / แนวต้าน 13.4-13.8 บาท (Stop loss 12.6 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นพักฐานแรง (คาดกังวลผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ) อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินผลการดำเนินงาน 2Q65 จะโต YoY, QoQ จาก i) การเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ii) การฟื้นตัวของภาคอสังหาฯ โดยเฉพาะคอนโดฯ iii) ราคาสินค้าเกษตรที่ปรับขึ้นแรงกว่าเงินเฟ้อ เป็นบวกต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในภาพรวม 3) Valuation ไม่แพง Forward PE ลดลงเหลือ 27 เท่า คิดเป็นราว 1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต
- TFG (เป้าพื้นฐาน 8.1 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 6.4 บาท / แนวต้าน 6.75 บาท กรณี Break แนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 7.15 บาท (Stop loss 6.0 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q – 3Q โตเด่น จาก i) การส่งออกโดยเฉพาะเนื้อไก่ที่เติบโตดี โดยมีความต้องการสั่งซื้อที่แข็งแกร่งจาก ยุโรป และมาเลเซีย ii) ราคาเนื้อสัตว์ (ทั้งหมูและไก่) ทรงตัวสูงต่อเนื่อง ชดเชยราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับขึ้นมาได้ 3) แผนการเปิดสาขาร้านขายปลีกของตัวเอง จาก 85 สาขาในสิ้นปี 2564 เป็น 200 สาขาในสิ้นปีนี้ จะเป็นอีกประเด็นที่หนุนอัตรากำไร 4) Valuation ไม่แพง Forward PE ต่ำเพียง +/-16 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลังอยู่ที่ 17 เท่า) ขณะที่คาดกำไรปีนี้โตเด่น +340% YoY
หุ้นมีข่าว
(+) PTT* เปิดตัวสารชะลอวัย (ข่าวสด) รายงานข่าวจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ปตท. เตรียมเปิดตัวสารชะลอความแก่ ที่ไม่ใช่สเต็มเซลล์ อาจใช้ชื่อว่า “มณีแดง” จากการให้ทุนคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผลิตสารมณีแดง ซึ่งจะเข้าไปในระดับ DNA เจาะกลุ่มคนรักความสวยความงาม ปัจจุบันไทยผลิตได้เพียงยาสามัญ แต่ต้องนำเข้ายาที่มีราคาสูง 70-80% อินโนบิก เจาะตลาด 4 กลุ่มสินค้า ได้แก่ ยา, อาหารอนาคต ที่เป็นสินค้าที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เช่น อาหารคนสูงวัย, อุปกรณ์และวัสดุทางการแพทย์ และระบบวิจัยโรคด้วยเทคโนโลยี
(+ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ / – กลุ่มอสังหาฯ) แบงก์ถอดโปรฯ สินเชื่อบ้าน บี้ ดบ.ลอยตัว-เลิกฟิกซ์เรต (ประชาชาติธุรกิจ) แบงก์ตั้งรับ “ดอกเบี้ยขาขึ้น” ปรับสินเชื่อบ้านยกเลิกแคมเปญ “ดอกเบี้ยคงที่” ประเมินลูกค้าซื้อบ้านช่วงไตรมาส 3 ต้องจ่ายดอกเบี้ยกู้สูงขึ้น “ซีไอเอ็มบี ไทย-กสิกรไทย-กรุงศรี-ทีทีบี” ประสานเสียงปล่อยดอกเบี้ย “ลอยตัว” ชี้กรณีขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ลูกค้ามีภาระผ่อนต่อเดือนสูงขึ้น 4-5% หวั่นความสามารถชำระหนี้ลูกค้าทรุด แถมได้วงเงินกู้น้อยลง “ธอส. ออมสิน” ชูธงตรึงดอกเบี้ยนานที่สุด
(+) BCPG* วินฟาร์มในลาวพร้อมขายไฟกันยายนนี้ (ทันหุ้น) BCPG* มั่นใจ 2 โรงไฟฟ้าพลังน้ำในสปป.ลาว สามารถขายไฟไปยังเวียดนามได้ในเดือนกันยายนนี้ หลังการก่อสร้างคืบหน้ากว่า 90% พร้อมบริหารจัดการเปลี่ยนหนี้คงค้างกับการไฟฟ้าสปป.ลาว (EDL) ให้เป็นสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้แทน ได้ประโยชน์ทั้งการรับชำระเงินที่เร็วขึ้นและสร้างรายได้ให้บริษัทในอนาคต
(+) THCOM ส่งซิกกำไรปีนี้โต พร้อมประมูลชิงดาวเทียม (ข่าวหุ้น) “ไทยคม” โชว์ปีนี้กำไรโตแน่นอน! ประเมินรายได้ 3,500-4,000 ล้านบาท และอัตรากำไรสุทธิ 10% หลังคืนสัญญาดาวเทียมแก่รัฐส่งค่าสัมปทาน-ค่าเสื่อมราคาลดลง หนุนประสิทธิภาพการทำกำไรดีขึ้น พร้อมลุยประมูลชิงวงโคจรดาวเทียมจากกสทช. คาดเปิดประมูลปีนี้มีสิทธิได้งานสูง เตรียมงบลงทุนพร้อม 6-7 พันล้านบาท
(0) SABUY ปิดเพิ่ม 2 ดีลใหญ่ ปีหน้ารายได้ 2 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) SABUY ลั่นปีหน้ารายได้ 2 หมื่นล้านบาท จากปีนี้คาดรายได้ 5-5.5 พันล้านบาท ขยับงบลงทุนเป็น 1 หมื่นล้านบาท ล่าสุดประกาศเพิ่มทุน 726.33 ล้านหุ้น ปิด 2 ดีลใหญ่ เข้าถือหุ้น iSoftel 51% รุกธุรกิจดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง และมีเดีย พร้อมถือหุ้น 50% ใน “อุ๊ปส์ เน็ตเวิร์ค” และ “เรดเฮ้าส์ ดิจิทัล” รวมถึงรองรับ SABUY-W2
หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า
- BBL* (เป้าพื้นฐาน 155 บาท) แนวรับ 133 บาท / แนวต้าน 135-138 บาท (Trailing stop 133 บาท)
- CPF* (เป้าพื้นฐาน 30.5 บาท) แนวรับ 25.75 บาท / แนวต้าน 26.5-27.5 บาท (Trailing stop 25.5 บาท)
- OTO (เป้าพื้นฐาน 16.2 บาท) แนวรับ 13.6 บาท / แนวต้าน 14.2-15.0 บาท (Trailing stop 13.0 บาท)
- M (เป้าพื้นฐาน 58 บาท) แนวรับ 51.5 บาท / แนวต้าน 53-55 บาท (Trailing stop 50 บาท)
- BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 28.0 บาท / แนวต้าน 29.5-30.0 บาท (Stop loss 27.0 บาท)
- KBANK* (เป้าพื้นฐาน 188 บาท) แนวรับ 146.5 บาท / แนวต้าน 150-152.5 บาท (Stop loss 146 บาท)
- BDMS* (เป้าพื้นฐาน 31 บาท) แนวรับ 24.6 บาท / แนวต้าน 25.25-26.5 บาท (Stop loss 24.2 บาท)
- MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 26.75 บาท) แนวรับ 21.7 บาท / แนวต้าน 22.5-23.0 บาท (Stop loss 21.1 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
- COM7* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 52 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 2Q65 = 787 ล้านบาท (+34% YoY, ทรงตัว QoQ) ประเมินราคาหุ้นที่พักฐานเป็นโอกาสสะสม โดยประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2565-66 ยังเดินหน้าทำ New high
- กลุ่มโรงไฟฟ้า น้ำหนักลงทุน “เท่ากับตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจที่ลาวเป็นความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา i) ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ (default risk) ของบริษัทที่ขายไฟฟ้าให้กับ EDL (off-taker) และ ii) การอ่อนค่าของเงินกีบลาว (LAK) โดย BCPG มีความเสี่ยงมากที่สุด ในขณะที่บริษัทที่เหลือ ซึ่งได้แก่ CKP, BPP, EGCO, RATCH, and GPSC มีความเสี่ยงไม่มากนัก ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินในระยะถัดไป มีโอกาสที่บริษัทต่างๆ จะโยกเงินลงทุนออกจากโครงการที่ลาวเป็นผู้รับซื้อไฟฟ้า